KF-US-PLUS กับโอกาสลงทุนหุ้นสหรัฐฯ ที่แตกต่างจาก Active Fund ทั่วไป

อังคาร ๑๘ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๘ ๑๕:๐๑
คุณสุภาพร ลีนะบรรจง กรรมการผู้จัดการ บลจ.กรุงศรี ร่วมกับ JP Morgan Asset Management บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนชั้นนำระดับโลก จัดสัมมนาพิเศษในหัวข้อ "Bridging the Gap: Passive Stability with Active Opportunity" เพื่อให้มุมมองเกี่ยวกับภาวะตลาดและแนวโน้มการลงทุนในหุ้นสหรัฐฯ ซึ่งคาดว่าหุ้นสหรัฐฯ จะเป็นทรัพย์สินที่ให้ผลตอบแทนดีที่สุดในปี 2025 พร้อมแนะนำกองทุน KF-US-PLUS ที่มาพร้อมกลยุทธ์การลงทุนที่ผสมผสานทั้งข้อดีของ Passive Fund และ Active Fund เข้าไว้ด้วยกัน ช่วยเพิ่มโอกาสสร้างผลตอบแทนที่เหนือกว่า
KF-US-PLUS กับโอกาสลงทุนหุ้นสหรัฐฯ ที่แตกต่างจาก Active Fund ทั่วไป

คุณเกียรติศักดิ์ ปรีชาอนุสรณ์ ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการลงทุนทางเลือก บลจ.กรุงศรี กล่าวในงานสัมมนาว่า "ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ภายใต้การบริหารของประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ ยังคงมีโอกาสเติบโตสูง แม้จะมีความผันผวนจากปัจจัยต่างๆในระยะสั้นที่เข้ามากระทบอยู่บ้าง แต่ด้วยนโยบายที่ส่งเสริมเศรษฐกิจและการเติบโตของธุรกิจ จึงยังถือเป็นโอกาสที่ดีของการลงทุนในหุ้นสหรัฐฯสำหรับนักลงทุนในระยะยาว ทั้งนี้การลงทุนในหุ้นสหรัฐฯ ได้รับแรงสนับสนุนจาก 3 ปัจจัยหลัก คือ

  1. เศรษฐกิจมหภาคแข็งแกร่ง: โอกาสเกิดเศรษฐกิจถดถอยต่ำเพียง 15-20% และภาวะเงินเฟ้อที่อาจเพิ่มขึ้นคาดว่าจะมีผลกระทบเพียง 0.5-1.0% ในระยะสั้น ซึ่งแสดงถึงความมั่นคงในตลาดและโอกาสสร้างผลตอบแทนระยะยาวจากการลงทุนในตลาดหุ้นสหรัฐฯ นอกจากนี้อัตราดอกเบี้ยยังคงเป็นขาลง
  2. กำไรของ S&P 500 คาดว่าจะเติบโตที่ 13% ในปี 2025: ซึ่งการเติบโตที่แข็งแกร่งในภาคธุรกิจและหุ้นในดัชนี S&P 500 จะช่วยเพิ่มโอกาสในการสร้างผลตอบแทนที่ดี
  3. นโยบายของของประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ : แม้ว่าจะมีการเจรจาต่อรองทางการค้าและขึ้นกำแพงภาษี ซึ่งส่งผลให้เกิดสงครามการค้าและความผันผวนในระยะสั้น แต่ในระยะยาวจะส่งผลดีต่อภาคธุรกิจในประเทศ เช่น การย้ายฐานการผลิตกลับสหรัฐฯ ที่ช่วยลดต้นทุนการผลิต พร้อมทั้งนโยบายลดภาษีนิติบุคคลและการผ่อนคลายกฎระเบียบในอุตสาหกรรมต่างๆ ส่งผลให้อัตรากำไรสุทธิของบริษัทใน S&P 500 เติบโตเพิ่มขึ้น"

"บลจ.กรุงศรี เชื่อมั่นว่าจากปัจจัยสนับสนุนการเติบโตของตลาดหุ้นสหรัฐฯ ดังกล่าว ในช่วงเวลานี้จึงเป็นจังหวะที่ดีของการลงทุนในกองทุนเปิดกรุงศรียูเอสซีเล็คอิควิตี้พลัส (KF-US-PLUS) ที่มีนโยบายลงทุนใน JPMorgan Funds - US Select Equity Plus Fund (กองทุนหลัก) ที่ได้รับการจัดอันดับMorningstar Rating 5 ดาว* (ที่มา : Morningstar ณ 31 ธ.ค. 67) และโดดเด่นด้วยกลยุทธ์การลงทุนที่ผสมผสานทั้งกลยุทธ์หลักและกลยุทธ์เสริมที่มีการ Long - Short ในหุ้นกลุ่มอุตสาหกรรมเดียวกัน เพื่อเพิ่มโอกาสสร้างผลตอบแทนจากส่วนต่างของราคา" นายเกียรติศักดิ์ กล่าว

