สสว.จับมือ สพว. เตรียมต่อยอดสร้างแบรนด์ให้ SMEs/OTOP ตั้งเป้า 10 แบรนด์ในปี 2550

อังคาร ๐๕ มิถุนายน ๒๐๐๗ ๑๖:๓๙
กรุงเทพฯ--5 มิ.ย.--สสว.
สำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.) ร่วมกับ สถาบันพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สพว.) เร่งยกระดับมาตรฐานและการยอมรับแบรนด์ของผลิตภัณฑ์ SMEs ไทย เตรียมต่อยอดสร้างแบรนด์ SMEs ให้แข็งแกร่ง เพื่อสร้างมูลค่าเพิ่มและเสริมสร้างความสามารถในการแข่งขันให้แก่ SMEs/OTOP ทั้งตลาดในและต่างประเทศ
นายอยุทธ์ เตชะสุกิจ ผู้อำนวยการศูนย์เพิ่มมูลค่าผลผลิตและออกแบบผลิตภัณฑ์ SMEs สถาบันพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สพว.) หน่วยงานชำนาญการสร้างมูลค่าเพิ่มและพัฒนาตราสินค้า ผลิตภัณฑ์และบรรจุภัณฑ์ ภายใต้สังกัดกระทรวงอุตสาหกรรม เปิดเผยถึงนโยบายในการผลักดันสินค้า SMEs / OTOP ให้สามารถแข่งขันได้ในตลาดสากลว่า ปัจจุบันการแข่งขันในภาคธุรกิจมีความรุนแรง โดยเฉพาะกลุ่มสินค้าที่ผลิตโดย SMEs / OTOP ที่มีรูปลักษณ์และคุณภาพที่ใกล้เคียงกัน ดังนั้น การมีแบรนด์หรือตรายี่ห้อเป็นที่รู้จักและจดจำของผู้บริโภคจะช่วยเสริมศักยภาพทางการตลาด รวมทั้งเพิ่มมูลค่าให้แก่ผลิตภัณฑ์ได้ แต่ปัจจุบันสินค้าที่มีแบรนด์ส่วนใหญ่เป็นของกลุ่มผู้ผลิตรายใหญ่หรือต่างชาติ เพราะการสร้างแบรนด์ต้องใช้ความรู้ความชำนาญและความคิดสร้างสรรค์รวมทั้งงบประมาณที่สูง และยังไม่มีต้นแบบเฉพาะสำหรับการสร้างแบรนด์ ซึ่งพัฒนาขึ้นสำหรับผลิตภัณฑ์ SMEs
เพื่อต่อยอด/สร้างมูลค่าเพิ่มให้กับผลิตภัณฑ์และเสริมสร้างความแข็งแกร่งให้กับ SMEs/OTOP สำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจนาดกลางและขนาดย่อม จึงได้กำหนดนโยบายในการสนับสนุนสิ่งอำนวยความสะดวก และกิจกรรมด้านการตลาดภายใต้ยุทธศาสตร์ที่ 4 “การพัฒนาปัจจัยเอื้อในการดำเนินธุรกิจ” และกำหนดเป้าหมายการพัฒนาตราสินค้าSMEs (Brand Building) จำนวน 10 แบรนด์ ในปีงบประมาณ 2550 โดยมอบหมายให้สถาบันพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมรับผิดชอบดำเนินการ
ผู้อำนวยการศูนย์เพิ่มมูลค่าฯ กล่าวต่อว่า โครงการพัฒนาตราสินค้ามีจุดประสงค์ที่จะพัฒนาผลิตภัณฑ์ SMEs/OTOP ให้เป็นที่รู้จักและยอมรับ ด้วยการพัฒนาต้นแบบการสร้างแบรนด์ที่เหมาะสมและมีประสิทธิภาพขึ้น โดยรวบรวมแนวคิดและต้นแบบการสร้างแบรนด์ต่างๆ มาพัฒนา และสร้างต้นแบบที่เหมาะสมที่สุดมาประยุกต์ใช้กับผลิตภัณฑ์ ในกลุ่มต่างๆ โดยเน้นความหลากหลาย ทั้งประเภทของผลิตภัณฑ์ ขนาดและรูปแบบของธุรกิจ ตลอดไปจนถึงพื้นที่เป้าหมาย เพื่อให้เกิดตัวอย่างของการใช้งานที่กว้างขวาง และกระตุ้นให้ผู้ประกอบการเห็นความสำคัญและประโยชน์ของการมีแบรนด์สินค้าที่เข้มแข็ง เพื่อพัฒนาต่อยอดการสร้างแบรนด์ให้กับสินค้า SMEs/OTOP ไทย อันจะเป็นส่วนสำคัญในการพัฒนาและสนับสนุนผู้ประกอบการให้มีศักยภาพและความสามารถในการแข่งขันสูงขึ้น
