ไทยลุยยกระดับมาตรการควบคุมนำเข้าปลากะพงขาวจากมาเลเซีย

พุธ ๐๖ มีนาคม ๒๕๖๗ ๑๓:๔๘
ไทยลุยยกระดับมาตรการควบคุมนำเข้าปลากะพงขาวจากมาเลเซีย จากการตรวจพบยาปฏิชีวนะตกค้างในปลากะพงขาวแช่เย็นนำเข้าจากมาเลเซีย
ไทยลุยยกระดับมาตรการควบคุมนำเข้าปลากะพงขาวจากมาเลเซีย

สำนักงานมาตรฐานสินค้าเกษตรและอาหารแห่งชาติ (มกอช.) ร่วมกับกรมประมง จึงได้ประกาศยกระดับมาตรการควบคุมการนำเข้าตั้งแต่วันที่ 1 มีนาคม 2567 เป็นต้นไป ต้องมีผลการตรวจวิเคราะห์ (Certificate of Analysis: COA) ที่แสดงว่า ปลอดสารตกค้างประกอบการขออนุญาตนำเข้า เพราะหวั่นเป็นอันตรายต่อผู้บริโภค

นายพิศาล พงศาพิชณ์ เลขาธิการ มกอช. กล่าวว่า จากประเด็นดังกล่าว ทางฝ่ายมาเลเซียได้ขอหารือเพื่อร่วมวางมาตรการควบคุมการนำเข้า โดย มกอช. ได้มอบหมายให้นางสาวรวินันท์ ฉ่ำเฉลิม ผู้อำนวยการกองนโยบายมาตรฐานสินค้าเกษตรและอาหาร เป็นหัวหน้าคณะฝ่ายไทย ร่วมกับผู้แทนจากกรมประมง ในการประชุมเชิงเทคนิคกับกระทรวงสาธารณสุขมาเลเซีย

ในการประชุมดังกล่าว ฝ่ายไทยได้อธิบายรายละเอียดในการยกระดับมาตรการควบคุมการนำเข้า ประกอบด้วยขั้นตอนการนำเข้าและมาตรการที่จะใช้ในอนาคต หากยังตรวจพบสารเคมีตกค้างในสินค้าปลากะพงขาวจากมาเลเซียอีก ซึ่งฝ่ายมาเลเซียรับทราบ และขอให้ไทยเลื่อนกำหนดเวลาการบังคับใช้มาตรการดังกล่าวออกไปอีก 6 เดือน แต่ฝ่ายไทยยืนยันความจำเป็นที่ต้องเริ่มบังคับใช้ทันที เพื่อปกป้องผู้บริโภคภายในประเทศ และยินดีจะหารือกับฝ่ายมาเลเซีย เพื่อจัดทำแนวทางการควบคุมความปลอดภัยอาหารในสินค้านำเข้าและส่งออกร่วมกันต่อไป

"มาตรการใหม่นี้จะเริ่มบังคับใช้ในวันที่ 1 มีนาคม 2567 โดยผู้นำเข้าปลากะพงขาวจากมาเลเซียต้องมีหนังสือรับรองผลการตรวจวิเคราะห์สารตกค้าง (Certificate of Analysis: COA) ที่แสดงว่าปลอดจากการตกค้างของสารเคมี 4 กลุ่ม ได้แก่ Chloramphenicol, Malachite Green, Nitrofuran Metabolite และยาปฏิชีวนะกลุ่ม Fluoroquinolone & Quinolone ซึ่งหากไม่มีหนังสือรับรองดังกล่าวประกอบการนำเข้า สินค้าจะต้องถูกอายัดที่ด่านนำเข้าเพื่อรอผลตรวจวิเคราะห์ทุกล็อต หากตรวจไม่พบสารตกค้าง จึงจะสามารถนำเข้าได้" เลขาธิการ มกอช. กล่าว

