ผศ.ดร.ชัยพร เขมะภาตะพันธ์ คณบดีวิทยาลัยวิศวกรรมศาสตร์และเทคโนโลยี (CITE) มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์ (DPU) เปิดเผยว่า เราอยู่ในกระแสของการเปลี่ยนแปลงทางเทคโนโลยีที่รวดเร็ว เช่น การใช้งานระบบประมวลผล Cloud Computing ที่มีมามากกว่า 10 ปี การสร้างระบบงานออนไลน์ผ่านการให้บริการเว็บและโทรศัพท์มือถือ การวิเคราะห์ข้อมูล Data Analytics เพื่อยกระดับการให้บริการขององค์กร และอื่น ๆ ซึ่งโดยรวมก็เป็นการทำ Digital Transformation นั่นเอง แต่บุคลากรส่วนใหญ่ยังไม่เข้าใจเทคโนโลยีเหล่านี้ ทำให้ไม่สามารถปรับหรือประยุกต์ใช้เทคโนโลยีต่าง ๆ ดังกล่าวได้ดีเพียงพอ รวมทั้งยังมีเทคโนโลยี AI ที่กำลังมีบทบาทอย่างชัดเจน
ในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา ตั้งแต่ที่เราเริ่มรู้จัก AI ผ่าน Chat GPT ก็มีแรงกระเพื่อมจากการเปิดตัวของ AI ต่าง ๆ เป็นระยะ ๆ แต่เบื้องหลังการทำงานของเทคโนโลยี AI มีความซับซ้อนและลึกซึ้งมากกว่าที่หลายคนเข้าใจ โดยเทคโนโลยีสำคัญที่เป็นรากฐานของ AI อย่างเช่น สถาปัตยกรรมของ AI ต่าง ๆ หรือโมเดลภาษาขนาดใหญ่หรือ LLMs (Large Language Models) จะช่วยให้เรามี AI ส่วนตัวที่เก่งเฉพาะด้านตามที่เราต้องการ ทำให้ผลลัพธ์มีความถูกต้องและเฉพาะเจาะจงมากขึ้น หรือ Agentic AI เป็นผู้ช่วยอัจฉริยะที่สามารถดำเนินการและตัดสินใจด้วยตนเอง สร้างกระบวนการทำงานที่คล้ายคลึงมนุษย์ หรือเทคนิค RAG (Retrieval Augmented Generation) เข้าถึงข้อมูลจากภายนอกมาใช้ประกอบการประมวลผลก็กำลังได้รับความนิยมอย่างสูงในการนำ AI ไปประยุกต์ใช้งานให้หลากหลาย ช่วยลดเวลาลดกำลังคนหรือเพิ่มประสิทธิภาพของการทำงานได้ ซึ่งแน่นอนในอนาคต AI จะถูกนำไปใช้อย่างกว้างขวางในทุกองค์กรไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง ดังนั้นหากต้องการอยู่รอดในอนาคตหรือสร้างความก้าวหน้าในอาชีพ จำเป็นต้องปรับตัวและพัฒนาทักษะให้ทันต่อการเปลี่ยนแปลงนี้ ผ่านการ Upskill และ Reskill ให้ทันกับเทคโนโลยีที่กำลังมีความสำคัญอย่างมากเหล่านี้ต่อไป
ผศ.ดร.ชัยพร กล่าวต่อว่า เพื่อตอบสนองต่อความท้าทายดังกล่าว CITE DPU จึงได้พัฒนาหลักสูตรระดับปริญญาโทที่มุ่งเน้นการพัฒนาทักษะและความรู้ด้านเทคโนโลยีสมัยใหม่ ประกอบด้วย 4 หลักสูตร ได้แก่
- วิศวกรรมคอมพิวเตอร์ เป็นหลักสูตรที่สำคัญที่เน้นความรู้ด้านเทคนิคที่สำคัญของทุกเทคโนโลยีดิจิทัลที่มีบทบาทในปัจจุบันและอนาคต มีการเรียนภาคทฤษฎีและปฏิบัติในการสร้างและประยุกต์ใช้เทคโนโลยีดิจิทัลต่าง ๆ ได้อย่างลึกซึ้ง รวมทั้ง AI เพื่อนำไปใช้ในการทำงานจริงได้
