TFM ไตรมาส 1/68 ฟอร์มแกร่งกวาดกำไรสุทธิเติบโตทะลุ 26.8% สะท้อนความสำเร็จ กลยุทธ์การบริหารจัดการที่มีประสิทธิภาพในทุกมิติ รุกปรับพอร์ตสินค้ามาร์จิ้นสูง

พุธ ๓๐ เมษายน ๒๕๖๘ ๑๕:๔๑
TFM ไตรมาส 1/68 ฟอร์มแกร่งกวาดกำไรสุทธิเติบโตทะลุ 26.8% สะท้อนความสำเร็จ กลยุทธ์การบริหารจัดการที่มีประสิทธิภาพในทุกมิติ รุกปรับพอร์ตสินค้ามาร์จิ้นสูง
TFM ไตรมาส 1/68 ฟอร์มแกร่งกวาดกำไรสุทธิเติบโตทะลุ 26.8% สะท้อนความสำเร็จ กลยุทธ์การบริหารจัดการที่มีประสิทธิภาพในทุกมิติ รุกปรับพอร์ตสินค้ามาร์จิ้นสูง

บริษัท ไทยยูเนี่ยน ฟีดมิลล์ จำกัด (มหาชน) หรือ TFM ผู้ผลิตและผู้จัดจำหน่ายอาหารสัตว์น้ำและอาหารสัตว์เศรษฐกิจของไทย ประกาศผลการดำเนินงานไตรมาส 1/2568 กำไรสุทธิ 131.9 ล้านบาท เพิ่มขึ้น26.8 เปอร์เซ็นต์ เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน เป็นผลจากการบริหารจัดการที่มีประสิทธิภาพในทุกมิติ รุกเดินหน้าปรับพอร์ตสินค้ามาร์จิ้นสูง โดยยอดขายอาหารกุ้งโต 9.7 เปอร์เซ็นต์ หนุนอัตรากำไรขั้นต้นแตะ 21.7 เปอร์เซ็นต์ นับเป็นการเติบโตแข็งแกร่ง 5 ไตรมาสติดต่อกัน มั่นใจปีนี้โตต่อเนื่อง พร้อมเดินหน้าต่อยอดธุรกิจ หลังผู้ถือหุ้นอนุมัติแตกพาร์เหลือ 1 บาท จากเดิม 2 บาท

นายพีระศักดิ์ บุญมีโชติ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไทยยูเนี่ยน ฟีดมิลล์ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยถึงผลการดำเนินงานในไตรมาส 1/2568 ว่า บริษัทฯ สามารถสร้างการเติบโตได้อย่างแข็งแกร่ง ด้วยยอดขาย 1,231.3 ล้านบาท โดยพอร์ตอาหารกุ้งยังเติบโตได้ดีถึง 9.7 เปอร์เซ็นต์ เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า จากการเดินหน้าขยายส่วนแบ่งการตลาด ส่งผลให้ไตรมาสแรกของปีบริษัทฯ สามารถทำกำไรสุทธิได้ถึง 131.9 ล้านบาท คิดเป็นอัตราเติบโต 26.8 เปอร์เซ็นต์ สะท้อนให้เห็นถึงความสำเร็จของกลยุทธ์มุ่งเน้นบริหารจัดการที่มีประสิทธิภาพในทุกมิติ ทั้งการบริหารจัดการด้านต้นทุนวัตถุดิบ การปรับพอร์ตสินค้าที่หันมาเน้นขายกลุ่มสินค้า High Margin ส่งผลให้บริษัทฯ สามารถผลักดันอัตรากำไรขั้นต้น (Gross Margin) เพิ่มขึ้นเป็น 21.7 เปอร์เซ็นต์ เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อนถึง 5.6 เปอร์เซ็นต์ ตอกย้ำถึงศักยภาพการดำเนินธุรกิจและความแข็งแกร่งในการบริหารจัดการได้เป็นอย่างดี และพร้อมเติบโตต่อเนื่อง

