ดร.ดนันท์ สุภัทรพันธุ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด เปิดเผยว่า เพื่อตอกย้ำศักยภาพการขนส่งของไปรษณีย์ไทยในฐานะหน่วยงานสื่อสารและขนส่งหลักของชาติ ไปรษณีย์ไทยได้เดินหน้าความร่วมมือกับกรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุขภายใต้โครงการ "ภาคีร่วมใจส่งรัก ส่งนมจากอกแม่สู่ลูก" เพื่อร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการขับเคลื่อนและส่งเสริมเด็กไทยให้ได้รับน้ำนมแม่อย่างเต็มที่ ผ่านบทบาทการสนับสนุนให้กลุ่มแม่ที่ทำงานอยู่ในจังหวัดห่างไกลลูกสามารถส่งน้ำนมแม่ให้กับลูกได้ โดยไม่มีค่าใช้จ่ายในการขนส่ง เพื่อช่วยบรรเทาภาระค่าใช้จ่ายของประชาชน โดยเฉพาะกลุ่มครัวเรือน ผู้มีรายได้น้อย ทั้งนี้ ไปรษณีย์ไทยได้นำจุดแข็งด้านเครือข่ายไปรษณีย์ที่ครอบคลุมทุกพื้นที่ทั่วประเทศไทย มาตอบโจทย์โซลูชันการส่งสิ่งของประเภทที่จำเป็นต่อการควบคุมคุณภาพ สามารถจัดส่งถึงที่ทำการไปรษณีย์ปลายทางได้อย่างสมบูรณ์ ซึ่งได้เริ่มดำเนินโครงการแล้วตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป
"การดำเนินโครงการดังกล่าวไม่เพียงสะท้อนถึงศักยภาพด้านโลจิสติกส์ของไปรษณีย์ไทยเท่านั้น แต่ยังตอกย้ำบทบาทในเชิงสังคมและสาธารณสุข ด้วยการเป็นส่วนหนึ่งที่ช่วยให้เด็กไทยได้รับโภชนาการ ที่ดีที่สุดในช่วงวัยของการเจริญเติบโต โดยเฉพาะกับกลุ่มแม่ที่ต้องทำงานนอกพื้นที่และไม่สามารถอยู่กับลูกได้ตลอดเวลา โซลูชันนี้จึงเข้ามาเติมเต็มช่องว่างระหว่างความห่วงใยกับระยะทางด้วยระบบขนส่งที่เปี่ยมไปด้วยคุณภาพและได้รับความเชื่อมั่น ในขณะเดียวกันโครงการนี้ยังเป็นหนึ่งในรูปธรรมของการขับเคลื่อนพันธกิจ ของไปรษณีย์ไทยที่ไม่ได้มีเพียงบทบาทด้านธุรกิจขนส่งและโลจิสติกส์ แต่ยังขยายสู่บทบาทของผู้ดูแล ความเท่าเทียมทางสุขภาพให้เกิดขึ้นในทุกพื้นที่อย่างทั่วถึง"
สำหรับผู้ที่สนใจบริการจัดส่งน้ำนมแม่ผ่านไปรษณีย์ไทย สามารถเข้าร่วมโครงการ "ภาคีร่วมใจส่งรัก ส่งนมจากอกแม่สู่ลูก" ได้แล้ววันนี้ โดยจะต้องลงทะเบียนผ่านทางช่องทาง LINE Official "ส่งนมแม่ผ่าน กรมอนามัย" @anamaimilk พร้อมไปจัดส่ง ณ ที่ทำการไปรษณีย์ ซึ่งมีวิธีการส่งตามขั้นตอนดังนี้ 1.ลงทะเบียนผ่านช่องทางแอปพลิเคชัน LINE Official @anamaimilk 2.กรอกฟอร์มสร้างใบจ่าหน้าออนไลน์ โดยระบุรายละเอียดข้อมูลผู้จัดส่ง - ผู้รับ 3.กรอกข้อมูลการส่ง โดยเลือกช่องทาง - เส้นทางการ ส่งผ่าน "ไปรษณีย์ไทย" ระบุที่ทำการไปรษณีย์ปลายทางที่ลูกค้าจะไปรอรับ พร้อมปริ้นท์ใบจ่าหน้าและ แปะที่กล่องโฟมเก็บความเย็น
ทั้งนี้ ผู้ส่งจะต้องนำน้ำนมแม่บรรจุใส่ถุงซิปล็อคแช่แข็งห่อด้วยกระดาษ และแพ็กใส่กล่องโฟมพร้อมน้ำแข็งหรือ Cool Pack น้ำหนักรวมไม่เกิน 10 กิโลกรัม/ กล่อง พร้อมปริ้นท์ใบจ่าหน้าจากโครงการฯ ซึ่งผู้ส่งจะต้องมาปิดผนึกกล่อง ณ ที่ทำการไปรษณีย์ที่ฝากส่ง เพื่อให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบสิ่งของภายใน ให้เรียบร้อยก่อนการปิดฝาซีล โดยจะต้องมาฝากส่งก่อนเวลา 12.00 น. และฝากส่งได้ครั้งละ 1 กล่อง/วัน/คน โดยไม่มีค่าใช้จ่าย ซึ่งไปรษณีย์ไทยจะนำส่งด้วยบริการ EMS ส่งด่วนทันใจ ตรวจสอบได้ตลอด 24 ชม. ผ่านระบบติดตามสถานะสิ่งของ Track & Trace เริ่มแล้วตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป หรือดูรายละเอียดเงื่อนไข โครงการเพิ่มเติมได้ที่ https://liff.line.me/1654425342-9xoE2605
ที่มา: เจซีแอนด์โค คอมมิวนิเคชั่นส์