ทั้งนี้ การตรวจพบสารตกค้างจะมีผลต่อผู้นำเข้า ดังนี้ 1. มีความผิดตาม พ.ร.บ.อาหาร 2522 มาตรา 28 นำเข้าอาหารผิดมาตรฐานเพื่อจำหน่าย ลงโทษตามมาตรา 60 ปรับไม่เกิน 50,000 บาท2. การนำเข้าสินค้าในครั้งต่อไป หลังผลตรวจวิเคราะห์พบสารตกค้าง สินค้าจะต้องถูกอายัดเพื่อรอผลการตรวจวิเคราะห์ หากผลตรวจผ่านจึงจะนำไปจำหน่ายได้ หากไม่ผ่านจะถูกทำลายหรือดำเนินการตามที่เหมาะสม 3. หากพบสารตกค้าง 3 ตัวอย่าง นับรวมตั้งแต่ 1 ตุลาคม 2566 ถึงปัจจุบัน อาจถูกเพิกถอนหรือถูกพักใช้ใบอนุญาต อ.7 (การขออนุญาตนำหรือสั่งอาหารเข้ามาในราชอาณาจักร) จะส่งผลให้ไม่สามารถขออนุญาตนำเข้าส่งออกสินค้าต่อไปได้

ที่มา: สำนักงานมาตรฐานสินค้าเกษตรและอาหารแห่งชาติ

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๑๖:๕๒ คณะ กิจกรรม วิศวฯ ม.เกษตรศาสตร์ จับมือ อัลเตอร์วิม ร่วมวิจัย-พัฒนาขีดความสามารถเชิงธุรกิจ ด้านพลังงานหมุนเวียนและระบบกักเก็บพลังงาน
๑๖:๐๖ กรุงศรีออกมาตรการช่วยเหลือ ลดดอกเบี้ยเงินกู้ 0.25% ให้ลูกค้ากลุ่มเปราะบาง เป็นเวลา 6 เดือนตอบรับแนวทางการช่วยเหลือของสมาคมธนาคารไทย
๑๖:๒๙ Lexar Professional CFexpress 4.0 Type B Card DIAMOND คว้ารางวัล BEST STORAGE MEDIA ในงาน TIPA WORLD AWARDS
๑๖:๔๔ ฟอร์ติเน็ต ร่วมมือ สกมช. คัดเลือก-ฝึกอบรมเสริมทักษะบุคลากรคลาวด์ เล็งเพิ่มทรัพยากรบุคคล เสริมความมั่นคงปลอดภัยบนคลาวด์ทุกรูปแบบ
๑๖:๒๙ ไอ-เทล รายงานผลประกอบการประจำไตรมาสแรก แข็งแกร่งด้วย รายได้กว่า 4 พันล้าน กำไรเพิ่ม 93 เปอร์เซ็นต์ มุ่งการเติบโตต่อเนื่องตลอดปี
๑๖:๒๒ หมอแม็ค แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านการปลูกผมของไทย
๑๖:๐๗ ทรูเวฟ (ประเทศไทย) เปิดตัว GreenFarm.AI ผู้ช่วยคนใหม่ที่จะทำให้สวนเติบโตสวยและยั่งยืนได้ดั่งใจ
๑๖:๕๐ ไบเทคบุรี เมกะโปรเจกต์ของภิรัชบุรี กรุ๊ป พลิกโฉม ไบเทค บางนา ก้าวข้ามอุตสาหกรรม MICE สู่สถานที่แห่งไลฟ์สไตล์ครบวงจร
๑๖:๕๒ ดีมันนี่ ตอกย้ำความสำเร็จในงาน Money 20/20 Asia ในฐานะผู้บุกเบิกโซลูชัน โอนเงินไปต่างประเทศชั้นนำในวงการฟินเทคไทย
๑๖:๕๔ สบยช. ยืนยัน ชาเม่ คอลลาเจน ไม่มีสารเสพติด