รายงาน HID เผย Mobile ID การยืนยันตัวตนแบบหลายขั้นตอน และความยั่งยืน สำคัญเป็นอันดับต้นๆ และ AI ได้ถูกกล่าวถึงเป็นครั้งแรก

พฤหัส ๒๑ มีนาคม ๒๕๖๗ ๑๗:๑๒
HID ผู้นำระดับโลกด้านโซลูชันการระบุตัวตนได้เผยแพร่ผลรายงาน State of the Security Industry Report ประจำปี 2567 ที่เกี่ยวกับอุตสาหกรรมด้านความปลอดภัย โดยรวบรวมความคิดเห็นจากพันธมิตรทางธุรกิจ ผู้ใช้งาน และบุคลากรด้านความปลอดภัยและไอที ในตำแหน่งต่างๆ จำนวน 2,600 คน ในทวีปต่างๆ รวมทั้งเอเชียแปซิฟิก และทำงานอยู่ในองค์กรหลากหลายขนาดกว่า 11 อุตสาหกรรม
รายงาน HID เผย Mobile ID การยืนยันตัวตนแบบหลายขั้นตอน และความยั่งยืน สำคัญเป็นอันดับต้นๆ และ AI ได้ถูกกล่าวถึงเป็นครั้งแรก

รายงาน State of Security Report ประจำปี 2567 ได้เจาะลึกเรื่องข้อกังวลที่เป็นตัวขับเคลื่อนการพัฒนานวัตกรรมและเทคโนโลยีเพื่อช่วยจัดการกับข้อกังวลดังกล่าว พร้อมเสนอแนะให้ผู้บริหารที่ดูแลด้านความปลอดภัยปรับตัวเพื่อรับมือกับความท้าทายต่างๆ ที่กำลังเกิดขึ้น การสำรวจได้จัดทำขึ้นเมื่อปลายปี 2566 ที่ผ่านมา โดยเผยถึง 6 ประเด็นสำคัญดังนี้

1.การยืนยันตัวตนผ่านโทรศัพท์มือถือ (Mobile ID) จะแพร่หลายมากในอีกห้าปีข้างหน้า

โทรศัพท์มือถือที่ใช้กันอย่างแพร่หลาย ได้ผลักดันให้มีการใช้งานด้านการระบุและยืนยันตัวตนอย่างต่อเนื่อง ผู้ใช้งานที่ตอบแบบสำรวจระบุว่า เกือบ 80% ขององค์กรจะใช้โทรศัพท์มือถือในการยืนยันตัวตนภายในเวลา 5 ปีข้างหน้า ในส่วนของของพันธมิตรในอุตสาหกรรมก็มีมุมมองในเชิงบวกมากขึ้น โดยระบุว่า 94% ของลูกค้าจะใช้งาน Mobile ID ในระยะเวลาเดียวกัน

 2.การยืนยันตัวตนแบบหลายขั้นตอน (MFA) กำลังเป็นที่แพร่หลาย แม้ว่าการใช้งาน Zero Trust จะเติบโตอย่างช้าๆ

ผู้ตอบแบบสำรวจที่เป็นผู้ใช้งานกว่า 83% กล่าวว่า ปัจจุบันองค์กรของตนใช้การยืนยันตัวตนแบบหลายขั้นตอน (MFA) สาเหตุหลักมาจากช่องโหว่ของการใช้รหัสผ่าน ที่หลายๆ คน มองว่าเป็นก้าวแรกบนเส้นทางสู่ Zero Trust ซึ่งเป็นแนวคิดด้านความปลอดภัยที่เรียกร้องให้องค์กรใช้มาตรการที่เข้มงวดก่อนอนุมัติการเข้า-ออกอาคาร และไม่ไว้วางใจสิ่งใดๆเลย โดยจะตั้งค่าเริ่มต้นให้ตรวจสอบผู้ใช้งานทุกคนเสมอ ไม่ว่าจากภายในหรือภายนอกระบบ การสำรวจยังพบว่า 16% ขององค์กรที่มีพนักงานมากกว่า 100,000 คน และ 14% ขององค์กรที่มีพนักงานไม่เกิน 10,000 คนได้นำ Zero Trust ไปใช้งานแล้ว ข่าวดีก็คือ มีแนวโน้มของการใช้งาน Zero Trust ที่เพิ่มมากขึ้น โดย 24% ขององค์กรที่มีพนักงานมากกว่า 100,000 คนกำลังอยู่ในขั้นตอนการนำ Zero Trust ไปใช้

