รายการ จอโลก BIOGRAPHY พาคุณเปิดแฟ้มลับ "จอร์จิโอ้ อาร์มานี่" พายุเฮอริเคนแห่งวงการแฟชั่น

พฤหัส ๐๖ พฤษภาคม ๒๐๐๔ ๑๒:๑๑
กรุงเทพฯ--6 พ.ค.--แม็กซิม่า คอนซัลแตนท์
รายการ "จอโลก BIOGRAPHY" พาคุณเปิดแฟ้มลับเรื่องราวชีวิตของ "จอร์จิโอ้ อาร์มานี่" (Giorgio Armani) ดีไซเนอร์ชาวอิตาเลียนชื่อก้องโลก ผู้ยืนหยัดอยู่ในวงการแฟชั่น ร่วม 50 ปี เจ้าของฉายา "พายุเฮอริเคนแห่งวงการแฟชั่น" พายุที่กวาดชัยชนะเกือบทุกสนามของโลก แคทวอล์ค ท่ามกลางความเรียบง่าย… และเป็นตำนานที่อยู่ยงคงกระพันอย่างเนิ่นนาน "อาร์มานี่" ผู้ที่ปฏิวัติการแต่งตัวของชาย และหญิงทั่วโลก เขาคือนักออกแบบผู้ทรงอิทธิพลสูงสุด ในช่วงปลายศตวรรษที่ 20 นำเสนอสู่สายตาคุณในวันอาทิตย์ที่ 9 พฤษภาคม ศกนี้ ตั้งแต่เวลา 10.00 - 11.00 น. ทาง โมเดิร์นไนน์ ทีวี
จอร์จิโอ้ อาร์มานี่ เกิดเมื่อวันที่ 11 กรกฎาคม ปี1934 ท่ามกลางเศรษฐกิจตกต่ำ เนื่องจากภาวะสงคราม แม้ว่าสถานการณ์จะยากลำบาก แต่พ่อแม่ของเขาก็สามารถสร้างครอบครัวที่อบอุ่น แม้จะยากจนแต่แม่ของอาร์มานี่มักจะใส่ใจกับภาพลักษณ์และเครื่องแต่งกายของเธอ และสมาชิกในครอบครัวเสมอ เมื่อวัยเด็กอาร์มานี่สนใจวาดรูปเครื่องแต่งกาย อีกทั้งชอบชมภาพยนตร์ เขาจะชอบจินตนาการไปตามเรื่องราวเหมือนจะถูกตรึงอยู่กับจอหนัง และเขาก็จะสนใจในเสื้อผ้าที่ นักแสดงสวมใส่บนจอหนัง ดาราที่เขาชื่นชอบคือ เจมส์ ดีน
เส้นทางสู่สายแฟชั่นเริ่มต้นเมื่อปี 1957 เมื่ออาร์มานี่ได้ทำงานจัดดิสเพลย์กระจกหน้าร้านที่ห้าง "ลา รินาเซนเต้" ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้เขาฉายแววทางแฟชั่นออกมา อีกทั้งขณะนั้นเป็นช่วงที่ วงการแฟชั่นกำลังถึงช่วงเปลี่ยนแปลง อาร์มานี่จึงตัดสินใจเข้าสู่วงการโดยทำงานกับ "นีโน่ เชอรูติ" ผู้นำวงการแฟชั่นชายในอิตาลีในยุคนั้น ที่นั่นอาร์มานี่ได้เรียนรู้เกี่ยวกับกรรมวิธีการตัดเย็บเสื้อผ้าโดยตรง และได้เริ่มออกแบบผลงานของตัวเอง จากจุดนั้นทำให้อาร์มานี่ได้พบกับคนสำคัญในชีวิต "เซอร์จิโอ้ แกลเลล๊อตติ" ชายหนุ่มนักเขียนแบบงานสถาปัตยกรรม ซึ่งเป็นคนที่ทำให้ชีวิตของอาร์มานี่ต้องเปลี่ยนแปลง