ภายใต้วิสัยทัศน์ของการท่าเรือแห่งประเทศไทยที่ "มุ่งสู่มาตรฐานท่าเรือชั้นนำระดับโลก พร้อมการให้บริการด้านโลจิสติกส์ที่เป็นเลิศ เพื่อการเติบโตอย่างยั่งยืนในปี 2573" ท่าเรือกรุงเทพซึ่งเป็นท่าเรือหลักของประเทศและเป็นศูนย์กลางการกระจายสินค้านำเข้า-ส่งออกที่สำคัญให้กับกรุงเทพมหานครและปริมณฑลจึงได้มีการพัฒนาบริการและโครงสร้างพื้นฐานท่าเรือให้มีมาตรฐานระดับโลก (World Class Port) เพื่อสนับสนุนและเป็นกลไกขับเคลื่อนระบบเศรษฐกิจและส่งเสริมขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศ โดยโครงการฯ ดังกล่าวนี้จะพลิกโฉมของท่าเรือกรุงเทพสู่งการเป็นท่าเรือ Smart Port ที่มีประสิทธิภาพ ทันสมัย ประหยัดต้นทุนและลดการปล่อยแก๊สเรือนกระจก โดยจะมีการเชื่อมโยงโครงข่ายคมนาคมและ Logistics Park โดยเฉพาะถนนทางด่วนสาย S1 ร่วมกับการพัฒนาท่าเทียบเรือ Terminal 3 ในอนาคต ทั้งนี้ วัตถุประสงค์ของโครงการฯ คือเพื่อพัฒนาการใช้ประโยชน์พื้นที่เพื่อรองรับกิจกรรมดั้งเดิมและกิจกรรมใหม่ของท่าเรือกรุงเทพ รวมทั้งแสวงหาโอกาสในการยกระดับความสามารถในการแข่งขันให้กับท่าเรือกรุงเทพ และเพิ่มประสิทธิภาพ ลดต้นทุนด้านโลจิสติกส์ต่อ GDP ของประเทศและผลกระทบสิ่งแวดล้อมจากการดำเนินงาน
ภายใต้โครงการฯ นี้ จะประกอบด้วยแนวคิดการพัฒนาพื้นที่ภายในเขตรั้วศุลกากร 138 ไร่ (220,800 ตร.ม) เป็นอาคารทรงสูง (Multilevel Warehouse) เพื่อรองรับปริมาณสินค้า/ตู้สินค้า LCL/CFS ของท่าเรือกรุงเทพที่เพิ่มมากขึ้น เช่น Free Zone ,Cold Chain Warehouse ,E-Commerce Fulfillment Center, Last-Mile Delivery, Value Added Services, Cross-Border E-Commerce เป็นต้น และพัฒนากิจกรรมท่าเรือสมัยใหม่ (New Business Venture) เพื่อรองรับพลวัฒน์การเติบโตและขยายตัวของเมือง โดยในโครงการฯ จะประกอบไปด้วยกิจกรรมการให้บริการต่างๆ เช่น คลังสินค้าทรงสูง ศูนย์เปลี่ยนถ่ายและขนส่งต่อเนื่องหลายรูปแบบ พื้นที่บริหารจัดการรถบรรทุก (Truck Terminal) และอาคาร One Stop Services (OSS) เป็นต้น เพื่อรองรับความต้องการของผู้ใช้บริการของท่าเรือกรุงเทพในอนาคต
ที่มา: ธีอ๊อกซีนี่ พีอาร์