นายปรีชาพล เวชรักษ์ ผู้จัดการทั่วไป บริษัท ลิวกง ยนต์ตระการ จำกัด ผู้แทนจำหน่ายเครื่องจักรกลหนักแบรนด์ลิวกง (LiuGong) ในประเทศไทย เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 15 มีนาคม 2567 ที่ผ่านมา บริษัทฯ ได้จัดงาน LIUGONG ONE FOR ALL INDUSTRIES เพื่อแถลงถึงกลยุทธ์และเป้าหมายในประเทศไทย หลังจากทำยอดขายเครื่องจักรกลหนักทุกประเภทในปี 2566 รวมกว่า 780 ล้านบาท เพิ่มขึ้นกว่า 5 เท่าตัวจากปี 2565 ซึ่งเป็นการเติบโตสวนทิศทางตลาดเครื่องจักรกลหนักของประเทศไทยที่หดตัวลงถึง 40% เหตุผลสำคัญเพราะลูกค้ามีความเชื่อมั่นในแบรนด์ลิวกงว่าเป็นสินค้าคุณภาพในราคาที่เข้าถึงได้ โดยเฉพาะกลุ่มรถตักล้อยางที่ลิวกงเป็นผู้นำตลาดของไทยด้วยมาร์เก็ตแชร์กว่า 40%
"ทิศทางแผนการตลาดปี 2567 บริษัทตั้งเป้ายอดขายรวมสิ้นปี 2567 ไว้ที่ 1,500 ล้านบาท หรือ เติบโตเพิ่มขึ้น 2 เท่าตัวจากปีที่ผ่านมา โดยตลาดเป้าหมายหลัก คือ 1.กลุ่มงานก่อสร้างที่เกี่ยวข้องกับโครงสร้างพื้นฐาน อาทิ ก่อสร้างถนน สะพาน เขื่อน และระบบชลประทาน 2.กลุ่มงานเหมืองและโรงโม่ 3.กลุ่มโรงงานน้ำตาล ที่มีตั้งแต่เครื่องจักรกลสำหรับตัดอ้อย เก็บอ้อย จนถึงขนส่งเข้าโรงงาน ซึ่งแบรนด์ลิวกงมีผลิตภัณฑ์คุณภาพดี ราคาเข้าถึงได้ และมีครบสำหรับทุกอุตสาหกรรม" นายปรีชาพลกล่าว
นอกจากนี้บริษัทฯ ยังเน้นพัฒนาการให้บริการ โดยมุ่งเชื่อมต่อเครือข่ายงานบริการและซ่อมบำรุงให้เข้าถึงลูกค้าอย่างใกล้ชิดและรวดเร็วยิ่งขึ้น ปัจจุบันมีศูนย์บริการและกระจายสินค้า 24 แห่ง กระจายในทุกพื้นที่สำคัญทั่วประเทศ แบ่งเป็นโซนภาคเหนือ 8 แห่ง ได้แก่ เชียงใหม่ ลำปาง น่าน สุโขทัย พิษณุโลก กำแพงเพชร เพชรบูรณ์ นครสวรรค์ โซนภาคอีสาน 7 แห่ง ได้แก่ นครราชสีมา ขอนแก่น บุรีรัมย์ สุรินทร์ อุบลราชธานี อุดรธานี มุกดาหาร โซนภาคกลางและตะวันออก 5 แห่ง ได้แก่ อยุธยา สมุทรปราการ ระยอง ราชบุรี กาญจนบุรี และ โซนภาคใต้ 4 แห่ง ได้แก่ สงขลา ภูเก็ต สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช และได้ทำโครงการ Operation Relation Management (ORM) เพื่ออบรมให้คนขับมีความรู้ความเข้าใจในการใช้งานที่ถูกวิธี และเทคนิคการดูแลซ่อมบำรุงเครื่องจักรกลเบื้องต้น อาทิ การตรวจเช็คน้ำมันเครื่อง ระบบไฮดรอลิก หม้อน้ำ เพื่อให้สามารถใช้งานได้ต่อเนื่อง และยืดอายุการใช้งานได้มากขึ้น
ทั้งนี้ บริษัท ลิวกง ยนต์ตระการ จำกัด พร้อมที่จะรุกตลาดเครื่องจักรกลหนักในประเทศไทยแบบครบวงจร ด้วยผลิตภัณฑ์แบบ FULL LINE OF PRODUCTS กว่า 30 ประเภท อาทิ รถตักล้อยาง รถขุด รถบด รถเกรด รถดันดิน รถปูถนน รถไสถนน แพลนท์ยางมะตอย รถบรรทุกงานเหมือง แท่นขุดเจาะ รถโฟล์คลิฟท์ รถกระเช้า รถตัดอ้อย รถแทรกเตอร์ และรถทรัคเครน ฯลฯ สามารถรองรับผู้ใช้งานทุกกลุ่ม ตั้งแต่ก่อสร้างทั่วไป ก่อสร้างอาคารสูงขนาดใหญ่ ก่อสร้างสะพาน โครงการเมกะโปรเจกต์ รวมถึงงานของภาคอุตสาหกรรม ภาคการเกษตร เป็นต้น มีให้เลือกทั้งแบบเครื่องจักรกลที่ใช้น้ำมันและใช้พลังงานไฟฟ้า (EV) และมีศูนย์บริการและกระจายสินค้า 24 แห่งทั่วประเทศ พร้อมทีม Call Center ให้บริการตลอด 24 ชั่วโมง
ที่มา: Rippleeffect