ไม่นานแกลเลล็อตติ ได้ย้ายมาอยู่กับอาร์มานี่ที่มิลาน เขากลายเป็นคนรัก และคู่ชีวิต ในที่สุดปี 1975 จอร์จิโอ้ อาร์มานี่ และเซอร์จิโอ้ แกลเลล๊อตติ ได้ตัดสินใจร่วมกันตั้งบริษัทของตัวเองขณะที่อาร์มานี่เป็นคนออกแบบ ส่วนแกลเลล๊อตติ คอยดูแลเรื่องธุรกิจ และคอยเป็นกำลังใจ อาร์มานี่เป็นคนจริง สุขุม และทะเยอทะยาน อาร์มานี่ทำเองทุกอย่าง ตั้งแต่กระบวนการตัดผ้า เขาทำงานวันละ 20 ชั่วโมง อาร์มานี่ชอบความสมบูรณ์แบบ ทุกอย่างต้องเนี๊ยบ เขาสามารถนำเสนออะไรใหม่ ๆ ในวงการแฟชั่น และเขาก็อุทิศตัวเพื่อก้าวสู่การเป็นผู้นำ โดยได้เปลี่ยนภาพลักษณ์สูทชายที่ดูเป็นฟอร์ม และอึดอัดมาสู่ความเรียบง่าย ดูสง่างาม ในที่สุดเสื้อผ้าของเขาเป็นที่นิยมทันที เขาเริ่มมีชื่อเสียงในอเมริกา และที่นี่เองที่ทำให้ จอร์จิโอ้ อาร์มานี่ กลายเป็นบุคคลสำคัญในวงการแฟชั่น ต่อมาอาร์มานี่จึงมีความคิดที่จะออกแบบเสื้อผ้าสำหรับ สุภาพสตรีบ้าง ซึ่งวงการเสื้อผ้าสำหรับผู้หญิงนั้นทำเงินได้มากกว่า และสร้างสรรค์ได้เยอะกว่า เพราะเสื้อผ้าผู้ชายมีขอบเขตของการออกแบบ อาร์มานี่ต้องการออกแบบชุดสำหรับผู้หญิง ที่เน้นการตัดเย็บดี เก๋ไก๋ เรียบง่าย ทำให้ดูเซ็กซี่ ดูน่าเชื่อถือในที่ประชุม และมีสิ่งที่ผู้หญิงไม่คุ้นเคยคือ เสื้อผ้าที่สวมใส่สบาย ซึ่งได้นำออกแสดงครั้งแรกในปี 1976 ที่มิลาน ผลปรากฏว่าประสพความสำเร็จอย่างสูง
อาร์มานี่ได้เริ่มเข้าสู่วงการฮอลลีวู้ดโดยออกแบบเสื้อผ้าให้กับนักแสดงที่ต้องการชุดเพื่อใส่ไปงานออสการ์ รวมทั้งผู้บริหาร และพอล ชเรย์เดอร์ ซึ่งกำกับหนังเรื่อง "อเมริกัน จิ๊กโกโล่" แสดงนำโดย ริชาร์ด เกียร์ ทำให้อาร์มานี่ได้รับมอบหมายให้ออกแบบชุดให้กับนักแสดงในเรื่องนี้ด้วย นับว่าหนังเรื่องนี้เป็นเหมือนการโฆษณาเสื้อผ้าให้กับอาร์มานี่ไปในตัว ส่งผลให้อาร์มานี่ดึงดูดความสนใจจากผู้คน นักแสดงจำนวนมากเลือกที่จะใส่ชุดของอาร์มานี่ไปงานออสการ์ อาทิ ไดแอน คีตัน ,มิเชลล์ ไฟเฟอร์ หรือแม้แต่โจดี้ ฟอสเตอร์ นับว่าอาร์มานี่เป็นดีไซเนอร์คนแรกที่มองเห็นโอกาสจากการให้นักแสดงชื่อดังสวมเสื้อผ้าของเขา ซึ่งเป็นที่ทราบกันดีว่าอะไรที่นิยมในวงการฮอลลีวูด