กรุงเทพฯ--20 มิ.ย.--วี.อาร์.แฮนด์เดิล
“วีอาร์เอช” หนึ่งในผู้นำก๊อกน้ำสเตนเลส อัดงบกว่า 200 ล้านบาท เปิดโรงงานแห่งที่ 2 ประกาศเดินหน้ารุกตลาดก๊อกน้ำเจาะตลาดทุกกลุ่มเป้าหมาย พร้อมอวดโฉมเครื่องจักรขนาดใหญ่ “วอเตอร์ เจ็ต” (Water Jet) นวัตกรรมล้ำยุคเพื่อผลิตก๊อกน้ำสเตนเลสโดยเฉพาะ มั่นใจปี 2550 ยอดขายทะลุ 600 ล้านบาท
นายสุวี หทัยพันธลักษณ์ ประธานกรรมการ บริษัท วี.อาร์.แฮนด์เดิล จำกัด ผู้ผลิตก๊อกประหยัดน้ำ ภายใต้แบรนด์ “วีอาร์เอช” เปิดเผยว่า โดยตลอดระยะเวลาที่ผ่านมากว่า 30 ปี บริษัทฯ ได้ดำเนินการผลิต และพัฒนาสินค้าหลากหลายรูปแบบด้วยสเตนเลส ซึ่งแบ่งกลุ่มสินค้าออกเป็น 5 ประเภท คือ ก๊อกน้ำและอุปกรณ์สำหรับก๊อกน้ำ ,อุปกรณ์เครื่องใช้ในห้องน้ำ ,มือจับและอุปกรณ์ติดตั้งประตู ,ตะแกรง และชุดเคาน์เตอร์อ่างล้างหน้า สำหรับในปีนี้ บริษัทฯ มีแผนจะบุกตลาดผลิตก๊อกน้ำให้มากยิ่งขึ้น โดยได้เปิดโรงงานแห่งที่ 2 ขึ้น ที่อำเภอกระทุ่มแบน จังหวัดสมุทรสาคร เพื่อรองรับอัตราการขยายตัวของธุรกิจอสังหาฯ และกลุ่มผู้บริโภคทั่วไปอย่างต่อเนื่อง
ทั้งนี้ โรงงานที่ 2 แห่งใหม่ จะมีความทันสมัยโดยบริษัทฯ ได้ทำการติดตั้งเครื่องจักรขนาดใหญ่ที่ควบคุมด้วยระบบคอมพิเตอร์ ที่เรียกว่า วอเตอร์ เจ็ต (Water Jet) เพื่อช่วยในการตัด สเตนเลสได้อย่างมีประสิทธิภาพและรวดเร็ว ซึ่งบริษัทฯ ใช้งบลงทุนสำหรับโรงงานแห่งใหม่นี้กว่า 200 ล้านบาท และมีพื้นที่ใช้สอยประมาณ 8 ไร่
“ในปัจจุบัน ก๊อกน้ำสเตนเลสของ “วีอาร์เอช” ถือว่าเป็นผู้นำตลาดกลุ่มพรีเมียม เรามีการพัฒนาทั้งรูปแบบและคุณภาพมาโดยตลอด ภายหลังจากที่บริษัทฯ ได้ผลิตก๊อกน้ำในโรงงานที่ 2 อย่างเต็มรูปแบบแล้ว คาดว่าจะทำให้สัดส่วนการผลิตสินค้าประเภทก๊อกน้ำของบริษัทฯ เพิ่มมากขึ้นจากปัจจุบันที่มีกำลังการผลิตเพียง 30 เปอร์เซ็นต์ของสินค้าทั้งหมด และจะเพิ่มขึ้นเป็น 70 เปอร์เซ็นต์ เพื่อขยายตลาดไปยังกลุ่มเป้าหมายให้ครบทุกกลุ่ม ในขณะที่โรงงาน 1 นั้น ยังคงให้ความสำคัญในการผลิตตะแกรง,มือจับและอุปกรณ์ติดตั้งประตู,อุปกรณ์เครื่องใช้ให้องน้ำ และชุดเคาน์เตอร์อ่างล้างหน้า”
สำหรับจุดเด่นของสินค้า ภายใต้แบรนด์ “วีอาร์เอช” คือ ความคุ้มค่าของผลิตภัณฑ์ที่ทำจากสเตนเลส ที่มีความทนทาน และการดีไซน์ผลิตภัณฑ์ที่มีความทันสมัย แปลก และแตกต่างจากผลิตภัณฑ์ที่ขายตามท้องตลาดทั่วไป โดยราคาสินค้าเริ่มตั้งแต่ประมาณ 300 -20,000 บาท ซึ่งมีราคาถูกกว่าสินค้าระดับเดียวกันที่นำเข้าจากต่างประเทศ เพราะสินค้าที่นำเข้านั้นจะต้องเสียภาษีมากกว่าทำให้ราคาในตลาดแพงกว่าของเรา แต่ในเรื่องคุณภาพไม่แตกต่างกัน
ประธานกรรมการบริษัทฯ ยังได้กล่าวอีกว่า จากผลประกอบการในปี 2549 ที่ผ่านมา บริษัทฯ มีสัดส่วนการส่งออก 60 เปอร์เซ็นต์ และจำหน่ายในประเทศ 40 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งในส่วนของการส่งออก จะเป็นผลิตภัณฑ์ก๊อกน้ำมากถึง 80 เปอร์เซ็นต์ คิดเป็นยอดขายรวมประมาณ 350 ล้านบาท และในปี 2550 นี้ บริษัทฯ ได้ตั้งเป้ายอดขายเพิ่มขึ้นประมาณ 600 ล้านบาท โดยเราตลาดกลุ่มประเทศส่งออกที่สำคัญ ได้แก่ เม็กซิโก เนเธอร์แลนด์ สเปน เบลเยี่ยม สวีเดน สิงคโปร์ มาเลเซีย อินโดนีเซีย ญี่ปุ่น กัมพูชา ลาว เป็นต้น และตลาดในประเทศนั้น บริษัทฯ ได้วางสินค้าในร้านสุขภัณฑ์ชั้นนำทั่วไป รวมทั้งโมเดิร์น เทรด ซึ่งรวมกว่า 600 จุดทั่วประเทศ
นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังได้ผลิต “ก๊อกประหยัดน้ำ” นวัตกรรมใหม่ล่าสุดที่ได้พัฒนาและผลิต ออกสู่ตลาดบ้างแล้ว แต่คงต้องใช้เวลาสักระยะหนึ่ง เพราะถือว่าเป็นตลาดใหม่ เนื่องจากปัจจุบันคนไทยก็เริ่มรณรงค์เรื่องการประหยัดพลังงาน โดยเฉพาะผลิตภัณฑ์ก๊อกประหยัดน้ำของ “วีอาร์เอช” ซึ่งจากการทดสอบ สามารถประหยัดน้ำได้มากถึง 5 เท่า และน่าจะเป็นอีกหนึ่งทางเลือก ในการช่วยชาติประหยัดพลังงานต่อไปในอนาคต
สามารถคลิกดูภาพประกอบได้ที่ www.thaipr.net