กรมอนามัยแนะสุขอนามัยสำหรับ 'คาเฟ่สัตว์เลี้ยง' ให้ถูกใจเหล่าทาส

ศุกร์ ๒๙ พฤศจิกายน ๒๐๒๔ ๑๔:๒๑
กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข แนะ 5 แนวทางปฏิบัติตามสุขอนามัย สำหรับคาเฟ่สัตว์เลี้ยง เน้นย้ำ แยกสถานที่ปรุง ประกอบอาหาร และบริเวณที่จำหน่ายอาหาร แยกบริเวณเลี้ยงสัตว์ให้เป็นสัดส่วน เพื่อป้องกันโรคติดต่อจากสัตว์สู่คน
กรมอนามัยแนะสุขอนามัยสำหรับ 'คาเฟ่สัตว์เลี้ยง' ให้ถูกใจเหล่าทาส

นายแพทย์ธิติ แสวงธรรม รองอธิบดีกรมอนามัย กล่าวว่า จากกระแส 'คาเฟ่สัตว์เลี้ยง' ที่กำลังเป็นที่นิยมในขณะนี้ ดึงดูดให้ทาสหมา ทาสแมว หรือ ผู้ที่มีสัตว์เลี้ยงเข้ามาใช้บริการจำนวนมาก ควรปฏิบัติตาม 5 แนวทางสำหรับร้านอาหารที่มีลักษณะการประกอบกิจการที่มีการเลี้ยงสัตว์ เพื่อป้องกันความเสี่ยงต่อการเกิดโรคติดเชื้อจากสัตว์สู่คน (Zoonoses) ไม่ว่าจะเป็นเชื้อไวรัส เช่น โรคพิษสุนัขบ้า และโรคไข้หวัดนก แบคทีเรีย เช่น โรคฉี่หนู โรคบาดทะยัก และโรคไข้กระต่าย เชื้อรา เช่น โรคเชื้อราจากผิวหนังแมว และโรคเชื้อรามูลนก เชื้อโปรโตซัว ปรสิต เช่น โรคพยาธิปากขอ และโรคไข้ขี้แมว เป็นต้น กรมอนามัยร่วมกับกรมควบคุมโรค ได้มีแนวทางปฏิบัติ ดังนี้ 1) ร้านอาหารที่มีการอนุญาตให้นำสัตว์เลี้ยงเข้ามาในร้านอาหาร ควรจัดสถานที่หรือสิ่งแวดล้อมแยกเป็นสัดส่วน ไม่ปะปนกับบริเวณที่ปรุง ประกอบอาหาร จำหน่ายอาหาร และที่นั่งรับประทานอาหาร เพื่อป้องกันเส้นขน หมัด หรือสารคัดหลั่งจากสัตว์ ฯลฯ ปนเปื้อนในอาหาร และโรคติดเชื้อจากสัตว์สู่คน 2) กรณีร้านอาหารนำสัตว์เลี้ยงมาเป็นกิจกรรมดึงดูดให้ผู้บริโภคเข้าใช้บริการ ควรแยกเป็นสัดส่วน ไม่ปะปนกับสถานที่นั่งรับประทานอาหาร บริเวณที่จำหน่ายอาหาร หรือปรุงประกอบอาหาร 3) มีการดูแลสุขภาพสัตว์เลี้ยง ทำความสะอาดสัตว์และมีการฆ่าเชื้อคอกสัตว์หรือบริเวณที่สัตว์อยู่เป็นประจำทุกวัน 4) มีมาตรการให้พนักงานที่มีการสัมผัสสัตว์เลี้ยงต้องล้างมือด้วยน้ำและสบู่ทุกครั้งก่อนปฏิบัติงานด้านอาหาร เช่น ก่อนปรุง ประกอบอาหาร จำหน่ายอาหาร และเสิร์ฟอาหาร เป็นต้น และ 5) มีมาตรการให้ผู้มาใช้บริการล้างมือด้วยน้ำและสบู่หลังจากสัมผัสสัตว์

