แคมเปญ "Jose+10" เกิดขึ้น โดยการรวบรวมเรื่องราวที่บอกเล่าความสามารถอันแสนโดดเด่นของเหล่านักกีฬาต้นแบบ รวมถึงยังสะท้อนแง่มุมของเหล่าแฟนกีฬาที่คอยเป็นพลังใจสำคัญที่จะช่วยผลักดันให้นักกีฬารุ่นใหม่พร้อมที่จะมุ่งมั่นทำตามความฝันและกล้าที่จะก้าวเท้าลงไปยังสนามแข่งขันต่อไปในอนาคต
เพื่อสร้างการรับรู้ว่ากีฬาเป็นเรื่องของทุกคน อาดิดาสยังได้ร่วมมือกับสโมสรฟุตบอลแนวหน้าอย่าง อาร์เซนอล บาเยิร์น มิวนิค แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด โอลิมปิก ลียง และเรอัล มาดริด เพื่อสร้างสรรค์จินตนาการของเหล่าแฟนคลับตัวน้อย ด้วยการฉายภาพเด็กผู้หญิงตัวน้อยยืนเคียงข้างกับเหล่านักเตะทีมชายและทีมหญิง เพื่อให้ความรู้สึกเหล่านั้นเด่นชัดยิ่งขึ้น
นอกจากนี้ อาดิดาสยังได้ต่อยอดแคมเปญดังกล่าวด้วยการส่งต่อข้อความเสริมสร้างแรงบันดาลใจจากเหล่านักเตะหญิงแถวหน้า นำโดย เวนดี เรนาร์ด (Wendie Renard) นักเตะกองหลังจากทีมโอลิมปิก ลียง โดยเธอได้เขียนข้อความอันทรงพลังถึงตัวเธอเองในวัย 13 ปี เพื่อเล่าเรื่องราวความสามารถที่ไร้ขีดจำกัดของเธอ รวมถึงความสำเร็จต่างๆ ที่เธอทำได้เพียงแค่เธอไม่หยุดเชื่อมั่นในตัวเอง
ก่อนจะตามมาด้วยข้อความเพิ่มเติมจาก ลินดา ไกเซโด (Linda Caicedo) จากสโมสรเรอัล มาดริด และ ลิซ่า โบ๊ตติน (Lisa Boattin) จากสโมสรยูเวนตุส ที่จะได้รับการเผยแพร่บนช่องทางโซเชียลมีเดียของแต่ละคน
เวนดี เรย์นาร์ด นักเตะกองหลังของทีมชาติฝรั่งเศสและสโมสรโอลิมปิก ลียง กล่าวว่า "ฉันยังจำช่วงเวลาของฉันในวัย 13 ปีได้อย่างชัดเจน ชีวิตของเด็กสาวในวัยนั้นมีเรื่องราวเกิดขึ้นมากมาย ทำให้การยอมละทิ้งกีฬาเกิดขึ้นได้ไม่ยาก อย่างไรก็ตาม กีฬาถือเป็นสิ่งสำคัญที่สอนเรื่องราวต่างๆ มากมายให้กับเรา ทั้งช่วยเสริมสร้างความมั่นใจ มอบบทเรียนชีวิตที่มีคุณค่าที่จะสามารถอยู่กับเราไปได้ตลอดชีวิต ดังนั้น การที่ฉันได้มีโอกาสเขียนจดหมายถึงตัวเองในวัย 13 ปี จึงถือเป็นเรื่องดีที่ได้นำความรู้สึกเก่าๆ และประสบการณ์ต่างๆ ที่เคยเกิดขึ้นในชีวิตกลับมาอีกครั้ง โดยฉันอยากจะให้ข้อความนี้ ช่วยทำให้เด็กๆ สนุกกับการใช้ชีวิต อดทน อย่ายอมแพ้แม้จะอยู่ในช่วงเวลาที่ยากลำบาก และเหนือสิ่งอื่นใด ขอให้ทุกคนอย่าหยุดเชื่อมั่นในความสามารถของตนเอง เพราะถ้าคุณหยุดเชื่อในตัวเองเมื่อไหร่ คุณจะพลาดสิ่งที่คุณจะสามารถบรรลุความสำเร็จไปได้อย่างไม่น่าเชื่อเลยล่ะค่ะ"