ด้านคุณChristian Mariani ผู้เชี่ยวชาญการลงทุนจาก J.P. Morgan Asset Management, US Equity Group กล่าวถึง กองทุนหลัก JPMorgan Funds - US Select Equity Plus Fund ว่า "กองทุนหลักเน้นลงทุนในหุ้นสหรัฐฯ โดยใช้กลยุทธ์การลงทุนแบบ Active มุ่งหวังผลการดำเนินงานสูงกว่าดัชนี S&P 500 โดยคัดเลือกหุ้นที่มีศักยภาพการเติบโตและความได้เปรียบในการแข่งขัน มีแนวโน้มเติบโตในระยะยาว (Long Position) และขายชอร์ตหุ้นที่มีแนวโน้มลดลง (Short Position) เช่น หุ้นสื่อสมัยใหม่อย่าง Netflix, Amazon, หรือ Walt Disney ที่มีแนวโน้มเติบโตดี และหุ้นแบบดั้งเดิมที่มีแนวโน้มลดลง เช่น Intel หรือ Moderna ที่มีการเติบโตลดลงหลังสถานการณ์โควิด-19 คลี่คลาย ทั้งนี้การใช้กลยุทธ์ดังกล่าวนี้ส่งผลให้กองทุนสามารถสร้างผลการดำเนินงานที่ชนะตลาดได้อย่างสม่ำเสมอ" (ผลการดำเนินงานในอดีตของกองทุนรวม มิได้เป็นสิ่งยืนยันถึงผลการดำเนินงานในอนาคต)

"พอร์ตการลงทุนปัจจุบันกองทุนถือหุ้นประมาณ 260 บริษัท กระจายในหลายอุตสาหกรรม โดย 5 หุ้นกลุ่มหลัก ได้แก่ Mastercard, Howmet Aerospace, Wells Fargo, Amazon, และ Lowe's ซึ่งเป็นหุ้นที่มีพื้นฐานแข็งแกร่ง ส่วนหุ้นที่มี Short Position สูงสุด 5 อันดับแรก ได้แก่ หุ้นในกลุ่มเซมิคอนดัคเตอร์, สื่อ และร้านค้าปลีกแบบดั้งเดิมที่ปรับตัวไม่ทันกับยุคดิจิทัล นอกจากนี้ผลการดำเนินงาน1 ปีที่ผ่านมา มีผลตอบแทนเฉลี่ยเมื่อเทียบ กับดัชนี S&P 500 มากกว่าถึง 4.63% ช่วง 3 ปีที่ผ่านมามีผลตอบแทนเฉลี่ยเมื่อเทียบกับดัชนี S&P 500 มาก กว่าถึง 2.64% ช่วง 5 ปีที่ผ่านมามีผลตอบแทนเฉลี่ยเมื่อเทียบกับดัชนี S&P 500 มากกว่าถึง 3.25% โดยมีความผันผวนต่ำกว่ากองทุน Active Fund อื่นๆ ด้วยการใช้กลยุทธ์ Short Position ในหุ้นที่มีแนวโน้มการเติบโตลดลง และเพิ่มน้ำหนักการลงทุนในหุ้นที่มีแนวโน้มเติบโตสูง ทำให้แก้ปัญหาที่กองทุนส่วนใหญ่มีอัตราผลตอบแทนต่ำกว่าดัชนี ท่ามกลางความเสี่ยงที่สูงกว่า" (ที่มา : J.P. Morgan Asset Management_งานสัมมนา 6 ก.พ. 68)

ที่มา: บลจ.กรุงศรี

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๑๘:๓๓ COM7 เดินหน้าเต็มสปีด EV7 ส่งมอบแท็กซี่ไฟฟ้าล็อตแรก ดันเมกะเทรนด์ EV สู่หัวใจเมือง
๑๘:๓๖ GCAP ประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2568 ไฟเขียวผ่านฉลุยทุกวาระ พร้อมเดินหน้าแผนธุรกิจขยายสู่กลยุทธ์ Non Lending
๑๘:๔๔ PYLON จัดประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2568 ผู้ถือหุ้นไฟเขียวจ่ายปันผล 0.04 บาท/หุ้น
๑๘:๓๙ LDC จัดประชุมสามัญผู้ถือหุ้น ประจำปี 2568 มุ่งเป็นคลินิกทันตกรรมพรีเมียม ในราคาที่เข้าถึงง่าย
๑๘:๑๒ ผู้ถือหุ้น TATG ไฟเขียวจ่ายปันผล 0.07 บาท/หุ้น ลงทุนเครื่องจักรใหม่เสริมแกร่งสายการผลิต พิชิตเป้ารายได้ 3,000
๑๘:๕๗ ADVICE จัดประชุมสามัญผู้ถือหุ้นรูปแบบ Hybrid ประจำปี 2568 ผถห.ไฟเขียวทุกวาระ เคาะแจกปันผล 0.175 บ./หุ้น
๑๘:๓๖ LE ร่วมงานสถาปนิก'68 โชว์นวัตกรรมแสงสว่างอัจฉริยะ เสริมภาพผู้นำ Lighting Solutions Provider
๑๘:๔๖ SELIC จัดประชุมสามัญผู้ถือหุ้น ปี 2568 ผู้ถือหุ้นเห็นชอบทุกวาระ อนุมัติจ่ายปันผล 0.038 บาท/หุ้น เดินหน้า 3 ธุรกิจ
๑๘:๔๙ STA เปิดบ้านต้อนรับภาครัฐ โชว์มาตรฐานรับซื้อยางโปร่งใส เป็นธรรม หนุนรัฐต้านยางเถื่อน
๑๘:๓๕ กรมพัฒนาฝีมือแรงงาน จับมือเอกชน ปั้นช่างเชื่อมโกอินเตอร์ รายได้ทะลุ 70,000 บาทต่อเดือน