KIAT เชื่อมั่นตลาดขนส่งวัตถุอันตรายยังสดใส ดันเป้ารายได้เติบโต 21.4% ในปีนี้

พุธ ๒๘ กุมภาพันธ์ ๒๐๒๔ ๑๕:๐๒
KIAT เชื่อมั่นตลาดขนส่งวัตถุอันตรายยังสดใส ดันเป้ารายได้เติบโต 21.4% ในปีนี้
KIAT เชื่อมั่นตลาดขนส่งวัตถุอันตรายยังสดใส ดันเป้ารายได้เติบโต 21.4% ในปีนี้
  • เร่งพัฒนาธุรกิจดาวรุ่งเพื่อกระตุ้นรายได้เข้าสู่เป้าหมาย
  • รุกตีตลาดการขนส่งทางรางเพิ่มช่องทางขนส่งไปยังประเทศเพื่อนบ้าน ผสมผสานธุรกิจขนส่งแบบไร้รอยต่อ

บมจ.เกียรติธนา ขนส่ง หรือ KIAT ผู้นำในการให้บริการด้านการขนส่งวัตถุอันตรายและสินค้าพิเศษที่เน้นความปลอดภัยสูง เชื่อมั่นตลาดขนส่งวัตถุอันตรายยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่อง ดันเป้ารายได้เติบโต 21.4% ในปีนี้ ในขณะที่รายได้โดยรวมปีนี้หดตัว 10.6% จาก 926.3 ล้านบาทเมื่อปีที่แล้ว มาเป็น 827.9 ล้านบาทในปีนี้ เนื่องจากยอดจำหน่ายเคมีภัณฑ์ที่ลดลง

นางสาวมินตรา มนต์เสรีนุสรณ์ กรรมการผู้จัดการ KIAT เปิดเผยผลการดำเนินงานประจำปี พ.ศ. 2566 รายงานต่อตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยว่าปีที่ผ่านมา รายได้จากการดำเนินงานหดตัว 10.6% เนื่องจากรายได้จากธุรกิจจำหน่ายเคมีภัณฑ์ที่ลดลง ตามปริมาณการผลิตของลูกค้าที่ลดลง

อย่างไรก็ตาม ในปีนี้ ทาง KIAT เชื่อมั่นว่าภาคขนส่งวัตถุอันตรายในปีนี้จะยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่อง ซึ่งเป็นผลมาจากการลงทุนย้ายฐานการผลิตของธุรกิจจากประเทศสาธารณรัฐประชาชนจีน โดยเฉพาะการผลิตรถยนต์ไฟฟ้า ในขณะที่เศรษฐกิจโลกเริ่มทยอยฟื้นตัวอย่างต่อเนื่อง ส่งผลต่อภาคการส่งออกที่มีโอกาสเติบโตในปีนี้ อีกทั้งความต้องการใช้น้ำมันและก๊าซในประเทศมีแนวโน้มขยายตัวทั้งในภาคขนส่งและภาคครัวเรือน ประกอบกับการประมูลงานขนส่งวัตถุอันตรายใหม่ ๆ ที่กำลังจะเกิดขึ้นในปี 2567 นี้

"ปัจจัยเหล่านี้ ทำให้เรามั่นใจว่าเรามีศักยภาพที่จะเติบโตได้ดีในปีนี้ ทั้งนี้เพราะ KIAT ถือเป็นตัวเลือกอันดับต้น ๆ ของลูกค้าเนื่องจากประสบการณ์อันยาวนานถึง 30 ปีในธุรกิจนี้ อีกทั้งในตลาดขนส่งวัตถุอันตรายยังผู้เล่นน้อยราย ทำให้การแข่งขันไม่รุนแรงมาก และธุรกิจขนส่งวัตถุอันตราย ลูกค้ามีความต้องการใช้ผู้มีประสบการณ์ ทำให้ผู้เล่นรายใหม่อาจจะเข้าสู่ตลาดไม่ง่าย" นางสาวมินตรา กล่าว

ทางด้านนายเมฆ มนต์เสรีนุสรณ์ รองกรรมการผู้จัดการด้านการตลาดและพัฒนาธุรกิจ KIAT เปิดเผยว่านอกจากการรักษาตลาดเดิมและหาตลาดใหม่ ๆ ในธุรกิจขนส่งวัตถุอันตรายแล้ว ทางบริษัทฯ ได้กำหนดเป้าหมายในการพัฒนาธุรกิจที่มีศักยภาพในการเติบโตเพื่อสร้างรายได้ให้เติบโตตามเป้าหมายที่ 21.4% ในปีนี้ ได้แก่ การรุกธุรกิจ Freight Forwarding การผลักดันสินค้าเทคโนโลยีตรวจจับพฤติกรรมพนักงานขับรถ และขยายการขนส่งระบบราง นำโดย เคที เทรน (KTT) ภายใต้การดูแลของ KIAT ตีตลาดการขนส่งทางราง โดยเล็งเห็นโอกาสในตลาดการขนส่งทางราง ซึ่งถือเป็นธุรกิจที่มีศักยภาพในการเจริญเติบโตอย่างมาก โดยขณะนี้รัฐบาลกำลังเร่งดำเนินการก่อสร้างระบบรถไฟรางคู่ ประกอบกับ KIAT สามารถผสมผสานธุรกิจขนส่งทางบกร่วมกับขนส่งทางราง นอกจากต้นทุนการขนส่งระบบรางจะสามารถแข่งขันได้ในตลาดแล้ว การขนส่งยังมีความแม่นยำ เนื่องจากมีตารางเวลาในการขนส่งที่แน่นอน ความปลอดภัยสูง และลูกค้าภาคธุรกิจยังสามารถนำไปคำนวณคาร์บอนเครดิต ซึ่งเป็นกระแสทั่วโลกในขณะนี้

