ข้อดีของการจัดฟันใส
- ความสวยงาม - แทบมองไม่เห็นเครื่องมือจัดฟัน เพราะเครื่องมือจัดฟันใสผลิตจากพลาสติกใสชนิดพิเศษ ที่มีความบางเฉียบ เพียง 0.03-0.07 มิลลิเมตร เมื่อสวมใส่แล้วจะกลมกลืนไปกับสีฟัน ช่วยให้มั่นใจมากขึ้นเวลายิ้ม ไม่ต้องกังวลเรื่องเครื่องมือจัดฟัน
- สะดวกสบาย - ถอดออกได้ง่าย ทำความสะอาดสะดวก
- สุขอนามัยที่ดี - ลดปัญหาการสะสมของแบคทีเรีย ช่วยให้สุขอนามัยในช่องปากดีขึ้น ต่างจากการจัดฟันแบบดั้งเดิมที่เครื่องมือโลหะอาจทำให้เศษอาหารติด ส่งผลให้เกิดคราบพลัค หินปูน และฟันผุ
- ไม่ระคายเคือง - เครื่องมือจัดฟันใสผลิตจากวัสดุที่เรียบเนียน สวมใส่สบาย ไม่บาดเหงือกหรือเนื้อเยื่อภายในช่องปาก
- เห็นผลลัพธ์ตั้งแต่ก่อนจัด - ทันตแพทย์สามารถใช้เทคโนโลยี 3D เพื่อจำลองผลลัพธ์การรักษาให้เห็นก่อนเริ่มจัดฟันใส ให้คนไข้ตัดสินใจได้ง่ายขึ้น
- ตัวเลือกหลากหลาย - ปัจจุบันมีเครื่องมือจัดฟันใสหลายยี่ห้อ ซึ่งแต่ละยี่ห้อก็มีจุดเด่นและราคาที่แตกต่างกัน โดยคนไข้สามารถเลือกยี่ห้อที่เหมาะสมกับความต้องการได้
- เหมาะกับหลายกรณี - การจัดฟันใสแก้ไขปัญหาฟันได้หลากหลาย เช่น ฟันซ้อนเก ฟันห่าง ฟันเก ฟันสบกันไม่ตรง ฯลฯ
จัดฟันใสใช้เวลานานไหม
ระยะเวลาในการจัดฟันใสขึ้นอยู่กับปัญหาของฟันแต่ละบุคคล โดยเฉลี่ยแล้ว จะใช้เวลาประมาณ 1-2 ปี ซึ่งเร็วกว่าการจัดฟันแบบดั้งเดิม ประมาณ 30%
ปัจจัยที่ส่งผลต่อระยะเวลา
- ความซับซ้อนของปัญหา เช่น กรณีฟันเรียงตัวซับซ้อน จะใช้เวลานานกว่า
- ความร่วมมือของคนไข้ ว่าใส่เครื่องมือครบตามกำหนดหรือไม่ หากทำตามที่ทันตแพทย์สั่งอย่างสม่ำเสมอก็จะช่วยให้จัดเสร็จเร็วขึ้น
- จำนวนชุดอุปกรณ์ กรณีใช้ชุดอุปกรณ์หลายชุด จะใช้เวลานานกว่า
ขั้นตอนการจัดฟันใส
- ปรึกษาทันตแพทย์เพื่อตรวจและวางแผนการรักษา
- พิมพ์ฟันเพื่อสร้างแบบจำลอง 3 มิติ
- ออกแบบชุดอุปกรณ์จัดฟันใส
- รับชุดอุปกรณ์และเรียนรู้วิธีใส่
- นัดตรวจติดตามผลกับทันตแพทย์เป็นประจำ
- ใส่รีเทนเนอร์หลังการรักษาเสร็จ
ค่าใช้จ่ายในการจัดฟันใส
ค่าใช้จ่ายในการจัดฟันใส ขึ้นอยู่กับยี่ห้อที่เลือก ระยะเวลาการรักษา และความซับซ้อนของปัญหา โดยเฉลี่ยแล้ว จะอยู่ที่ประมาณ 60,000 - 250,000 บาท
การจัดฟันใสถือเป็นทางเลือกใหม่สำหรับผู้ที่ต้องการจัดฟัน ช่วยให้มีรอยยิ้มสวยงาม โดยไม่ต้องกังวลเรื่องเครื่องมือโลหะ เหมาะกับผู้ที่ต้องการความสะดวกสบายและความรวดเร็วในการจัดฟัน
ที่มา: theivorydentalclinic