การใช้ MFA ที่แพร่หลายมากขึ้น จะทำให้การใช้รหัสผ่านสิ้นสุดลง นอกจากนี้ การกำหนดมาตรฐานใหม่ เช่น FIDO (Fast Identity Online) ซึ่งใช้เทคนิคการเข้ารหัสแบบกุญแจสาธารณะเพื่อป้องกันการโจมตีหรือหลอกลวงให้ผู้ใช้เปิดเผยข้อมูลการเข้าถึง จะเป็นแนวทางสำหรับการพัฒนาระบบใหม่ๆ เพื่อการยืนยันตัวตนที่ปลอดภัยมากยิ่งขึ้น ซึ่งจะเป็นส่วนหนึ่งของสถาปัตยกรรม Zero Trust

3.ความยั่งยืนมีบทบาทมากขึ้น ในการตัดสินใจทางธุรกิจ

ผู้ตอบแบบสำรวจของ HID มองว่าความยั่งยืนยังคงมีความสำคัญทางธุรกิจในอันดับต้นๆ โดยทั้งผู้ใช้งานและพันธมิตรต่างให้คะแนนความสำคัญที่ระดับ "4" จากระดับ 1 ถึง 5 นอกจากนี้ 74% ของผู้ใช้งานระบุว่าความยั่งยืนมีความสำคัญเพิ่มมากขึ้นในช่วงปีที่ผ่านมา และ 80% ของพันธมิตรก็ได้เผยว่า ลูกค้าให้ความสำคัญกับความยั่งยืนเพิ่มมากขึ้นเช่นกัน

ด้วยเหตุนี้ การใช้โซลูชันที่ช่วยลดการใช้พลังงาน ลดขยะและของเสีย และเพิ่มประสิทธิภาพการใช้ทรัพยากรจะยังเป็นสิ่งที่ธุรกิจต้องให้สำคัญอย่างต่อเนื่อง การเปลี่ยนไปใช้โซลูชันที่ทำงานผ่านระบบคลาวด์และการใช้งานอุปกรณ์เคลื่อนที่ให้มากขึ้นเป็นสองกลยุทธ์หลักในการบรรลุเป้าหมายด้านความยั่งยืนดังกล่าว

4.การยืนยันตัวตนด้วยไบโอเมตริกซ์ยังคงเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง

ผลสำรวจประจำปีนี้ยังเผยว่า 39% ของผู้ให้บริการระบบและโซลูชันด้านความปลอดภัยกล่าวว่า ลูกค้ามีการใช้ลายนิ้วมือหรือลายฝ่ามือแล้ว และ 30% ให้ข้อมูลว่าใช้การจดจำใบหน้า ดังนั้น การใช้ไบโอเมตริกซ์จึงยังคงเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง เนื่องจาก 8% วางแผนที่จะทดสอบหรือนำไบโอเมตริกซ์บางรูปแบบไปใช้ในปีถัดไป และ 12% วางแผนที่จะดำเนินการดังกล่าวในช่วง 3-5 ปีข้างหน้านี้

5.การจัดการข้อมูลระบุตัวตนด้วยระบบคลาวด์

ผู้ใช้งานที่ตอบแบบสำรวจเกือบครึ่งหนึ่งกำลังเปลี่ยนไปใช้การจัดการข้อมูลระบุตัวตนผ่านระบบคลาวด์ โดย 24% ได้เริ่มใช้งานแล้ว และอีก 24% อยู่ในขั้นตอนการนำระบบดังกล่าวไปใช้

พันธมิตรในอุตสาหกรรมกล่าวว่า ลูกค้าของตนเผชิญกับอุปสรรคหลายประการในประเด็นนี้ รวมถึงการที่ยังคงต้องพึ่งพาอุปกรณ์เดิม/อุปกรณ์ที่ติดตั้งภายในองค์กร (28%) การขาดงบประมาณ (24%) และการที่การระบุตัวตนผ่านระบบคลาวด์ไม่ใช่ประเด็นสำคัญอันดับแรกๆ ทางธุรกิจ (21%)

