เมื่อการเดินทางของสองแบรนด์ไอคอนิค "137 ดีกรี(R)" นมทางเลือกพรีเมียมเพื่อผู้บริโภคสายสุขภาพ และ น้องเนย หรือ Butterbear ไอดอลสาว ซึ่งเป็นที่รักของมัมหมีในไทยและระดับเอเชีย จับมือร่วมกันสร้างประสบการณ์ใหม่ผู้บริโภคที่ให้ความสำคัญกับการมองหาสิ่งดี ๆ เพื่อสุขภาพกาย และมอบความสุขทางใจให้กับตัวเอง ภายใต้แคมเปญใหญ่ครั้งแรก "Meet & Milk จบนมฮีลใจกับน้องเนย"
นางสาวอริสา อร่ามวัฒนานนท์ กรรมการผู้จัดการและผู้ก่อตั้ง บริษัท ซิมเพิ้ล ฟู้ดส์ จำกัด เปิดเผยถึงความร่วมมือในครั้งนี้ว่า 137 ดีกรี(R) และ Butterbear เป็นความร่วมมือของทั้งสองแบรนด์ที่สะท้อนให้เห็นถึงศักยภาพของธุรกิจไทยในการปรับตัวและสร้างคุณค่าใหม่ๆ ให้กับผู้บริโภคในภูมิภาคเอเชีย และในหลายประเทศทั่วโลก
ปัจจุบัน 137 ดีกรี(R) เป็นแบรนด์นมทางเลือกระดับพรีเมียมที่แข็งแกร่งและมียอดขายอันดับ 1 ของไทย โดยมีผลิตภัณฑ์วางจำหน่ายกว่า 35 ประเทศทั่วโลก ขณะที่ไอดอลสาว "น้องเนย" ไอคอนแห่งความสุขจากประเทศไทยที่มีความน่ารักเป็นขวัญใจของมัมหมี พ่อหมีระดับเอเชีย ซึ่งทั้งสองแบรนด์มีเป้าหมายที่สอดคล้องกันในการเพื่อตอบสนองความต้องการของผู้บริโภครุ่นใหม่ที่ให้ความสำคัญกับสุขภาพและคุณภาพของอาหารมากขึ้น
Co-Branding แบรนด์แห่ง 'ความสุข' และ 'สุขภาพดี'
นางสาวอริสา ย้ำว่า การจับมือในครั้งนี้เป็นการผสานจุดแข็งของแต่ละแบรนด์เพื่อนำเสนอผลิตภัณฑ์ที่น่าสนใจ และมีความพิเศษ ช่วยให้ทั้งสองแบรนด์เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายใหม่ โดยเฉพาะกลุ่มผู้บริโภคที่ให้ความสำคัญกับสุขภาพแต่ยังต้องการความอร่อยและเติมความน่ารักสดใสให้ชีวิต ภายใต้แคมเปญนี้ 137 ดีกรี(R) ได้สร้างสรรค์บรรจุภัณฑ์ใหม่ที่เน้นนำเสนอความน่ารักและสดใส รวมทั้งคาแรคเตอร์ที่หลากหลายของน้องเนยเพื่อสร้างความแตกต่าง และทำให้ลูกค้ารู้สึกตื่นเต้น อยากทดลองผลิตภัณฑ์
ทั้งนี้ นอกจากบรรจุภัณฑ์ใหม่ที่มีน้องเนยแล้ว 137 ดีกรี(R) ยังได้นำเสนอ ประสบการณ์ใหม่ให้กับลูกค้าให้ได้เข้ามาสัมผัสกับรสชาตินมอัลมอนด์ ซึ่งเราเป็นแบรนด์หนึ่งเดียวที่คั้นสดจากถั่วเต็มเมล็ด ไม่ใช้หัวเชื้อ หรือ Nut Paste ไม่เติมน้ำตาลทรายโดยใช้ความหวานจากเกสรดอกมะพร้าว ปราศจากไขมันทรานส์ และคอเลสเตอรอล ไม่มีสารกันเสีย คุณค่าสารอาหารเปี่ยมล้น มีวิตามินและแร่ธาตุที่จำเป็นต่อร่างกาย เสริมสร้างภูมิคุ้มกัน ช่วยในการทำงานของสมองและบำรุงสายตา รวมทั้งเนื้อนมที่เข้มข้น สามารถนำไปตีโฟมขึ้นได้ซึ่งเหมาะสำหรับการนำไปต่อยอดเมนูเครื่องดื่มได้หลากหลาย
"นมของ 137 ดีกรี(R) ได้รับการการันตีด้านโภชนาการ โดยสัญลักษณ์ทางเลือกเพื่อสุขภาพ ผู้บริโภคจึงมั่นใจได้ว่าหากคุณเลือกที่จะดื่มนม 137 ดีกรี(R) คุณจะได้รับความเฮลตี้ 100% แน่นอน" นางสาวอริสา กล่าว
'จิบนมฮีลใจกับน้องเนย' ประสบการณ์ที่ดีขึ้นร่วมกัน
