DDD เผยรายได้จากการขายปี 66 แตะ 1,600 ล้านบาท เตรียมปิดดีลแบรนด์ชั้นนำจากโซนยุโรปและเอเชียเสริมพอร์ตไลฟ์สไตล์หนุนรายได้ปี 67

พุธ ๒๘ กุมภาพันธ์ ๒๐๒๔ ๑๔:๑๘
บริษัท ดู เดย์ ดรีม จำกัด (มหาชน) หรือ DDD ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์บำรุงผิว ผลิตภัณฑ์ดูแลช่องปาก อุปกรณ์ตกแต่งทรงผม อุปกรณ์เสริมความงาม ผลิตภัณฑ์ดูแลสุขภาพ ผลิตภัณฑ์เครื่องครัว รวมไปถึงสินค้าไลฟ์สไตล์ แบรนด์ดัง อาทิ SNAILWHITE, NAMU LIFE, OXE'CURE, SPARKLE, LESASHA, JASON, MAKAVELIC, EMJOI, BEAR, iLIFE, และ @HOME รายงานผลการดำเนินงานปี 2566 ด้วยรายได้จากการขายมูลค่า 1,587.90 ล้านบาท โดยมีรายได้จากการขายต่างประเทศที่เติบโตต่อเนื่องร้อยละ 12.46 พร้อมเปิดแผนปี 2567 เดิมเกมรุกขยายธุรกิจไลฟ์สไตล์ เตรียมปิดดีลแบรนด์ชั้นนำจากประเทศในโซนยุโรป และเอเชียภายในปีนี้
DDD เผยรายได้จากการขายปี 66 แตะ 1,600 ล้านบาท เตรียมปิดดีลแบรนด์ชั้นนำจากโซนยุโรปและเอเชียเสริมพอร์ตไลฟ์สไตล์หนุนรายได้ปี 67

นางสาวนันทวรรณ สุวรรณเดช ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ดู เดย์ ดรีม จำกัด (มหาชน) หรือ DDD เปิดเผยผลการดำเนินงานประจำปี 2566 ว่า "ในปี 2566 บริษัทฯ มีรายได้จากการขายมูลค่า 1,587.90 ล้านบาท ใกล้เคียงกับปีก่อน โดยเป็นรายได้จากธุรกิจผลิตภัณฑ์บำรุงผิวมูลค่า 829.08 ล้านบาท คิดเป็นอัตราการเติบโตร้อยละ 1.62 จากปัจจัยการปิดปรับปรุงระหว่างปีของจุดจำหน่ายบางแห่งที่อยู่ในศูนย์การค้า ซึ่งได้ทยอยเปิดศูนย์การค้าแล้วในช่วงปลายปี 2566 และการฟื้นตัวของเศรษฐกิจที่ช้ากว่าคาดการณ์ สำหรับการส่งออกผลิตภัณฑ์มีการเติบโตต่อเนื่องในอัตราร้อยละ 12.46 จากการขยายตลาดไปสู่ประเทศในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และกลุ่มเอเชียตะวันออกเพิ่มเติม

ในขณะที่ต้นทุนสินค้าและบริการสำหรับปี 2566 มีมูลค่า 584.21 ล้านบาท หรือคิดเป็นร้อยละ 36.79 ของรายได้จากการขาย โดยเพิ่มขึ้นร้อยละ 2.07 point เมื่อเทียบกับปี 2565 ที่มีต้นทุนสินค้าและบริการ 556.54 ล้านบาท หรือร้อยละ 34.72 ของรายได้จากการขาย ผลสืบเนื่องจากต้นทุนขายสินค้าในต่างประเทศที่เพิ่มสูงขึ้นจากภาวะการแข่งขันในตลาด นอกจากนี้ค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารมีมูลค่า 952.22 ล้านบาท หรือคิดเป็นร้อยละ 59.97 ของรายได้จากการขาย เพิ่มขึ้นร้อยละ 4.05 point เมื่อเทียบกับช่วงไตรมาสเดียวกันในปี 2565 ที่มีค่าใช้จ่ายในการขายและบริหาร 896.22 ล้านบาท หรือร้อยละ 55.92 ของรายได้จากการขาย โดยเพิ่มขึ้นจากค่าใช้จ่ายเกี่ยวเนื่องกับการเปิดตัวแบรนด์สินค้าใหม่และกิจกรรมส่งเสริมการขายเพื่อกระตุ้นยอดขาย ทั้งนี้ บริษัทฯ คงนโยบายควบคุมค่าใช้จ่ายตามแผน Synergy Roadmap ภายในกลุ่มบริษัทโดยเฉพาะอย่างยิ่งด้านคลังสินค้าและค่าใช้จ่ายด้านการขายเพื่อลดความซ้ำซ้อนและเพิ่มประสิทธิภาพการดำเนินงานภายในกลุ่มของบริษัทอย่างต่อเนื่อง