"ทั้งนี้ การประกอบกิจการดังกล่าว ยังเข้าข่ายเป็น "สถานที่จำหน่ายอาหาร" ตามพระราชบัญญัติการสาธารณสุข พ.ศ. 2535 และที่แก้ไขเพิ่มเติม ต้องขอรับใบอนุญาต ในกรณีสถานที่มีพื้นที่ประกอบกิจการเกิน 200 ตารางเมตร หรือขอรับหนังสือรับรองการแจ้ง กรณีสถานที่มีพื้นที่ประกอบกิจการไม่เกิน 200 ตารางเมตร และยังต้องขอรับใบอนุญาตประกอบกิจการที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพ ประเภทกิจการกลุ่มที่ 1 กิจการที่เกี่ยวกับสัตว์เลี้ยง (2) การประกอบกิจการเลี้ยง รวบรวมสัตว์ หรือธุรกิจอื่นใดในลักษณะทำนองเดียวกัน เพื่อให้ประชาชนเข้าชมหรือเพื่อประโยชน์ของกิจการนั้น ไม่ว่าจะมีการเรียกเก็บ ค่าดูหรือค่าบริการในทางตรง หรือทางอ้อม หรือไม่ก็ตาม โดยแจ้งต่อเจ้าพนักงานท้องถิ่นที่เป็นที่ตั้งของร้านอาหาร เพื่อพิจารณาอนุญาตให้เป็นตามกฎหมายด้วย" รองอธิบดีกรมอนามัย กล่าว

ที่มา: กรมอนามัย

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๑๘:๓๓ COM7 เดินหน้าเต็มสปีด EV7 ส่งมอบแท็กซี่ไฟฟ้าล็อตแรก ดันเมกะเทรนด์ EV สู่หัวใจเมือง
๑๘:๓๖ GCAP ประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2568 ไฟเขียวผ่านฉลุยทุกวาระ พร้อมเดินหน้าแผนธุรกิจขยายสู่กลยุทธ์ Non Lending
๑๘:๔๔ PYLON จัดประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2568 ผู้ถือหุ้นไฟเขียวจ่ายปันผล 0.04 บาท/หุ้น
๑๘:๓๙ LDC จัดประชุมสามัญผู้ถือหุ้น ประจำปี 2568 มุ่งเป็นคลินิกทันตกรรมพรีเมียม ในราคาที่เข้าถึงง่าย
๑๘:๑๒ ผู้ถือหุ้น TATG ไฟเขียวจ่ายปันผล 0.07 บาท/หุ้น ลงทุนเครื่องจักรใหม่เสริมแกร่งสายการผลิต พิชิตเป้ารายได้ 3,000
๑๘:๕๗ ADVICE จัดประชุมสามัญผู้ถือหุ้นรูปแบบ Hybrid ประจำปี 2568 ผถห.ไฟเขียวทุกวาระ เคาะแจกปันผล 0.175 บ./หุ้น
๑๘:๓๖ LE ร่วมงานสถาปนิก'68 โชว์นวัตกรรมแสงสว่างอัจฉริยะ เสริมภาพผู้นำ Lighting Solutions Provider
๑๘:๔๖ SELIC จัดประชุมสามัญผู้ถือหุ้น ปี 2568 ผู้ถือหุ้นเห็นชอบทุกวาระ อนุมัติจ่ายปันผล 0.038 บาท/หุ้น เดินหน้า 3 ธุรกิจ
๑๘:๔๙ STA เปิดบ้านต้อนรับภาครัฐ โชว์มาตรฐานรับซื้อยางโปร่งใส เป็นธรรม หนุนรัฐต้านยางเถื่อน
๑๘:๓๕ กรมพัฒนาฝีมือแรงงาน จับมือเอกชน ปั้นช่างเชื่อมโกอินเตอร์ รายได้ทะลุ 70,000 บาทต่อเดือน