ผู้บริโภคในยุคปัจจุบันต้องการความสมดุลทางอารมณ์และประสบการณ์ที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์มากขึ้น กิจกรรม "Meet & Milk: จิบนมฮีลใจกับน้องเนย By 137 Degrees(R)" จึงออกแบบมาเพื่อตอบสนองความต้องการนี้อย่างลงตัว รวมทั้งยังเป็นอีกก้าวของการขยายกลุ่มเป้าหมายจากผู้บริโภคสายสุขภาพทั่วไป ไปสู่กลุ่มคนรุ่นใหม่ วัยทำงาน และกลุ่มคนเมืองที่ให้ความสำคัญกับการดูแลสุขภาพใจไปพร้อม ๆ กับการดูแลสุขภาพกาย
"เราไม่ได้ขายแค่สินค้า แต่กำลังสร้าง "คาแรคเตอร์" และ "ความรู้สึก" ที่แบรนด์สามารถส่งต่อผ่านกิจกรรมสร้างสรรค์และพื้นที่ฮีลใจ เช่น กิจกรรม Meet & Milk ที่ช่วยให้แบรนด์เข้าถึงผู้บริโภคในรูปแบบใหม่ ๆ เพิ่มโอกาสในการสร้างแบรนด์ลอยัลตี้ (Brand Loyalty) และขยายการรับรู้ในวงกว้างมากยิ่งขึ้น" นางสาวอริสา กล่าว
Lifestyle Health Brand ที่สนุก มีเสน่ห์แบบพรีเมียม
ทั้งนี้ ตลาดนมอัลมอนด์และผลิตภัณฑ์ทางเลือกเพื่อสุขภาพยังเติบโตและเปลี่ยนแปลงเร็วขึ้นตามพฤติกรรมผู้บริโภคที่ต้องการรักษาสุขภาพ มองหาความสะดวก ประโยชน์ที่จับต้องได้ ดังนั้น เพื่อให้ 137 ดีกรี(R) จะยังคงเป็นผู้นำตลาดนมอัลมอนด์ประเทศไทย พร้อมเป็นผู้นำเทรนด์ด้วยนวัตกรรมที่คำนึงถึงสุขภาพอย่างแท้จริง โดยพัฒนาโปรดักต์ที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของคนรุ่นใหม่ไปพร้อมกัน
นายธนภูมิ อร่ามวัฒนานนท์ กรรมการผู้อำนวยการฝ่ายปฏิบัติการ บริษัท ซิมเพิ้ล ฟู้ดส์ จำกัด กล่าวว่า เป้าหมายในปี 2050 แบรนด์ 137 ดีกรี(R) จะไม่ได้เป็นแค่ "แบรนด์นมทางเลือกเพื่อสุขภาพ" แต่ต้องการเป็น Lifestyle Health Brand ที่สนุก มีเสน่ห์แบบพรีเมียม และเข้ากับชีวิตประจำวันของคนรุ่นใหม่ ซึ่งการร่วมทำแคมเปญกับน้องเนย จะช่วยเพิ่มการรับรู้และการจดจำแบรนด์และเพิ่มช่องทางการเข้าถึงกลุ่มลูกค้าใหม่ พร้อมกันนี้ยังเป็นการสร้างภาพลักษณ์ที่แข็งแกร่งขึ้นในตลาด รวมถึงกระตุ้นยอดขายให้เติบโตแบบก้าวกระโดด ซึ่งการขับเคลื่อนในครั้งนี้นับเป็น "First Move" ที่จะทำให้ภาพลักษณ์ใหม่มีความชัดเจนยิ่งขึ้น
สำหรับแผนการจัดจำหน่าย 137 ดีกรี(R) แพ็คเกจลาย Butterbear จะถูกวางตัวเป็นคอลเล็กชันพิเศษแบบ Limited Edition ระยะเวลา 1 ปี โดยจำหน่ายผ่านช่องทางร้าน 7-Eleven ในช่วงแรกนี้ จากนั้นพร้อมขยายไปจำหน่ายในช่องทางอื่น ๆ เช่น ห้างสรรพสินค้าและร้านค้าชั้นนำทั่วไป รวมถึงช่องทางออนไลน์ที่ร่วมรายการต่อไป
ทั้งนี้ หากกระแสตอบรับจากผู้บริโภคดีเกินคาด และมีความต้องการจากตลาดในวงกว้าง ทางแบรนด์ไม่ปิดโอกาสในการพิจารณาต่อยอดคอลเล็กชันนี้ในระยะยาว ไม่ว่าจะเป็นการขยายลวดลายหรือการออกสินค้ารุ่นพิเศษเพิ่มเติมในอนาคต เพื่อให้กลายเป็นไอเท็มสะสมสำหรับแฟนพันธุ์แท้ของแบรนด์ และนี่คือเพียงจุดเริ่มต้นของเส้นทางการคอลแลประหว่าง "สุขภาพ" และ "สไตล์" อย่างลงตัว
ที่มา: PR Room