แคมเปญนี้ ถือเป็นส่วนหนึ่งของความมุ่งมั่นจาก adidas Football Collective ที่ต้องการเสริมสร้างความเท่าเทียมทางด้านกีฬาให้เกิดขึ้นกับทุกคน เพื่อให้พลังดังกล่าวช่วยสร้างอนาคตที่ดียิ่งขึ้นให้กับโลกและผู้คน โดยอาดิดาสยังได้นำแนวคิดนี้ไปประยุกต์ใช้ในทุกแง่มุม ทั้งในด้านผลิตภัณฑ์ โปรแกรม และพันธมิตรต่างๆ เช่น
- การบริจาครายได้ 1% จากยอดขายสุทธิของลูกฟุตบอลสำหรับใช้แข่งขันอย่างเป็นทางการของ UEFA Women's Champion League และ UEFA Champion League 2024 เพื่อมุ่งสร้างความเท่าเทียมในสนาม ภายใต้โครงการ 'Equal Play Effect' จาก Common Goal ซึ่งเป็นโครงการที่จัดทำขึ้นร่วมกันโดยมุ่งเน้นไปที่การส่งเสริมการมีส่วนร่วม การเป็นตัวแทน ตลอดจนความเป็นผู้นำในเกมการแข่งขันของผู้หญิง และ Non-binary ในกีฬาฟุตบอล
- การร่วมมือกับนักกีฬาภายใต้สังกัดของอาดิดาสและองค์กร Well HQ ซึ่งเป็นผู้เชี่ยวชาญทางด้านสุขภาพสตรี เพื่อริเริ่มโครงการ adidas Breaking Barriers พร้อมกับการจัดเวิร์คชอปเป็นครั้งแรกให้กับเหล่านักกีฬา ครูผู้ฝึกสอน และผู้ปกครองกว่า 100 คนจากโรงเรียนอันเป็นพันธมิตรกับมูลนิธิแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เกิร์ลส์ อคาเดมี และทีม U21 เพื่อสร้างความตระหนักรู้เกี่ยวกับการมีประจำเดือน
- ทีมโอลิมปิก ลียง เฟมีนิน (Olympique Lyonnais Feminin) ได้เปิดประสบการณ์การรับชม 'กาล่าแมทช์' แมชท์การแข่งขันใหญ่รอบรองชนะเลิศครั้งแรกของการแข่งขัน UEFA Women's Champion League ให้กับเยาวชนจากสโมสรสมัครเล่นกว่า 300 สโมสร ณ กรูปามา สเตเดียม
- ยูฟ่าได้สานต่อโครงการ #WePlayStrong ที่มีความตั้งใจในการเปลี่ยนภาพจำเกี่ยวกับการแข่งขันฟุตบอลหญิง พร้อมทั้งช่วยส่งเสริมให้เหล่านักฟุตบอลเยาวชนหญิงมุ่งมั่นที่จะเป็นส่วนหนึ่งในสนามการแข่งขันต่อไป
ทั้งนี้ การเปิดตัวแคมเปญ "Jose+10" นับเป็นการสานต่อความสำเร็จของแคมเปญ Champion the Girls ที่อาดิดาสได้ริเริ่มขึ้นเพื่อให้เป็นพื้นที่สำหรับเด็กผู้หญิงให้ได้มีโอกาสสัมผัสประสบการณ์และความอิ่มเอมใจในการรับชมการแข่งขัน UEFA Women's Champion League ที่ได้จัดขึ้นไปเมื่อปี 2023
สำหรับผู้ที่สนใจรับชมภาพเพิ่มเติมของแคมเปญ สามารถเข้ารับชมได้ที่อินสตาแกรม @adidasfootball @adidaswomen และผ่านทางช่องทางโซเชียลมีเดียของพันธมิตรของอาดิดาส
สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ adidas Football Collective คลิก www.adidas.com/footballcollective
สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับแคมเปญ adidas Breaking Barriers คลิก www.adidas.com/breakingbarriers.
ที่มา: โกลิน