กรุงเทพฯ--23 พ.ค.--คต.
นางอภิรดี ตันตราภรณ์ อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ เปิดเผยว่ารัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ รองประธานคณะกรรมการนโยบายข้าว ได้อนุมัติการระบายข้าวหอมมะลิไทยตามสภาพ (ที่สุ่มตรวจและไม่ผ่านผลวิเคราะห์พันธุกรรม) ชนิดข้าวขาว 100% ชั้น 2 ตามโครงการรับจำนำข้าวเปลือกนาปี ปีการผลิต 2547/48 ข้าวขาว ชนิด 5% ตามโครงการรับจำนำข้าวนาปี ปี 2548/49 ข้าวหอมจังหวัด ตามโครงการรับจำนำข้าวนาปี ปี 2547/48 และปี 2548/49 และกรมการค้าต่างประเทศได้ประกาศเชิญชวนให้ผู้สนใจยื่นซองเสนอราคาตามหนังสือลงวันที่ 21 พฤษภาคม 2550 ตามเงื่อนไขและรายละเอียด ดังนี้
1. ชนิดข้าวสารที่จะระบาย
1.1 ข้าวหอมมะลิไทยตามสภาพ (ที่สุ่มตรวจและไม่ผ่านผลวิเคราะห์พันธุกรรม) ชนิดข้าวขาว 100% ชั้น 2 ตามโครงการรับจำนำข้าวเปลือกนาปี ปีการผลิต 2547/48 ปริมาณ 93,000 ตัน
1.2 ข้าวขาว ชนิด 5% ตามโครงการรับจำนำข้าวนาปี ปี 2548/49 ปริมาณ 200,000 ตัน
1.3 ข้าวหอมจังหวัด ตามโครงการรับจำนำข้าวนาปี ปี 2547/48 และปี 2548/49 ปริมาณ 100,000 ตัน
2. วิธีการระบาย ใช้วิธียื่นซองเสนอราคา โดยมีการกำหนดการ ดังนี้
2.1 ประชุมชี้แจงรายละเอียดเงื่อนไขการยื่นซองราคาวันพุธที่ 23 พฤษภาคม 2550 เวลา 10.00 น. ณ ห้องประชุม 1601 ชั้น 16 อาคารกรมการค้าต่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ ถนนนนทบุรี 1 จังหวัดนนทบุรี
2.2 ยื่นซองเสนอราคาในวันพฤหัสบดีที่ 24 พฤษภาคม 2550 เวลา 10.00 — 12.00 น. ณ ห้องประชุม 30410 ชั้น 4 อาคารสำนักงานปลัดกระทรวงพาณิชย์ ถนนนนทบุรี 1 จังหวัดนนทบุรี
2.3 เปิดซองเสนอราคาในวันพฤหัสบดีที่ 24 พฤษภาคม 2550 เวลา 14.00 น. ณ ห้องประชุม 30410 ชั้น 4 อาคารสำนักงานปลัดกระทรวงพาณิชย์
3. หลักเกณฑ์และเงื่อนไข
3.1 ข้าวหอมมะลิ
- เป็นการยื่นเสนอราคาแบบเปิดกว้าง สามารถจำหน่ายภายในประเทศและ /หรือส่งออกต่างประเทศ
- ให้เสนอราคาเป็นเงินบาทโดยราคาดังกล่าวเป็นราคาส่งมอบหน้าคลังสินค้าที่ขอซื้อ (ไม่มีค่าใช้จ่ายในการปรับปรุงและขนส่ง)
- การรับมอบข้าวสาร ปริมาณข้าวสารไม่เกิน 20,000 ตัน ผู้ซื้อต้องรับมอบข้าวสารภายใน 30 วัน นับแต่วันทำสัญญา และปริมาณข้าวสารส่วนที่เกิน 20,000 ตันขึ้นไป ผู้ซื้อต้องรับมอบข้าวสารภายใน 60 วัน นับแต่วันทำสัญญา
- สำหรับเงื่อนไขอื่น ๆ คงเดิม ได้แก่ ให้เสนอซื้อเต็มจำนวนแบบยกกอง โดยมีปริมาณเสนอซื้อไม่ต่ำกว่า 2,000 ตัน / การกำหนดเงื่อนไขการละทิ้งการเสนอราคา ฯลฯ
