นายศุภวัฒน์ กล่าวว่า "ผลประกอบการในปี 2567 สะท้อนให้เห็นถึงความมุ่งมั่นและความพยายามในการพัฒนาธุรกิจและการดำเนินงานของบริษัทฯ โดยเฉพาะในด้านการเพิ่มชั่วโมงการผลิตกระแสไฟฟ้าจากเชื้อเพลิง SRF เราสามารถเพิ่มกำลังการผลิตและลดค่าใช้จ่ายในการซ่อมได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทั้งนี้ เนื่องจากทั้งภาครัฐและเอกชนให้ความสำคัญกับด้าน ESG อย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะการใช้ไฟฟ้าสีเขียว (Green energy) ซึ่งทำให้ ETC มีโอกาสทางธุรกิจและการเติบโตที่มากขึ้น นอกจากนี้ ETC เองก็ได้รับการประเมินผลหุ้นยั่งยืนในระดับ AA ในปีนี้อีกด้วย" พร้อมกันนี้ ในที่ประชุมยังอนุมัติทุกมติอย่างเป็นเอกฉันท์ ส่งผลให้บริษัทมีฐานที่มั่นคงในการเติบโตในอนาคต โดยมีผู้ถือหุ้นจำนวนมากเข้าร่วมการประชุมและลงคะแนนเสียงอนุมัติในทุกวาระ
บริษัท เอิร์ธ เท็ค เอนไวรอนเมนท์ จำกัด (มหาชน) มุ่งมั่นที่จะพัฒนาและปรับปรุงการดำเนินงานในด้านประสิทธิภาพและนวัตกรรม เพื่อตอบสนองต่อความท้าทายของโลกในปัจจุบัน และตั้งเป้าที่จะรักษาการเติบโตอย่างยั่งยืนในอนาคต พร้อมเดินหน้าเป็นผู้นำด้านโรงไฟฟ้าขยะแบบครบวงจร คือ มีโรงไฟฟ้าพลังงานขยะอุตสาหกรรม 3 แห่ง คือ ที่จังหวัดสระบุรี จังหวัดพระนครศรีอยุธยา และจังหวัดพิจิตร รวมกำลังการผลิต 20.4 เมกะวัตต์ มีสัญญาซื้อขายไฟฟ้า 16.5 เมกะวัตต์กับการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค ระยะเวลา 20 ปี โดย ETC เป็นบริษัทในกลุ่มเบตเตอร์เวิลด์ กรีน (BWG) ซึ่งเป็นผู้นำด้านการบริหารจัดการกากอุตสาหกรรมที่ใหญ่ที่สุดของประเทศ และมีโรงงานผลิตขยะอัดก้อนเชื้อเพลิงขยะอุตสาหกรรม(SRF) จึงเป็นปัจจัยสนับสนุนทำให้ ETC มีความมั่นคงด้านเชื้อเพลิง รวมถึงข้อได้เปรียบด้านคุณภาพและต้นทุนเชื้อเพลิง ทั้งนี้บริษัทฯยังเปิดกว้างให้แก้พันธมิตรที่จะเข้ามาร่วมดำเนินการส่วนซัพพลายขยะอุตสาหกรรมเพื่อต่อยอดการเติบโตอย่างยั่งยืน
ที่มา: เอิร์ธ เท็ค เอนไวรอนเมนท์