"การขนส่งทางรางเป็นโอกาสของผู้ประกอบทั้งในด้านการลดต้นทุน ความปลอดภัย อีกทั้งยังได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาลอย่างเต็มกำลัง ซึ่ง KIAT มองเห็นโอกาสดังกล่าว และได้เดินหน้าแผนขยายการให้บริการขนส่งทางรางรถไฟ ด้วยสัญญางานขนส่งเกลือบริสุทธิ์ โดยเป็นการขนส่ง ซึ่งเป็นวัตถุดิบหลักในการผลิตสารคลอร์-อัลคาไล ให้กับ บริษัท เออีซี วีนิไทย จำกัด (มหาชน) ผู้ผลิตและจำหน่าย โซดาไฟ ผงพีวีซี และอีพิคลอโรไฮดรินฐานชีวภาพให้แก่อุตสาหกรรมและตลาดเกิดใหม่ในประเทศต่าง ๆ โดยใช้การขนส่งทางรถไฟเป็นหลัก 60% และขนส่งทางรถบรรทุก 40%" นายเมฆ กล่าว

ในส่วนของเทคโนโลยีตรวจจับพฤติกรรมพนักงานขับรถ (Guardian System) ซึ่งเป็นระบบการตรวจจับพฤติกรรมพนักงานขับรถแบบ Real Time เพื่อลดอุบัติเหตุบนท้องถนนและหลีกเลี่ยงความสูญเสียในสินค้าและทรัพย์สินของลูกค้า โดยปีนี้ KIAT กำหนดทิศทางการทำตลาดไปยังหน่วยงานที่มีความจำเป็นในการใช้เทคโนโลยีด้านความปลอดภัยชั้นสูง เช่น ภาคการขนส่งพลังงาน สารเคมี และรถโดยสารสาธารณะ เป็นต้น เพื่อยกระดับความปลอดภัยบนท้องถนน

"Guardian System เราเป็นตัวแทนจำหน่ายแต่ผู้เดียวในประเทศไทย ปีนี้ขึ้นปีที่ 8 ได้รับความไว้วางใจจากลูกค้าองค์กรที่เน้นการขนส่งด้วยความปลอดภัยสูง ปัจจุบันมีรถบรรทุกที่ติดตั้ง Guardian System ไปแล้วมากกว่า 2,000 คัน โดยมีบริษัทชั้นนำที่นำ Guardian System ไปใช้ทั้งทางตรงและทางอ้อม ได้แก่ PTTOR , Air Liquide, MK Restaurant เป็นต้น" นายเมฆ กล่าว

ที่มา: 24 คูณ 7

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๑๐:๔๙ ไอแบงก์ ลงนาม MOU สินเชื่อสวัสดิการแก่ข้าราชการและลูกจ้างประจำ สำนักงานศาลยุติธรรม กว่า 16,000 คน ทั่วประเทศ
๑๐:๕๔ รวม 4 วิธีที่ช่วยปรับให้รถที่ขับอยู่นุ่มนวลขึ้นเหมือนได้คันใหม่
๑๐:๔๘ ซีพีแรม เปิดตัว FTEC (Food Technology Exchange Center) ศูนย์ความร่วมมือและแลกเปลี่ยนเทคโนโลยีอาหาร
๑๐:๑๔ iQIYI (อ้ายฉีอี้) เดินหน้ารุกตลาดยกระดับวงการ จัดงาน iQIYI 2025 World Conference เปิดตัวพรีเมียมไลน์อัพกว่า 400
๑๐:๑๓ บล.เกียรตินาคินภัทร แนะ 5 หุ้นนอกคุณภาพ นำโดย Netflix และ Mastercard คว้าโอกาสท่ามกลางตลาดผันผวน
๑๐:๓๖ อบอุ่นมาก! จิม ทอมป์สัน x ซี-นุนิว เสิร์ฟความฟินขั้นสุดกับ Exclusive Lucky Fan Dinner ค่ำคืนสุดพิเศษที่เหล่า ซนซน
๑๐:๕๓ เวียตเจ็ทเสริมฝูงบิน เดินหน้ารุกตลาดญี่ปุ่น ขยายเส้นทางระหว่างประเทศ หนุนแผนเติบโตปี 2568
๑๐:๕๖ เบทาโกร ได้รับการยกระดับ CAC ในระดับสูงสุด ตอกย้ำการดำเนินธุรกิจด้วยหลักธรรมาภิบาล ซื่อสัตย์ และโปร่งใส
๐๙:๓๖ เฮ้าส์ สามย่าน จัดสองเทศกาลภาพยนตร์คุณภาพ กับ MOVIEMOV Italian Film Festival 2025 และ European Union Film Festival
๐๙:๑๑ จากไอดอลสู่หมอผี! ซอฮยอนฟาดหนัก เสิร์ฟความเดือด Holy Night: Demon Hunters คนต่อยผี 8 พ.ค.นี้