สำนักงานความร่วมมือทางวิชาการของเยอรมัน ร่วมกับธนาคารไทย แนะนำบริการเพื่อเพิ่มโอกาสการเข้าถึงบริการทางการเงินสำหรับ SMEs ไทย

พุธ ๑๑ เมษายน ๒๐๐๗ ๑๕:๔๐
กรุงเทพฯ--11 เม.ย.--GTZ
สำนักงานความร่วมมือทางวิชาการของเยอรมัน (GTZ) ภายใต้โครงการเสริมสร้างขีดความสามารถในการแข่งขันของวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม ร่วมกับสถาบันการเงินเฉพาะกิจภาครัฐได้แก่ ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธกส.) ธนาคารเพื่อการพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย (ธพว.) ธนาคารออมสิน (ธอส.) รวมทั้งสถาบันการเงินภาคเอกชนในนามของสมาคมธนาคารไทย ดำเนินโครงการเพื่อปรับปรุงการเข้าถึงบริการทางการเงิน (Services for Improving Financial Access - SIFA) สำหรับ ผู้ประกอบการวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมในอุตสาหกรรมการเกษตร ได้แก่ ปาล์มน้ำมัน กุ้ง มันสำปะหลัง ผักและผลไม้ รวมทั้งกระดาษสา โดยมีระยะเวลาตั้งแต่ปี พศ. 2550 จนถึง ปลายปี พศ. 2551ภายใต้โครงการ SIFA จะมีการดำเนินการโครงการย่อยและบริการในรูปแบบต่างๆที่จะเป็นประโยชน์และเอื้อต่อการเข้าถึงบริการทางการเงิน โดย GTZ จะร่วมมือกับสถาบันการเงินจากภาคเอกชนซึ่งมีสาขาและจุดบริการที่ครอบคลุมกลุ่มเป้าหมาย SMEs ทั้งนี้เพื่อเป็นการขยายผลของโครงการออกสู่ตลาดในวงกว้างมากขึ้น โดยจะนำแนวทางการพัฒนาตลาดบริการ (Service Market Development Approach) ในรูปแบบใหม่ๆ มาใช้ในการออกแบบโครงการย่อย เพื่อลดข้อจำกัดของบริการและผลิตภัณฑ์ทางการเงินที่มีอยู่ในตลาดการเงินปัจจุบัน โครงการย่อยจะประกอบด้วยบริการในด้านต่างๆ ดังนี้
- การพัฒนาผลิตภัณฑ์ทางการเงินในรูปแบบใหม่ เพื่อตอบสนองความต้องการทางด้านสินเชื่อและบริการทางการเงินในรูปแบบต่างๆ ของผู้ประกอบการ SMEs
- การพัฒนาศักยภาพของสถาบันการเงินทั้งด้านแนวความคิด การออกแบบคิดค้นนวัตกรรมทางการเงินที่เหมาะสมเพื่อนำเสนอต่อกลุ่มเป้าหมายผู้ประกอบการ SMEs ที่ยังขาดแหล่งเงินทุน
- การปรับปรุงกรอบนโยบาย ระเบียบ ข้อบังคับ และกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับตลาดบริหารทางการเงินของ SMEs
มร. เจมส์ โทเมคโค ผู้อำนวยการ กลุ่มงานบริการทางธุรกิจและการเงิน GTZ ประจำประเทศไทย กล่าวว่าโครงการเพื่อปรับปรุงการเข้าถึงบริการทางการเงิน (SIFA) เป็นการดำเนินงานภายใต้โครงการเสริมสร้างขีดความสามารถในการแข่งขันของวิสาหกิจไทย-เยอรมัน ที่มีจุดมุ่งหมายเพื่อพัฒนาขีดความสามารถทางการแข่งขันของผู้ประกอบการ วิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (SMEs) โครงการ SIFA จะเน้นการเข้าถึงบริการทางการเงินเพื่อตอบสนองอุปสงค์หรือความต้องการทางการเงินของ SMEs ทั้งนี้เนื่องจากทางโครงการตระหนักดีว่าผู้ที่ให้บริการทางการเงินหลักแก่ SMEs ในประเทศไทยคือสถาบันการเงินภาคเอกชนหรือธนาคารพาณิชย์ ซึ่งมีการรวมตัวกันผ่านทางสมาคมธนาคารไทย ดังนั้นการร่วมมือกับสมาคมธนาคารไทย (TBA) จึงจะเป็นการขยายผลให้ผู้ประกอบการ SMEs เข้าถึงบริการทางการเงินได้มากยิ่งขึ้น”
“โครงการฯ จะเน้นการพยายามสร้างความเข้าใจให้สถาบันการเงินภาคเอกชนหันมาสนใจปล่อยสินเชื่อแก่กลุ่ม SMEs ที่ยังขาดแหล่งเงินทุนดังกล่าว และชี้ให้เห็นว่าเป็นกลุ่มขนาดใหญ่ที่มีศักยภาพทางธุรกิจ และสามารถสร้างผลกำไรเชิงพาณิชย์ต่อสถาบันการเงินได้” มร. โทเมคโค กล่าวเสริม
แผนภาพข้างล่างแสดงให้เห็นแนวทางการดำเนินการ และผลที่คาดว่าจะได้รับเพื่อเพิ่มขีดความสามารถทางการแข่งขันของผู้ประกอบการไทยผ่านการปรับปรุงการเข้าถึงบริการทางการเงิน
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม กรุณาติดต่อ
ศิริพร ตรีพรไพรัช
ผู้จัดการฝ่ายงานประชาสัมพันธ์ สำนักงานความร่วมมือทางวิชาการของเยอรมัน ประจำประเทศไทย
โทรศัพท์ 02 661 9273 ต่อ 13 โทรสาร 02 661 9281 อีเมล์ [email protected]

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๑๘:๓๓ COM7 เดินหน้าเต็มสปีด EV7 ส่งมอบแท็กซี่ไฟฟ้าล็อตแรก ดันเมกะเทรนด์ EV สู่หัวใจเมือง
๑๘:๓๖ GCAP ประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2568 ไฟเขียวผ่านฉลุยทุกวาระ พร้อมเดินหน้าแผนธุรกิจขยายสู่กลยุทธ์ Non Lending
๑๘:๔๔ PYLON จัดประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2568 ผู้ถือหุ้นไฟเขียวจ่ายปันผล 0.04 บาท/หุ้น
๑๘:๓๙ LDC จัดประชุมสามัญผู้ถือหุ้น ประจำปี 2568 มุ่งเป็นคลินิกทันตกรรมพรีเมียม ในราคาที่เข้าถึงง่าย
๑๘:๑๒ ผู้ถือหุ้น TATG ไฟเขียวจ่ายปันผล 0.07 บาท/หุ้น ลงทุนเครื่องจักรใหม่เสริมแกร่งสายการผลิต พิชิตเป้ารายได้ 3,000
๑๘:๕๗ ADVICE จัดประชุมสามัญผู้ถือหุ้นรูปแบบ Hybrid ประจำปี 2568 ผถห.ไฟเขียวทุกวาระ เคาะแจกปันผล 0.175 บ./หุ้น
๑๘:๓๖ LE ร่วมงานสถาปนิก'68 โชว์นวัตกรรมแสงสว่างอัจฉริยะ เสริมภาพผู้นำ Lighting Solutions Provider
๑๘:๔๖ SELIC จัดประชุมสามัญผู้ถือหุ้น ปี 2568 ผู้ถือหุ้นเห็นชอบทุกวาระ อนุมัติจ่ายปันผล 0.038 บาท/หุ้น เดินหน้า 3 ธุรกิจ
๑๘:๔๙ STA เปิดบ้านต้อนรับภาครัฐ โชว์มาตรฐานรับซื้อยางโปร่งใส เป็นธรรม หนุนรัฐต้านยางเถื่อน
๑๘:๓๕ กรมพัฒนาฝีมือแรงงาน จับมือเอกชน ปั้นช่างเชื่อมโกอินเตอร์ รายได้ทะลุ 70,000 บาทต่อเดือน