กรมส่งเสริมสหกรณ์แนะ ยึดหลักเศรษฐกิจพอเพียง มีวินัย ใส่ใจอาชีพ หมดหนี้แน่นอน

อังคาร ๒๘ สิงหาคม ๒๐๐๗ ๑๕:๒๓
กรุงเทพฯ--28 ส.ค.--กรมส่งเสริมสหกรณ์
กรมส่งเสริมสหกรณ์ย้ำ เกษตรกรต้องเชื่อมั่นและเข้าใจวัตถุประสงค์ของโครงการแปลงสินทรัพย์เป็นทุน ยึดหลักเศรษฐกิจพอเพียงตามแนวพระราชดำริ อย่าปิดกั้นตัวเองและพร้อมเข้าถึงแก่นของการเกษตร เพื่อผลแห่งความสำเร็จในอนาคต
นางสาวสุพัตรา ธนเสนีวัฒน์อธิบดีกรมส่งเสริมสหกรณ์กล่าวถึงโครงการแปลงสินทรัพย์เป็นทุนที่อยู่ในความรับผิดชอบของกรมส่งเสริมสหกรณ์ว่า “โครงการแปลงสินทรัพย์เป็นทุนเป็นโครงการที่กรมส่งเสริมสหกรณ์ได้เปิดโอกาสให้เกษตรกรนำที่ดินของตน (กสน.3)มายื่นเป็นหลักประกันสินเชื่อกับ ธกส. เพื่อกู้เงินอย่างถูกต้องตามระบบและนำไปประกอบอาชีพได้อย่างเหมาะสม โดยโครงการดังกล่าวถือว่าเป็นโครงการที่ทำให้เกษตรกรนำเงินที่ได้มาไปลงทุนประกอบอาชีพต่างๆ ซึ่งประสบผลสำเร็จตามวัตถุประสงค์ที่กรมส่งเสริมสหกรณ์ได้ตั้งไว้”
อธิบดีกรมส่งเสริมสหกรณ์กล่าวเพิ่มเติมอีกว่า “ปัจจัยที่ทำให้การประกอบอาชีพประสบผลสำเร็จเริ่มตั้งแต่การฝึกอบรมผู้แทนสหกรณ์ภาคการเกษตร การให้คำแนะนำแก่เกษตรกรในการเลือกประกอบอาชีพ เพื่อให้ตอบสนองต่อความต้องการของตลาด การฝึกอบรมเกษตรกรให้มีความรู้และเข้าใจระบบกลไกของตลาดตลอดจนเทคนิควิธีการต่างๆ ในการประกอบอาชีพ การฟื้นฟูอาชีพของเกษตรกร ทั้งการให้งบประมาณถ่ายทอดเทคโนโลยีและงบประมาณสนับสนุนปัจจัยการผลิตต่างๆการประชาสัมพันธ์ประชุมชี้แจง ติดตาม กำกับ แนะนำการดำเนินงานตามโครงการ ทั้งนี้เกษตรกรต้องควบคุมการใช้จ่าย โดยไม่นำเงินไปใช้ผิดวัตถุประสงค์หรือนำไปใช้จ่ายในทางที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ อีกทั้งเกษตรกรต้องเปิดใจและพร้อมที่จะรับความรู้ที่ได้จากการฝึกอบรมหรือถ่ายทอดและพยายามทำความเข้าใจวัตถุประสงค์หลักของโครงการแปลงสินทรัพย์เป็นทุนที่ตนเข้าร่วม และสิ่งที่สำคัญที่สุด คือเกษตรกรจะต้องยึดหลักเศรษฐกิจพอเพียงตามแนวพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว”
เกี่ยวกับโครงการแปลงสินทรัพย์เป็นทุน
โครงการแปลงสินทรัพย์เป็นทุนได้รับความเห็นชอบจากคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 4 มีนาคม 2546 โดยกรมส่งเสริมสหกรณ์ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เป็นผู้รับผิดชอบดำเนินการ โดยมีวัตถุประสงค์ 4 ประการ คือ 1.ให้เร่งรัดการออกเอกสารสิทธิสัญญา หนังสืออนุญาตต่างๆ เกี่ยวกับสินทรัพย์ที่จะนำมาแปลงเป็นทุน รวมทั้งการตรวจสอบรับรองความถูกต้องของเอกสารดังกล่าว 2.เปิดโอกาสให้ผู้ครอบครองเอกสารสิทธิ์ สัญญาและหนังสืออนุญาตสามารถใช้เอกสารเหล่านั้นเข้าถึงแหล่งทุนได้โดยเน้นผู้ครอบครองรายย่อยและธุรกิจขนาดเล็ก 3.ให้มีการปรับระบบข้อมูลสินทรัพย์และการประเมินสินทรัพย์ที่ถูกต้อง โปร่งใสมีความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย 4.ให้มีการจัดที่ดินและสินทรัพย์อื่นให้เหมาะสมกับสภาพเศรษฐกิจและสังคมไทยและก่อให้เกิดประโยชน์สูงสุด
สามารถคลิกดูภาพประกอบได้ที่ www.thaipr.net

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๑๘:๓๓ COM7 เดินหน้าเต็มสปีด EV7 ส่งมอบแท็กซี่ไฟฟ้าล็อตแรก ดันเมกะเทรนด์ EV สู่หัวใจเมือง
๑๘:๓๖ GCAP ประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2568 ไฟเขียวผ่านฉลุยทุกวาระ พร้อมเดินหน้าแผนธุรกิจขยายสู่กลยุทธ์ Non Lending
๑๘:๔๔ PYLON จัดประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2568 ผู้ถือหุ้นไฟเขียวจ่ายปันผล 0.04 บาท/หุ้น
๑๘:๓๙ LDC จัดประชุมสามัญผู้ถือหุ้น ประจำปี 2568 มุ่งเป็นคลินิกทันตกรรมพรีเมียม ในราคาที่เข้าถึงง่าย
๑๘:๑๒ ผู้ถือหุ้น TATG ไฟเขียวจ่ายปันผล 0.07 บาท/หุ้น ลงทุนเครื่องจักรใหม่เสริมแกร่งสายการผลิต พิชิตเป้ารายได้ 3,000
๑๘:๕๗ ADVICE จัดประชุมสามัญผู้ถือหุ้นรูปแบบ Hybrid ประจำปี 2568 ผถห.ไฟเขียวทุกวาระ เคาะแจกปันผล 0.175 บ./หุ้น
๑๘:๓๖ LE ร่วมงานสถาปนิก'68 โชว์นวัตกรรมแสงสว่างอัจฉริยะ เสริมภาพผู้นำ Lighting Solutions Provider
๑๘:๔๖ SELIC จัดประชุมสามัญผู้ถือหุ้น ปี 2568 ผู้ถือหุ้นเห็นชอบทุกวาระ อนุมัติจ่ายปันผล 0.038 บาท/หุ้น เดินหน้า 3 ธุรกิจ
๑๘:๔๙ STA เปิดบ้านต้อนรับภาครัฐ โชว์มาตรฐานรับซื้อยางโปร่งใส เป็นธรรม หนุนรัฐต้านยางเถื่อน
๑๘:๓๕ กรมพัฒนาฝีมือแรงงาน จับมือเอกชน ปั้นช่างเชื่อมโกอินเตอร์ รายได้ทะลุ 70,000 บาทต่อเดือน