6.มีการใช้ปัญญาประดิษฐ์ (AI) เพื่อจัดเก็บและวิเคราะห์ข้อมูล (analytics) มากขึ้น

AI ได้เข้ามามีบทบาทอย่างมากในภาคธุรกิจ และผู้ให้บริการด้านความปลอดภัยจำนวนมากมองว่าสามารถเข้าถึงและใช้ประโยชน์จาก AI ในการจัดเก็บและวิเคราะห์ข้อมูลได้ไม่ยาก

ดังนั้น แทนที่จะมุ่งใช้ AI กับระบบความปลอดภัยทั้งหมด สิ่งที่อาจทำได้คือการใช้งานด้าน analytics ของ AI ช่วยให้เกิดผลลัพธ์ในทันที ภายใต้สถานการณ์นี้ ผู้ใช้งาน 35% มีแผนที่จะใช้ประโยชน์จาก AI ในระยะ 3-5 ปีข้างหน้า โดยที่ 15% ได้เริ่มใช้ระบบการยืนยันตัวตนด้วยไบโอเมตริกส์ที่ทำงานด้วย AI แล้ว

อ่านรายงานฉบับเต็มที่มีข้อมูลของทั่วโลก และการวิเคราะห์เพิ่มเติมได้ที่ here

ติดตามข้อมูลข่าวสารของ HID ได้ที่

Visit our Media Center, read our Industry Blog, and follow us on Facebook, LinkedIn and X (Twitter).

ที่มา: อัลลิสัน แอนด์ พาร์ทเนอร์ส

รายงาน HID เผย Mobile ID การยืนยันตัวตนแบบหลายขั้นตอน และความยั่งยืน สำคัญเป็นอันดับต้นๆ และ AI ได้ถูกกล่าวถึงเป็นครั้งแรก

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๒๗ เม.ย. อแมนด้า ชาร์ลีน ออบดัม VICHY LIFTACTIV BRAND PARTNER ตัวแทนประเทศไทย ร่วมงาน 'V.I.C VICHY INTEGRATIVE CENTER' อีเว้นท์สุดยิ่งใหญ่ในรอบ 5 ปี ของแบรนด์ VICHY (วิชี่) อวดลุคเซ็กซี่สุดฮอต สวย ปัง
๒๖ เม.ย. ไทยพีบีเอสผนึกกำลัง สสส. ผลิต และเผยแพร่เนื้อหาส่งเสริมสุขภาวะเด็ก เยาวชน และครอบครัว
๒๖ เม.ย. NPS ร่วมสืบสานประเพณีสงกรานต์ชุมชนในพื้นที่รอบโรงไฟฟ้า ประจำปี 2567
๒๖ เม.ย. แพทย์แผนไทย มทร.ธัญบุรี แนะฤดูร้อนควรทานพืชผักที่มีฤทธิ์เย็นช่วยลดความร้อนในร่างกาย
๒๖ เม.ย. แพรนด้า จัดประชุมสามัญผู้ถือหุ้น ประจำปี 2566
๒๖ เม.ย. RBRU Herb Shot ขยายศักยภาพทางธุรกิจ รุกตลาดอินเดีย
๒๖ เม.ย. ไฮเออร์ ประเทศไทย เดินเกมรุกไตรมาส 2 เปิดตัวตู้เย็นรุ่นใหม่ Multi-door HRF-MD679 ตั้งเป้าปี 67 ดันยอดขายตู้เย็นโต
๒๖ เม.ย. เอ็น.ซี.ซี.ฯ ประกาศจัดงาน PET EXPO THAILAND 2024 ระดมสินค้า บริการ ลดหนักจัดเต็ม รับกระแส Petsumer ดันตลาดสัตว์เลี้ยงโตแรง
๒๖ เม.ย. ธอส. ขานรับนโยบายรัฐบาล ลดอัตราดอกเบี้ย MRR 0.25% ต่อปี พร้อมส่งเสริมวินัยการออม ด้วย เงินฝากออมทรัพย์เก็บออม ดอกเบี้ยสูงถึง 1.95%
๒๖ เม.ย. ManageEngine ลดความซับซ้อน ช่วยองค์กรจัดการต้นทุนบนคลาวด์ทั่วมัลติคลาวด์ได้ง่ายขึ้น พร้อมรองรับแพลตฟอร์ม Google Cloud