สำหรับแนวโน้มการดำเนินงานในปี 2567 บริษัทฯ มุ่งเน้นการนำเสนอผลิตภัณฑ์และแบรนด์สินค้าใหม่ครอบคลุมถึงผลิตภัณฑ์เสริมความงามและไลฟ์สไตล์อย่างต่อเนื่อง พร้อมเปิดแบรนด์ชั้นนำใหม่จากประเทศในแถบยุโรปและเอเชีย เสริมทัพแบรนด์ "MAKAVELIC" (มาคาเวลิค) แบรนด์กระเป๋า Luxury Street Fashion ชื่อดังจากประเทศญี่ปุ่นที่เปิดตัวเมื่อปลายปี 2566         ที่ผ่านมาและมีกระแสการตอบรับจากลูกค้าอย่างล้นหลาม"

ที่มา: เดอะเวย์ คอมมิวนิเคชั่น

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๑๘:๓๓ COM7 เดินหน้าเต็มสปีด EV7 ส่งมอบแท็กซี่ไฟฟ้าล็อตแรก ดันเมกะเทรนด์ EV สู่หัวใจเมือง
๑๘:๓๖ GCAP ประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2568 ไฟเขียวผ่านฉลุยทุกวาระ พร้อมเดินหน้าแผนธุรกิจขยายสู่กลยุทธ์ Non Lending
๑๘:๔๔ PYLON จัดประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2568 ผู้ถือหุ้นไฟเขียวจ่ายปันผล 0.04 บาท/หุ้น
๑๘:๓๙ LDC จัดประชุมสามัญผู้ถือหุ้น ประจำปี 2568 มุ่งเป็นคลินิกทันตกรรมพรีเมียม ในราคาที่เข้าถึงง่าย
๑๘:๑๒ ผู้ถือหุ้น TATG ไฟเขียวจ่ายปันผล 0.07 บาท/หุ้น ลงทุนเครื่องจักรใหม่เสริมแกร่งสายการผลิต พิชิตเป้ารายได้ 3,000
๑๘:๕๗ ADVICE จัดประชุมสามัญผู้ถือหุ้นรูปแบบ Hybrid ประจำปี 2568 ผถห.ไฟเขียวทุกวาระ เคาะแจกปันผล 0.175 บ./หุ้น
๑๘:๓๖ LE ร่วมงานสถาปนิก'68 โชว์นวัตกรรมแสงสว่างอัจฉริยะ เสริมภาพผู้นำ Lighting Solutions Provider
๑๘:๔๖ SELIC จัดประชุมสามัญผู้ถือหุ้น ปี 2568 ผู้ถือหุ้นเห็นชอบทุกวาระ อนุมัติจ่ายปันผล 0.038 บาท/หุ้น เดินหน้า 3 ธุรกิจ
๑๘:๔๙ STA เปิดบ้านต้อนรับภาครัฐ โชว์มาตรฐานรับซื้อยางโปร่งใส เป็นธรรม หนุนรัฐต้านยางเถื่อน
๑๘:๓๕ กรมพัฒนาฝีมือแรงงาน จับมือเอกชน ปั้นช่างเชื่อมโกอินเตอร์ รายได้ทะลุ 70,000 บาทต่อเดือน