"ถึงแม้ไตรมาสแรกของปี 68 จะอยู่ในช่วงโลว์ซีซันของธุรกิจ แต่ TFM ยังสามารถทำรายได้และมีกำไรสุทธิที่น่าพอใจ รวมถึง อัตรากำไรขั้นต้นที่เติบโตได้ติดต่อกัน 5 ไตรมาส โดยเฉพาะอย่างยิ่งในส่วนของอาหารกุ้งที่ยังคงเติบโตได้ดีจากการขยายส่วนแบ่งการตลาดอย่างต่อเนื่อง นับเป็นเครื่องพิสูจน์ถึงความสามารถและความแข็งแกร่งในการบริหารธุรกิจของเราได้เป็นอย่างดี" นายพีระศักดิ์ กล่าว

ทั้งนี้ สัดส่วนยอดขายตามผลิตภัณฑ์ในไตรมาส 1/2568 แบ่งเป็นยอดขายอาหารกุ้ง 63 เปอร์เซ็นต์ อาหารปลา 29 เปอร์เซ็นต์ อาหารสัตว์บก 7 เปอร์เซ็นต์ และอื่นๆ ประมาณ 1 เปอร์เซ็นต์ โดยอาหารกุ้งเป็นกลุ่มสินค้าที่เติบโตได้ดี ซึ่ง TFM มีส่วนแบ่งการตลาดอาหารกุ้งในประเทศที่เพิ่มขึ้นจากการเพิ่มลูกค้าใหม่และการเพิ่มยอดขายจากลูกค้าเดิม โดยยอดขายที่เพิ่มขึ้นอย่างโดดเด่นมาจากภาคตะวันออกและภาคใต้ ขณะที่รายได้จากอาหารปลาแม้ว่าหดตัวเล็กน้อยเนื่องจากในไตรมาสแรกของปีมีอากาศหนาวกว่าปกติและเป็นผลจากสถานการณ์ลูกปลาขาดแคลน แต่คาดว่าจะกลับมาฟื้นตัวในไตรมาส 2 ที่สภาพอากาศอบอุ่นขึ้นตามฤดูกาลปกติ ส่วนยอดขายส่งออกอาหารกุ้งเติบโตเป็นสามเท่าตัวของช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า เนื่องจากลูกค้าต่างประเทศหลักในประเทศศรีลังกาฟื้นตัวจากภาวะโรคระบาดและอุทกภัยในปีก่อน โดยบริษัทฯ ยังเร่งเพิ่มยอดขายส่งออกทั้งการเพิ่มลูกค้าในประเทศใหม่ๆและการรักษาฐานลูกค้าเดิม

ในส่วนของการลงทุนไลน์การผลิตใหม่ซึ่งเป็นโครงการ BOI เป็นไปตามแผนที่คาดว่าจะแล้วเสร็จตามกำหนดในช่วงกลางปี ซึ่งจะส่งผลดีต่อภาษีในช่วงครึ่งปีหลัง และแม้จะมีการลงทุนดังกล่าว ณ สิ้นไตรมาส 1/2568 อัตราส่วนหนี้สินต่อทุนของบริษัทฯ ยังอยู่ในเกณฑ์ที่ดีที่ 0.32 เท่า นับเป็นระดับต่ำมากสะท้อนให้เห็นถึงความแข็งแกร่งของกระแสเงินสดและสถานะทางการเงินของบริษัทฯ ที่พร้อมรับมือกับความผันผวนตลอดจนโอกาสในการลงทุนในอนาคต

นอกจากนี้ ในที่ประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2568 เมื่อวันที่ 4 เมษายน 2568 มีมติเป็นเอกฉันท์อนุมัติการเปลี่ยนแปลงมูลค่าที่ตราไว้ (พาร์) ของหุ้นสามัญจากเดิมหุ้นละ 2 บาท เป็น 1 บาท เพื่อเดินหน้าเพิ่มสภาพคล่องหุ้นของบริษัทฯ โดยภายหลังการเปลี่ยนแปลงพาร์จะส่งผลให้ TFM มีหุ้นจดทะเบียนเพิ่มขึ้นจาก 500 ล้านหุ้น พาร์หุ้นละ 2 บาท เป็น1,000 ล้านหุ้น พาร์หุ้นละ 1 บาท ซึ่งการซื้อขายที่ราคาพาร์ใหม่ได้เริ่มมีผลไปแล้วในวันที่ 24 เมษายน 2568 ถือเป็นการเพิ่มโอกาสให้นักลงทุนเข้าถึงหุ้นของบริษัทฯ ได้มากยิ่งขึ้น ซึ่งคาดว่าจะได้รับการตอบรับจากนักลงทุนเป็นอย่างดีในสภาวะที่การลงทุนมีความผันผวน

ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร TFM กล่าวถึงแนวโน้มในไตรมาส 2/2568 ว่า จะเริ่มเข้าสู่ช่วงไฮซีซั่นของธุรกิจ คาดว่าเกษตรกรจะลงลูกกุ้งและลูกปลาเพิ่มขึ้น จะส่งผลให้ยอดขายอาหารสัตว์น้ำเติบโต ขณะเดียวกัน บริษัทฯ ยังคงเดินหน้ากลยุทธ์สำคัญสองด้านควบคู่กันไป ได้แก่ กลยุทธ์ Farmer Engagement ที่มุ่งเน้นการสร้างการมีส่วนร่วมและเสริมสร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับเกษตรกร เพื่อพัฒนาระบบการผลิตร่วมกันและสนับสนุนการเติบโตอย่างยั่งยืนของเกษตรกร และอีกกลยุทธ์คือ Sustainability ที่ให้ความสำคัญกับการดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืน โดยไม่เพียงแต่ส่งเสริมให้เกษตรกรใช้ทรัพยากรอย่างมีประสิทธิภาพ แต่ยังคำนึงถึงการรักษาสิ่งแวดล้อมและการสร้างผลกระทบเชิงบวกต่อสังคม กลยุทธ์เหล่านี้ตอกย้ำถึงความพร้อมรอบด้านของ TFM ในการก้าวไปสู่การยกระดับอุตสาหกรรมอาหารสัตว์น้ำให้เติบโตอย่างยั่งยืน

ที่มา: เอ็ม ที มัลติมีเดีย

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๑๘:๓๓ COM7 เดินหน้าเต็มสปีด EV7 ส่งมอบแท็กซี่ไฟฟ้าล็อตแรก ดันเมกะเทรนด์ EV สู่หัวใจเมือง
๑๘:๓๖ GCAP ประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2568 ไฟเขียวผ่านฉลุยทุกวาระ พร้อมเดินหน้าแผนธุรกิจขยายสู่กลยุทธ์ Non Lending
๑๘:๔๔ PYLON จัดประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2568 ผู้ถือหุ้นไฟเขียวจ่ายปันผล 0.04 บาท/หุ้น
๑๘:๓๙ LDC จัดประชุมสามัญผู้ถือหุ้น ประจำปี 2568 มุ่งเป็นคลินิกทันตกรรมพรีเมียม ในราคาที่เข้าถึงง่าย
๑๘:๑๒ ผู้ถือหุ้น TATG ไฟเขียวจ่ายปันผล 0.07 บาท/หุ้น ลงทุนเครื่องจักรใหม่เสริมแกร่งสายการผลิต พิชิตเป้ารายได้ 3,000
๑๘:๕๗ ADVICE จัดประชุมสามัญผู้ถือหุ้นรูปแบบ Hybrid ประจำปี 2568 ผถห.ไฟเขียวทุกวาระ เคาะแจกปันผล 0.175 บ./หุ้น
๑๘:๓๖ LE ร่วมงานสถาปนิก'68 โชว์นวัตกรรมแสงสว่างอัจฉริยะ เสริมภาพผู้นำ Lighting Solutions Provider
๑๘:๔๖ SELIC จัดประชุมสามัญผู้ถือหุ้น ปี 2568 ผู้ถือหุ้นเห็นชอบทุกวาระ อนุมัติจ่ายปันผล 0.038 บาท/หุ้น เดินหน้า 3 ธุรกิจ
๑๘:๔๙ STA เปิดบ้านต้อนรับภาครัฐ โชว์มาตรฐานรับซื้อยางโปร่งใส เป็นธรรม หนุนรัฐต้านยางเถื่อน
๑๘:๓๕ กรมพัฒนาฝีมือแรงงาน จับมือเอกชน ปั้นช่างเชื่อมโกอินเตอร์ รายได้ทะลุ 70,000 บาทต่อเดือน