3.2 ข้าวขาว
- เป็นการยื่นเสนอราคาเพื่อส่งออกต่างประเทศ
- ให้เสนอราคาเป็นเงินบาทหรือสกุลเหรียญสหรัฐฯ โดยใช้อัตราแลกเปลี่ยนถัวเฉลี่ย(ตั๋วเงิน) ตามประกาศของธนาคารแห่งประเทศไทยรอบแรก ณ วันยื่นซองเสนอราคา โดยราคาดังกล่าวเป็นราคาส่งมอบหน้าคลังสินค้าที่ขอซื้อ (ไม่มีค่าใช้จ่ายในการปรับปรุงและขนส่ง)
- ปริมาณข้าวสารไม่เกิน 50,000 ตัน ผู้ซื้อต้องรับมอบข้าวสารภายใน 30 วัน นับแต่วันทำสัญญาและจะต้องส่งออกข้าวสารไปต่างประเทศภายใน 45 วัน นับแต่วันรับมอบข้าวสารจากคลังสินค้าของผู้ขาย ปริมาณข้าวสารส่วนที่เกิน 50,000 ตันขึ้นไป ผู้ซื้อต้องรับมอบข้าวสารภายใน 60 วัน นับแต่วันทำสัญญาและจะต้องส่งออกข้าวสารไปต่างประเทศภายใน 30 วัน นับแต่วันรับมอบข้าวสารจากคลังสินค้าของผู้ขาย
- สำหรับเงื่อนไขอื่น ๆ คงเดิม ได้แก่ ให้เสนอซื้อเต็มจำนวนของข้าวแต่ละชนิดในแต่ละคลัง / การกำหนดเงื่อนไขการละทิ้งการเสนอราคา ฯลฯ
3.3 ข้าวหอมจังหวัด
- เป็นการยื่นเสนอราคาเพื่อจำหน่ายภายในประเทศ
- ให้เสนอราคาเป็นเงินบาทโดยราคาดังกล่าวเป็นราคาส่งมอบหน้าคลังสินค้าที่ขอซื้อ(ไม่มีค่าใช้จ่ายในการปรับปรุงและขนส่ง)
- การรับมอบข้าวสาร ปริมาณข้าวสารไม่เกิน 20,000 ตัน ผู้ซื้อต้องรับมอบข้าวสารภายใน 30 วัน นับแต่วันทำสัญญา และปริมาณข้าวสารส่วนที่เกิน 20,000 ตันขึ้นไป ผู้ซื้อต้องรับมอบข้าวสารภายใน 60 วัน นับแต่วันทำสัญญา
- สำหรับเงื่อนไขอื่น ๆ ได้แก่ ให้เสนอซื้อเต็มจำนวนของข้าวแต่ละชนิดในแต่ละคลัง / การกำหนดเงื่อนไขการละทิ้งการเสนอราคา ฯลฯ
ทั้งนี้ กระทรวงพาณิชย์สงวนสิทธิที่จะไม่รับราคาหนึ่งราคาใด หรือราคาที่เสนอทั้งหมดก็ได้ และอาจพิจารณาขายข้าวทั้งหมด หรือบางส่วน หรือยกเลิกการขายทั้งหมด หรือบางส่วน หรือขายมากกว่าปริมาณข้าวสารที่กำหนดไว้ก็ได้ เพื่อประโยชน์ของทางราชการเป็นสำคัญ โดยกรมการค้าต่างประเทศ จะได้มีหนังสือแจ้งให้สมาคมที่เกี่ยวข้อง และเผยแพร่ทางเว็บไซต์ของกรมฯ www.dft.moc.go.th ให้ทราบโดยทั่วกันต่อไป
อนึ่ง สำหรับการส่งออกข้าวในปี 2550 (มกราคม- 18 พฤษภาคม 2550) มีปริมาณ 3,050,109 ตัน มูลค่า 1,112 ล้านเหรียญสหรัฐฯ (39,249 ล้านบาท) ราคาส่งออกเฉลี่ยข้าวทุกชนิดอยู่ที่ 364 เหรียญสหรัฐฯ เมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีที่แล้ว ทั้งปริมาณ มูลค่าและราคาส่งออกเพิ่มขึ้นคิดเป็นร้อยละ 11.08 , 25.61 และ 13.08 ตามลำดับ