กรุงเทพฯ--6 มี.ค.--124 คอมมิวนิเคชั่นส
บริษัท ไทยสโตเรจ แบตเตอรี่ จำกัด (มหาชน) และบริษัท ผลิตภัณฑ์ 3เค จำกัด ผู้นำอันดับหนึ่งในธุรกิจผลิตและจำหน่ายแบตเตอรี่สัญชาติไทย แบรนด์ “3เค แบตเตอรี่” สรุปรายได้ประจำปี 49 กว่า 3,736.10 ล้านบาท เพิ่มสูงขึ้นกว่า 24.81% จากปี 48 ด้วยกำไรสุทธิ 150.37 ล้านบาท ตั้งเป้ารายได้ปี 50 โตไม่น้อยกว่า 10 เปอร์เซ็นต์ ด้วยแผนเดินหน้ารุกขยายต่างประเทศ
นายวีรวัฒน์ ขอไพบูลย์ กรรมการ บริษัท ไทยสโตเรจ แบตเตอรี่ จำกัด (มหาชน) และกรรมการผู้จัดการ บริษัท ผลิตภัณฑ์ 3เค จำกัด กล่าวถึงผลประกอบการไตรมาส 4 ปี 2549 ว่า บริษัทฯ มีรายได้รวมทั้งสิ้น 1,149.60 ล้านบาท ปรับตัวเพิ่มขึ้น 32.29% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน และมีกำไรสุทธิ 52.59 ล้านบาท ส่งผลให้ยอดรายได้รวมประจำปี 2549 เพิ่มสูงขึ้นเป็น 3,736.10 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 24.81% ด้วยกำไรสุทธิจำนวน 150.37 ล้านบาท
“จากผลประกอบการปี 2549 ถือว่ามีการเติบโตตามเป้าที่วางไว้ ซึ่งปัจจัยสำคัญที่ส่งผลให้รายได้ของบริษัทฯสามารถเติบโตได้ตามเป้านั้นมาจากจำนวนร้านค้าตัวแทนจำหน่ายภายในประเทศที่เพิ่มขึ้น และความสำเร็จจากการปรับกลยุทธ์สร้างโปรโมชั่นด้านการขาย รวมถึงความสำเร็จจากการบุกตลาดในต่างประเทศ” นายวีรวัฒน์ กล่าว
ทั้งนี้ จากผลประกอบการในปี 49 พบว่าบริษัทฯ สามารถทำยอดขายในตลาดต่างประเทศได้สูงถึง 1,714.19 ล้านบาท ปรับตัวเพิ่มขึ้นกว่า 24.64% จากปีก่อน เนื่องจากการขยายฐานลูกค้าใหม่ และการเพิ่มขึ้นของยอดขายในผลิตภัณฑ์ประเภทต่างๆ อาทิ แบตเตอรี่โซลาร์เซลล์ แบตเตอรี่สำหรับรถโฟล์คลิฟต์ และแบตเตอรี่สำหรับรถไฟฟ้า เป็นต้น ประกอบกับความได้เปรียบทางด้านราคาและมาตรฐานคุณภาพของผลิตภัณฑ์ ที่ได้รับการยอมรับจากเหล่าลูกค้านานาชาติ ซึ่งในปัจจุบัน แบตเตอรี่ 3เค ส่งออกไปจำหน่ายยังต่างประเทศแล้วกว่า 50 ประเทศทั่วโลก อาทิ ตะวันออกกลาง แอฟริกา เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ไต้หวัน ญี่ปุ่น ยุโรป อเมริกา และการขยายตลาดไปยังทวีปออสเตรเลีย
อย่างไรก็ตาม ภายใต้ภาวะความไม่แน่นอนของเศรษฐกิจ การเมือง และปัญหาอุทกภัย อีกทั้งภาวะที่ราคาตะกั่วมีการปรับตัวเพิ่มขึ้นกว่า 20 เปอร์เซ็นต์ ในปีที่ผ่านมา ถือได้ว่าบริษัทฯสามารถรับมือและจัดการกับปัจจัยต่างๆที่ส่งผลกระทบต่อธุรกิจได้เป็นอย่างดี แม้ทั้งหมดนี้จะส่งผลให้กำไรสุทธิของบริษัทฯ มีการปรับตัวลงเล็กน้อยจากปี 48 แต่ทั้งนี้ภายหลังการริเริ่มกลยุทธ์โปรโมชั่นการขายที่เจาะจงเฉพาะกลุ่มลูกค้าในแต่ละภูมิภาคเมื่อปลายปีที่ผ่านมา ซึ่งได้รับความสำเร็จมาก ซึ่งส่งผลให้กำไรสุทธิในไตรมาส 4 ปี 49 มีการปรับตัวเพิ่มขึ้นจากไตรมาส 3 ปี 49 กว่า 105.67%
