กทม. รุกเฝ้าระวังโรคติดต่อในช่วงฤดูร้อน-เตรียมพร้อมศูนย์ปฏิบัติการแพทย์ฉุกเฉิน

จันทร์ ๒๔ มีนาคม ๒๕๖๘ ๑๕:๓๖
นางเลิศลักษณ์ ลีลาเรืองแสง ผู้อำนวยการสำนักการแพทย์ (สนพ.) กทม. กล่าวถึงมาตรการเชิงรุกในการรณรงค์ส่งเสริมและให้คำแนะนำแก่ประชาชนเกี่ยวกับวิธีการดูแลรักษาสุขภาพและสุขอนามัย เพื่อป้องกันการเจ็บป่วยจากโรคและภาวะอาการผิดปกติของร่างกายในช่วงฤดูร้อนว่า สนพ. ได้เตรียมพร้อมเฝ้าระวังสถานการณ์ความร้อน โดยติดตามการเปลี่ยนแปลงของอุณหภูมิที่ส่งผลกระทบต่อสุขภาพ พร้อมสื่อสารเตือนภัยประชาชน โดยเฉพาะกลุ่มเสี่ยงที่ควรได้รับการดูแลเป็นพิเศษ ตลอดจนกำหนดแนวทางการดำเนินงานด้านการแพทย์และสาธารณสุข และเตรียมพร้อมศูนย์ปฏิบัติการการแพทย์ฉุกเฉิน เพื่อดูแลสุขภาพประชาชน ป้องกันการเจ็บป่วยจากโรคภัยไข้เจ็บในช่วงฤดูร้อน สำหรับ 6 โรคหน้าร้อนที่ควรเฝ้าระวัง เนื่องจากสภาพอากาศร้อนจัด ทำให้เชื้อแบคทีเรียบางชนิดเจริญเติบโตได้ดี นำไปสู่การเจ็บป่วยด้วยโรคที่มากับแดดร้อน ประกอบด้วย โรคฮีทสโตรก หรือโรคลมแดด เกิดขึ้นเมื่อร่างกายมีอุณหภูมิสูงมาก โดยเฉพาะที่มากกว่า 40 องศาเซลเซียส ทำให้ร่างกายไม่สามารถปรับตัวได้ โรคพิษสุนัขบ้า สามารถติดต่อได้จากการโดนสุนัข หรือแมวกัด หรือถูกเลียบริเวณที่มีแผลถลอก โรคอุจจาระร่วง เกิดจากการรับประทานอาหาร หรือเครื่องดื่มที่ปนเปื้อนเชื้อโรค การไม่ล้างมือให้สะอาด ใช้มือหยิบจับของที่ปนเปื้อนเชื้อแล้วนำเข้าปาก โรคผดผื่น เป็นอาการของผิวหนังที่เกิดจากการตอบสนองต่ออากาศร้อน ความชื้น หรือการอุดตันของรูขุมขน ส่งผลให้ผิวระคายเคือง ไข้ไทฟอยด์ หรือไข้รากสาดน้อย ติดต่อโดยการรับประทานอาหาร หรือน้ำที่ปนเปื้อนเชื้อ ซึ่งส่วนใหญ่พบปนเปื้อนในผักสด ผลไม้ เนื้อสัตว์ ไข่ และน้ำดื่ม และโรคบิด ติดต่อได้จากการรับประทานผักดิบ หรือน้ำดื่มที่ปนเปื้อนเชื้อโรค โดยขอให้ประชาชนระมัดระวังและดูแลสุขภาพในช่วงหน้าร้อน รับประทานอาหารที่สะอาดและถูกสุขอนามัย สวมใส่เสื้อผ้าให้เหมาะสมกับสภาพอากาศ ดื่มน้ำให้เพียงพอ ล้างมือให้สะอาด หลีกเลี่ยงแดดจัด และพักผ่อนให้เพียงพอ เพื่อให้ร่ายกายแข็งแรง ทั้งนี้ ประชาชนสามารถติดตามข้อมูลความรู้ด้านสุขภาพผ่านทางเพจเฟซบุ๊ก สำนักการแพทย์ กรุงเทพมหานคร หรือปรึกษาปัญหาด้านสุขภาพได้ที่ HOTLINE 1646 สายด่วนสุขภาพ สนพ. ให้บริการตลอด 24 ชั่วโมง
กทม. รุกเฝ้าระวังโรคติดต่อในช่วงฤดูร้อน-เตรียมพร้อมศูนย์ปฏิบัติการแพทย์ฉุกเฉิน

นางภาวิณี รุ่งทนต์กิจ รองผู้อำนวยการสำนักอนามัย (สนอ.) กทม. กล่าวว่า แนวโน้มสถานการณ์โรคติดต่อที่ต้องเฝ้าระวังในช่วงฤดูร้อน ได้แก่ โรคติดต่อทางเดินอาหารและน้ำ เช่น โรคอุจจารระร่วง พบได้ทุกกลุ่มอายุ ซึ่งตั้งแต่ต้นปี 68 พบผู้ป่วย 26,235 รายและไม่พบผู้เสียชีวิต อาหารเป็นพิษ พบได้ทุกกลุ่มอายุ ตั้งแต่ต้นปี 68 พบผู้ป่วย 2,424 รายและไม่พบผู้เสียชีวิต และโรคอหิวาตกโรค พบผู้ป่วย 3 รายและไม่พบผู้เสียชีวิต สำหรับผู้ประกอบการร้านอาหาร ผลิตอาหาร และผู้สัมผัสอาหารต้องปฏิบัติตามมาตรฐานสุขาภิบาลอย่างเคร่งครัด ส่วนประชาชนควรรับประทานอาหารที่ปรุงสุก กินร้อน ใช้ช้อนกลาง และล้างมือก่อนรับประทานอาหารและหลังใช้ห้องสุขาทุกครั้ง โดยศูนย์บริการสาธารณสุข กทม. ทั้ง 69 แห่ง ได้เตรียมพร้อมวัคซีน ยาและเวชภัณฑ์ ทีมเฝ้าระวังสอบสวนเคลื่อนที่เร็ว (Surveillance and Rapid Response Team, SRRT) เพื่อดำเนินการสอบสวนและควบคุมโรคกรณีเกิดการระบาดของโรค พร้อมทั้งจัดทำหนังสือแจ้งเตือนโรคฤดูร้อนและขอความร่วมมือประชาสัมพันธ์โรคที่เกิดในช่วงฤดูร้อน และจัดส่งให้ศูนย์บริการสาธารณสุข สำนักการศึกษา สำนักพัฒนาสังคม สำนักงานเขต และประชาชนผู้สนใจ

ทั้งนี้ สนอ. ได้ให้ความรู้ คำแนะนำแก่ประชาชนทั้งเชิงรับในศูนย์บริการสาธารณสุข 69 แห่ง สถานพยาบาล และเชิงรุกในชุมชน โดยออกหน่วยแพทย์และสาธารณสุขเคลื่อนที่ทุกสัปดาห์ เพื่อให้การรักษาพยาบาลเบื้องต้น และในช่วงอากาศร้อนจัดจะแนะนำให้กลุ่มเสี่ยง เช่น เด็กเล็ก ผู้สูงอายุ ผู้ป่วยโรคเรื้อรัง ปฏิบัติตนอย่างถูกวิธี เพื่อป้องกันอันตรายจากความร้อน โดยวันที่อากาศร้อนจัดให้หลีกเลี่ยงการทำกิจกรรม หรือออกกำลังกายกลางแจ้ง เน้นย้ำให้อยู่ในสถานที่ที่มีอากาศถ่ายเทสะดวก ดื่มน้ำสะอาดสม่ำเสมอ ไม่ต้องรอให้กระหายน้ำ สังเกตสีปัสสาวะ หากมีสีเข้มแสดงว่าร่างกายขาดน้ำให้ดื่มน้ำทันที สวมเสื้อผ้าสีอ่อน มีน้ำหนักเบาและระบายอากาศได้ดี ส่วนผู้ที่รับประทานยารักษาโรคประจำตัว เช่น ยาลดความดันโลหิต ยาแก้คัดจมูก ยาขับปัสสาวะ ยาดังกล่าวอาจส่งผลต่อการควบคุมอุณหภูมิของร่างกาย ควรหมั่นสังเกตอาการตนเอง หากมีอาการผิดปกติให้รีบพบแพทย์ทันที รวมทั้ง สนอ. ได้จัดทำสื่อประชาสัมพันธ์ผ่านช่องทางออนไลน์และป้ายประชาสัมพันธ์ (Kiosk) ที่ศูนย์บริการสาธารณสุข กทม. ทั้ง 69 แห่ง

ที่มา: กรุงเทพมหานคร

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๑๐:๔๙ ไอแบงก์ ลงนาม MOU สินเชื่อสวัสดิการแก่ข้าราชการและลูกจ้างประจำ สำนักงานศาลยุติธรรม กว่า 16,000 คน ทั่วประเทศ
๑๐:๕๔ รวม 4 วิธีที่ช่วยปรับให้รถที่ขับอยู่นุ่มนวลขึ้นเหมือนได้คันใหม่
๑๐:๔๘ ซีพีแรม เปิดตัว FTEC (Food Technology Exchange Center) ศูนย์ความร่วมมือและแลกเปลี่ยนเทคโนโลยีอาหาร
๑๐:๑๔ iQIYI (อ้ายฉีอี้) เดินหน้ารุกตลาดยกระดับวงการ จัดงาน iQIYI 2025 World Conference เปิดตัวพรีเมียมไลน์อัพกว่า 400
๑๐:๑๓ บล.เกียรตินาคินภัทร แนะ 5 หุ้นนอกคุณภาพ นำโดย Netflix และ Mastercard คว้าโอกาสท่ามกลางตลาดผันผวน
๑๐:๓๖ อบอุ่นมาก! จิม ทอมป์สัน x ซี-นุนิว เสิร์ฟความฟินขั้นสุดกับ Exclusive Lucky Fan Dinner ค่ำคืนสุดพิเศษที่เหล่า ซนซน
๑๐:๕๓ เวียตเจ็ทเสริมฝูงบิน เดินหน้ารุกตลาดญี่ปุ่น ขยายเส้นทางระหว่างประเทศ หนุนแผนเติบโตปี 2568
๑๐:๕๖ เบทาโกร ได้รับการยกระดับ CAC ในระดับสูงสุด ตอกย้ำการดำเนินธุรกิจด้วยหลักธรรมาภิบาล ซื่อสัตย์ และโปร่งใส
๐๙:๓๖ เฮ้าส์ สามย่าน จัดสองเทศกาลภาพยนตร์คุณภาพ กับ MOVIEMOV Italian Film Festival 2025 และ European Union Film Festival
๐๙:๑๑ จากไอดอลสู่หมอผี! ซอฮยอนฟาดหนัก เสิร์ฟความเดือด Holy Night: Demon Hunters คนต่อยผี 8 พ.ค.นี้