ผิวไหม้แดดเป็นภาวะที่ผิวหนังได้รับความเสียหายจากรังสีอัลตราไวโอเลต (UV) จากดวงอาทิตย์หรือจากเตียงอาบแดด อาการของผิวไหม้แดด ได้แก่ ผิวแดง บวม ร้อน อาจถึงขั้นผองเป็นตุ่มน้ำ และเจ็บปวด แสบร้อน ในบางรายอาจมีอาการปวดหัว คลื่นไส้ และอาเจียนร่วมด้วย
ผิวไหม้แดดสามารถรักษาได้ด้วยวิธีต่างๆ ดังนี้
- ประคบเย็นให้ประคบเย็นบริเวณผิวที่ไหม้แดดด้วยน้ำเย็นหรือผ้าเย็น เพื่อช่วยลดอาการปวดและบวม
- ทายาที่มีส่วนผสมของว่านหางจระเข้ คาลาไมน์ หรือยาลดการอักเสบ เพื่อช่วยลดอาการแสบร้อนและคัน
- ถ้ากรณีที่มีอาการอักเสบมาก อาจต้องกินยาลดการอักเสบ
- รับประทานยาแก้ปวดหากมีอาการปวดมาก ให้รับประทานยาแก้ปวด เพื่อบรรเทาอาการ
- ดื่มน้ำมากๆให้ดื่มน้ำมากๆ เพื่อช่วยให้ร่างกายชุ่มชื้นและลดอาการปวดหัว
- หลีกเลี่ยงการสัมผัสแสงแดด ให้หลีกเลี่ยงการสัมผัสแสงแดดโดยตรงจนกว่าผิวจะหายเป็นปกติ
หากผิวไหม้แดดรุนแรง แนะนำให้พบแพทย์เพื่อการรักษาที่ถูกต้องและป้องกันผลข้างเคียง
วิธีป้องกันผิวไหม้แดด
การป้องกันผิวไหม้แดดสามารถทำได้หลายวิธี ได้แก่
- ทาครีมกันแดด ให้ทาครีมกันแดดที่มีค่า SPF 30 หรือสูงกว่าทุกครั้งก่อนออกแดด โดยควรทาซ้ำทุก 2 ชั่วโมง
- สวมเสื้อผ้าที่ปกปิดร่างกายให้สวมเสื้อผ้าที่ปกปิดร่างกาย เช่น เสื้อแขนยาว กางเกงขายาว และหมวก เพื่อช่วยป้องกันผิวจากรังสี UV
- สวมแว่นตากันแดด ให้สวมแว่นตากันแดดเพื่อช่วยป้องกันดวงตาจากรังสี UV
- หลีกเลี่ยงการออกแดดในช่วงเวลาที่มีแดดแรง ให้หลีกเลี่ยงการออกแดดในช่วงเวลาที่มีแดดแรงที่สุด ซึ่งคือช่วงเวลา 00-16.00 น.
หากมีผิวที่ไวต่อแดดหรือมีประวัติผิวไหม้แดดบ่อยๆ ควรปรึกษาแพทย์เพื่อขอคำแนะนำในการป้องกันผิวไหม้แดด หรือหาสาเหตุความผิดปกติของผิวที่ไวต่อแสง
บทความโดย แพทย์หญิง กันต์กนิษฐ์ สันติปราน์รนต์
แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้าน ผิวหนังและความงาม โรงพยาบาลเวิลด์เมดิคอล
ที่มา: บางกอก เชน ฮอสปิทอล