นายวีรวัฒน์ กล่าวต่อว่า สำหรับภาพรวมธุรกิจในปี 50 นี้ บริษัทฯ มั่นใจว่าผลประกอบการจะเพิ่มสูงขึ้นแน่นอนทั้งในส่วนของรายได้และกำไรสุทธิ ซึ่งในปี 50 บริษัทฯ ตั้งเป้ารายได้เติบโตไม่น้อยกว่า 10% โดยสำหรับตลาดในประเทศ บริษัทฯ จะดำเนินกลยุทธ์สร้างสรรค์โปรโมชั่นการขายอย่างต่อเนื่อง อีกทั้งรักษาฐานลูกค้าให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น โดยตั้งเป้าเพิ่มส่วนแบ่งการตลาดในประเทศจากเดิมที่ 35% เป็น 38% ในปี 50
นอกจากนี้ ในปี 50 จะมีการออกผลิตภัณฑ์ใหม่ คือ 3K นินจา X100 ด้วยเทคโนโลยีล่าสุด 3K HIGH PERFORMANCE PE ENVELOPE ด้วยเทคโนโลยีนี้จะสามารถลดต้นทุนการผลิตได้ถึง 10% ซึ่งล่าสุดภายหลังการเปิดตัวสินค้าเมื่อต้นปีที่ผ่านมาได้รับผลตอบรับด้วยยอดจองสินค้าที่สูงกว่าที่ตั้งเป้าไว้ โดยในเบื้องต้นได้มียอดกำลังการผลิตแบตเตอรี่รุ่นดังกล่าวที่ 20,000 — 30,000 ลูก / เดือน
ทั้งนี้ สำหรับตลาดต่างประเทศ บริษัทฯ มีแผนจะรุกขยายตลาดต่างประเทศอย่างเต็มที่ในปีนี้ โดยตั้งเป้าเพิ่มสัดส่วนการขยายตลาดต่างประเทศเป็น 55% จากเดิม 50% เนื่องจากเล็งเห็นว่ามีโอกาสที่จะเติบโตได้สูง ซึ่งตลาดหลักในการส่งออกจะเป็นประเทศในแถบตะวันออกกลาง แอฟริกา และเอเชีย
อนึ่ง บริษัท ไทยสโตเรจ แบตเตอรี่ จำกัด (มหาชน) ผู้ประกอบธุรกิจผลิตและจัดจำหน่ายแบตเตอรี่ ภายใต้ชื่อ 3เค แบตเตอรี่ ประกอบด้วยบริษัทในเครือที่ครบวงจรเพื่อสนับสนุนธุรกิจโดยรวมของบริษัท ได้แก่ บริษัท ผลิตภัณฑ์ 3เค จำกัด ดำเนินธุรกิจเป็นตัวแทนจำหน่ายแบตเตอรี่รถยนต์ แบตเตอรี่รถกอล์ฟ แบตเตอรี่เพื่อแสงสว่างและแบตเตอรี่รถจักรยานยนต์ บริษัท ไทยนันเฟอรัส เมทัล จำกัด ผู้ประกอบกิจการหลอมตะกั่วผสม ซึ่งเป็นวัตถุดิบหลักในการใช้ผลิตแบตเตอรี่ พร้อมด้วยบริษัทร่วม คือ บริษัท ไทยสโตเรจ แบตเตอรี่ เจแปน จำกัด บริษัทจดทะเบียนเป็นนิติบุคคลใน ประเทศญี่ปุ่น เพื่อดูแลการจำหน่ายแบตเตอรี่รถยนต์ทั่วไป และแบตเตอรี่เพื่ออุตสาหกรรม รวมทั้งให้บริการหลังการขาย และให้ความรู้แก่ตัวแทนจำหน่ายและผู้บริโภค รวมถึงการส่งเสริมการจำหน่าย สินค้าของ 3เค ในตลาดประเทศญี่ปุ่น
ข้อมูลเพิ่มเติม กรุณาติดต่อ
คชภพ สงวนวงศ์ / พรพรรณ ฉวีวรรณ
บริษัท 124 คอมมิวนิเคชั่นส จำกัด (มหาชน)
โทร 0-2662-2266
www.124comm.com