ทั้งนี้ การคัดเลือกผู้ประกอบการเข้าร่วมโครงการพัฒนาตราสินค้านั้น สถาบันได้กำหนดหลักเกณฑ์การรับสมัครเบื้องต้น สำหรับผู้ประกอบการ OTOP จะต้องยอดขายไม่ต่ำกว่าปีละ 3 ล้านบาท และ SMEs ยอดขายไม่ต่ำกว่าปีละ 10 ล้านบาท ดำเนินธุรกิจในกลุ่มผลิตภัณฑ์ อาหาร เครื่องดื่ม ผลิตภัณฑ์ / บริการสปา ของตกแต่งศิลปะ-หัตถกรรม ในเขตกรุงเทพมหานครและจังหวัดใกล้เคียง (รัศมีไม่เกิน 100 กม.) เข้ารับการพิจารณาคัดเลือกเข้าร่วมโครงการ โดยผู้ประกอบการที่ผ่านการคัดเลือก 10 ราย จะได้รับการสนับสนุนบริการการสร้างแบรนด์ รวมทั้งการออกแบบพัฒนาระบบภาพลักษณ์ภายใต้การดูแลของที่ปรึกษาที่มีความเชี่ยวชาญ เพื่อเป็นจุดเริ่มต้นและความสำเร็จขั้นแรกของการสร้างแบรนด์ SMEs ไทย ผู้ประกอบการที่สนใจเข้ารับการพิจารณาสามารถติดต่อได้ที่ ศูนย์เพิ่มมูลค่าผลผลิตและออกแบบผลิตภัณฑ์ SMEs โทรศัพท์ 0 2564 4000 ต่อ 7201-4 ภายในวันที่ 15 มิถุนายน 2550 นี้

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๓๐ เม.ย. COM7 เดินหน้าเต็มสปีด EV7 ส่งมอบแท็กซี่ไฟฟ้าล็อตแรก ดันเมกะเทรนด์ EV สู่หัวใจเมือง
๓๐ เม.ย. GCAP ประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2568 ไฟเขียวผ่านฉลุยทุกวาระ พร้อมเดินหน้าแผนธุรกิจขยายสู่กลยุทธ์ Non Lending
๓๐ เม.ย. PYLON จัดประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2568 ผู้ถือหุ้นไฟเขียวจ่ายปันผล 0.04 บาท/หุ้น
๓๐ เม.ย. LDC จัดประชุมสามัญผู้ถือหุ้น ประจำปี 2568 มุ่งเป็นคลินิกทันตกรรมพรีเมียม ในราคาที่เข้าถึงง่าย
๓๐ เม.ย. ผู้ถือหุ้น TATG ไฟเขียวจ่ายปันผล 0.07 บาท/หุ้น ลงทุนเครื่องจักรใหม่เสริมแกร่งสายการผลิต พิชิตเป้ารายได้ 3,000
๓๐ เม.ย. ADVICE จัดประชุมสามัญผู้ถือหุ้นรูปแบบ Hybrid ประจำปี 2568 ผถห.ไฟเขียวทุกวาระ เคาะแจกปันผล 0.175 บ./หุ้น
๓๐ เม.ย. LE ร่วมงานสถาปนิก'68 โชว์นวัตกรรมแสงสว่างอัจฉริยะ เสริมภาพผู้นำ Lighting Solutions Provider
๓๐ เม.ย. SELIC จัดประชุมสามัญผู้ถือหุ้น ปี 2568 ผู้ถือหุ้นเห็นชอบทุกวาระ อนุมัติจ่ายปันผล 0.038 บาท/หุ้น เดินหน้า 3 ธุรกิจ
๓๐ เม.ย. STA เปิดบ้านต้อนรับภาครัฐ โชว์มาตรฐานรับซื้อยางโปร่งใส เป็นธรรม หนุนรัฐต้านยางเถื่อน
๓๐ เม.ย. กรมพัฒนาฝีมือแรงงาน จับมือเอกชน ปั้นช่างเชื่อมโกอินเตอร์ รายได้ทะลุ 70,000 บาทต่อเดือน