นางสาวชลกร เดชสุวรรณกมล Marketing Director กล่าวว่า หากย้อนกลับไป เมื่อปี 2525 คุณพ่อและคุณแม่ได้นำเข้าผลิตภัณฑ์ฝอยขัดภาชนะสเตนเลสจากต่างประเทศเป็นบริษัทแรกในไทย และได้ทำการตลาดจนเป็นที่รู้จักอย่างแพร่หลาย แต่ไม่นานเจ้าใหญ่ๆ ระดับโลกก็เข้ามาในตลาดนี้ ทำให้คุณพ่อต้องถอยออกมา เพราะไม่อยากทำสงครามราคากับเจ้าตลาดใหญ่
ทั้งนี้ ด้วยความที่คุณพ่อมีความเข้าใจเรื่องเคมีภัณฑ์ต่างๆ ในเวลาต่อมาจึงมีการวิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์โดยมี ผลิตภัณฑ์ขจัดคราบไหม้หน้าเตารีดคลีออน หรือ Cleaon แก้ปัญหาคราบไหม้ฝังแน่นที่เกิดจากการรีดผ้าในปี 2527 และในปี 2528 ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดคอมพิวเตอร์และเครื่องใช้สำนักงาน ทัชชี่คลีน หรือ Touche Klean รวมน้ำยา และครีมทำความสะอาดอเนกประสงค์ก็ถือกำเนิดขึ้น
สำหรับจุดเปลี่ยนสำคัญที่เราหันมาทำผลิตภัณฑ์สำหรับทำความสะอาดเครื่องประดับ หรือ จิวเวลรี่ เพราะคุณพ่อรู้จักกับคนทำจิวเวลรี่หลายคนที่บอกเป็นเสียงเดียวกันว่าประเทศยังไม่มีน้ำยาล้างเครื่องประดับและอยากให้คุณพ่อช่วยคิดค้นและผลิตออกมาขายในประเทศ
จากนั้นเป็นต้นมาวงศ์กมลจึงผลิตภัณฑ์น้ำยาล้างเครื่องประดับ ไม่ว่าจะเป็นน้ำยาทำความสะอาดเครื่องเงิน ซิวเวอร์บลู (SilverBlue) ที่สามารถแก้ไขปัญหาการเปลี่ยนแปลงสีของเครื่องเงิน หรือเกิดความหมอง (Tarnish)ได้อย่างมีประสิทธิภาพ และคำนึงถึงความปลอดภัยของผู้ใช้งาน วงศ์กมลจึงมีโปรดักส์เพิ่มขึ้นเพื่อให้ตอบโจทย์การใช้งานในหลากหลายกลุ่มลูกค้าไม่ว่าจะเป็นลูกค้าในประเทศ หรือต่างประเทศ รวมไปถึงลูกค้าที่มีร้านจิวเวลรี่ ดังนี้
- Anti-Tarnish : นวัตกรรมการปกป้องเครื่องเงินจากปฏิกิริยากับออกซิเจน (oxidation) ซึ่งจะเป็นส่วนผสมหลัก ที่จะอยู่ในผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดเครื่องเงินของวงศ์กมล โดยจะปกป้องเครื่องเงินจากการทำปฏิกิริยากับออกซิเจนที่ทำให้เกิดการเปลี่ยนเป็นสีหมองดำ จึงทำให้เครื่องเงินเงางามยาวนานยิ่งขึ้น
- Silver Polishing Cream : ครีมทำความสะอาดสำหรับเครื่องเงินชิ้นใหญ่ เช่น ช้อนส้อม ของตกแต่งบ้าน และเครื่องประดับเงินชิ้นใหญ่
- Silver Instant Dip : ผลิตภัณฑ์สำหรับทำความสะอาดเครื่องประดับเงินชิ้นเล็ก เช่น ต่างหู สร้อยคอ สร้อยข้อมือ แหวน และเครื่องประดับอื่นๆ
- Silver & Gold Polishing Cloth : ผ้าเช็ดทำความสะอาดเครื่องประดับเงินและทองซิลเวอร์บลูที่สามารถใช้เช็ดได้ทันที สะดวก สามารถขจัดคราบหมอง พร้อมทั้งปกป้องเครื่องประดับให้เงางามยาวนานด้วย
นางสาวชลกร กล่าวต่อว่า สำหรับการแข่งขันในตลาดผลิตภัณฑ์น้ำยาล้างเครื่องประดับเจ้าใหญ่ๆ ในระดับโลกมีอยู่แล้ว ซึ่งเราเป็นเพียงบริษัทเล็กๆ เงินทุนในการโปรโมตสินค้ามีอย่างจำกัด เราจึงหันมาใช้กลยุทธ์เดียวกับที่คุณพ่อเคยทำนั่น คือ การสร้างประสบการณ์ที่ดีให้กับลูกค้า หรือ Customer Experience ด้วยการให้ลูกค้าได้ทดลองสินค้าของเรา ระหว่างนั้นเรามีการสังเกตพฤติกรรมต่างๆ ของลูกค้าในแต่ละประเทศ รวมถึงมีการสื่อสารระหว่างกันเพื่อนำไปต่อยอด หรือปรับปรุงผลิตภัณฑ์ให้ตอบโจทย์ลูกค้ามากขึ้น "เรียกได้ว่าแบรนด์ WKM หรือ วงศ์กมล เติบโตจากการไปออกบูธในงานแฟร์ต่างๆ ทั้งในประเทศ และต่างประเทศ สิ่งสำคัญที่สุด คือ การเรียนรู้ว่าผู้บริโภคต้องการอะไร สินค้าต่อไปเราจะต้องพัฒนาตรงไหนเพื่อให้ตอบโจทย์การใช้งานลูกค้าให้ได้มากที่สุด ที่สำคัญต้องปลอดภัย และการใช้งานต้องไม่ยุ่งยาก" ปัจจุบันผลิตภัณฑ์ภายใต้แบรนด์ WKM มีวางจำหน่ายผ่านตัวแทนในต่างประเทศ ไม่ว่าจะเป็น เบลเยียม จีน ญี่ปุ่น เกาหลี เวียดนาม มาเลเซีย อินเดีย อินโดนีเซีย และแอฟริกาใต้ รวมถึงเรายังผลิต OEM ให้กับแบรนด์เครื่องประดับชั้นนำของประเทศไทย และต่างประเทศ เช่น อังกฤษ อเมริกา อิตาลี ออสเตรเลีย และฟินแลนด์
สำหรับงานแฟร์ Jewellery & Gem ASEAN Bangkok 2024 หรือ JGAB 2024 ที่จะมีขึ้นระหว่างวันที่ 1-4 พ.ค. 67 นี้ ที่ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ งานแฟร์ล่าสุดที่เราจะไปร่วมงานนั้น เราได้นำผลิตภัณฑ์ WKM ไปร่วมออกบูธด้วย เรามั่นใจว่าจะได้รับการตอบรับที่ดีจากลูกค้าทั้งในประเทศ และต่างประเทศ ที่สำคัญที่สุด คือ การสร้าง Customer Experience ให้กับลูกค้าที่รักในงานจิวเวลรี่ และเครื่องประดับต่างๆ อีกด้วย
ที่มา: FourHundred