- การจัดการทางวิศวกรรมและเทคโนโลยี ออกแบบสำหรับผู้บริหารในภาคอุตสาหกรรม เน้นการบริหารจัดการโครงการและทรัพยากรด้วยวิธีการทางวิศวกรรมและการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีดิจิทัลต่าง ๆ เพื่อสร้างกลยุทธ์ในการดำเนินธุรกิจอย่างมีประสิทธิภาพและยั่งยืน
- วิศวกรรมปัญญาประดิษฐ์และข้อมูล มุ่งพัฒนาความรู้เชิงลึกด้านการใช้ประโยชน์จากข้อมูลที่มีอยู่อย่างมากในปัจจุบัน ด้วยวิธีการทาง Machine-Learning AI และการวิเคราะห์ข้อมูลขนาดใหญ่ เพื่อยกระดับองค์กรให้มีประสิทธิภาพสูงขึ้น
- เทคโนโลยีสารสนเทศ มุ่งเน้นการบริหารจัดการระบบเทคโนโลยีสารสนเทศต่าง ๆ กฎระเบียบที่เกี่ยวข้องในการดำเนินการ การสร้างกลยุทธ์เพื่อตอบสนองความต้องการขององค์กรในยุคดิจิทัล กล่าวได้ว่าเป็นหลักสูตร CIO/CTO Academy เลยทีเดียว
ผศ.ดร.ชัยพร กล่าวเพิ่มเติมว่า ทุกหลักสูตรตอบโจทย์ความต้องการในยุคปัจจุบันที่ AI มีบทบาทในทุกองค์กร โดยมีการเรียนการสอนในหัวข้อสำคัญที่เป็นคีย์เวิร์ดของยุคสมัย เช่น Digital Transformation, Digital Twin, Cloud Computing, Cyber Security, Big Data, และ AI ซึ่งเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับปัจจุบันและอนาคต สำหรับหลักสูตรปริญญาโททั้ง 4 หลักสูตร ได้รับการออกแบบให้เหมาะสมกับวัยทำงาน โดยมีการจัดการเรียนการสอนในวันเสาร์หรือวันอาทิตย์เพียงวันเดียว นอกจากนี้ ยังมีการจัดวิชาปรับพื้นฐานเพื่อให้เหมาะสมกับพื้นความรู้ของผู้เรียนแต่ละคน ผู้เรียนสามารถสำเร็จการศึกษาได้ภายในระยะเวลา 1.5 ถึง 2 ปี และหากมีวุฒิการศึกษาระดับปริญญาโทอยู่แล้ว ก็สามารถเทียบโอนหน่วยกิตได้ โดยทุกหลักสูตรเปิดกว้างสำหรับทุกคนที่มีความต้องการที่จะยกระดับความสามารถของตนเองให้ก้าวหน้าได้อย่างมั่นคงต่อไป ที่สำคัญผู้เรียนจะได้เรียนรู้กับคณาจารย์ผู้ทรงคุณวุฒิที่มีความเชี่ยวชาญและมีประสบการณ์จริงทั้งจากการสอนและการทำงานในภาคธุรกิจและอุตสาหกรรม
วิทยาลัยวิศวกรรมศาสตร์และเทคโนโลยี มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์ เปิดรับสมัครนักศึกษาระดับปริญญาโท ตั้งแต่วันนี้ถึงวันที่ 31 สิงหาคม 2568 โดยมีทุนการศึกษาต่าง ๆ มากมายสำหรับผู้ที่มีความมุ่งมั่นอีกด้วย ผู้สนใจสามารถศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ https://www.dpu.ac.th/th/college-of-engineering-and-technology
ที่มา: มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์