สิ่งนั้นทุกคนก็ต้องการ ในปี 1978 อาร์มานี่ถือโอกาสนั้นสร้างชื่อเสียงให้กับตนเองด้วยการไปเยือนอเมริกาอย่างผู้ชนะ เขากลายเป็นคนสำคัญ และได้ขึ้นปกนิตยสาร ไทม์ ฉบับเดือน เมษายน ปี 1982 และเป็นดีไซน์เนอร์คนแรกในรอบ 35 ปีที่ได้ขึ้นปก ช่วงเวลานั้นเป็นช่วงที่มีความสุขของทั้งอาร์มานี่ และแกลเลล็อตติ
แต่แล้วในปี 1985 ชีวิตของอาร์มานี่ก็ได้รับการเปลี่ยนแปลงอีกครั้งเมื่อเซอร์จิโอ้ แกลเลล็อตติ เสียชีวิตเนื่องจากติดเชื้อเอดส์ ทำให้จิตใจของอาร์มานี่เริ่มสั่นคลอน เนื่องจากแกลเลล็อตติเป็นบุคคลสำคัญในชีวิตของอาร์มานี่มาโดยตลอด ทั้งยังเป็นกำลังสำคัญทางธุรกิจของบริษัทอีกด้วย ถึงเวลาที่อาร์มานี่ต้องจัดการด้วยตนเอง การแสดงผลงานครั้งแรกหลังจากแกลเลล็อตติ เสียชีวิตคือ สิ่งท้าทายสำหรับเขา เมื่ออาร์มานี่เผยผลงานคอลเลคชั่นชุดใหม่ของเขาหลังจากที่ แกลเลล็อตติเสียชีวิตไม่กี่เดือน วงการแฟชั่นต่างก็ตอบรับอย่างชื่นชม ผลงานความสำเร็จอาร์มานี่ได้พิสูจน์แล้วว่าเขาสามารถต่อสู้ และเขายังฉายความเป็นนักธุรกิจในตัวเองออกมาด้วย เคล็ดลับความสำเร็จของเขาที่ยั่งยืนนี้ คือ ความสง่าและเรียบง่าย ที่ไม่เคยเสื่อมความนิยม
สำหรับคู่แข่งคนสำคัญของอาร์มานี่ที่น่ากลัว คือ จิวานนี่ เวอร์ซาเช่ (Gianni Versace) ซึ่งมีผลงานที่หวือหวา กว่างานเรียบง่ายอย่างอาร์มานี่ ซึ่งการแข่งขันของทั้งคู่ทำให้วงการแฟชั่นดูมีสีสัน การแข่งขันของทั้งคู่รวมไปถึงเรื่องส่วนตัว และการใช้ชีวิต ทั้งสองต่างต่อสู้กันด้วยการสร้างสรรค์ผลงาน แต่ความเป็นจริงพวกเขาต่างเป็นมิตรกันกว่าที่คนอื่นจะเข้าใจ พวกเขาต้องการกันและกันเพื่อช่วยผลักดัน และกระตุ้นให้ยอดขายของทั้งคู่สูงขึ้น ในเดือนกรกฎาคม 1997 จิวานนี่ เวอร์ซาเช่ ถูกลอบสังหารที่หน้าบ้านของตนเองในไมอามี่ และเสียชีวิต อาร์มานี่รู้สึกสูญเสีย ขณะนั้นอาร์มานี่อายุ 63 ปี หลายคนในวงการกล่าวว่าอาร์มานี่ควรที่จะถอนตัว เริ่มมีสัญญาณว่าความรุ่งเรืองของเขาได้ลดลง
วงการแฟชั่นได้ก้าวหน้าต่อไป ชุดของสุภาพบุรุษเริ่มดูล้าสมัย ถึงแม้บางคนจะเริ่มมองว่าอาร์มานี่ดูจืดชืด แต่บางคนก็ยังถือว่างานของเขายอดเยี่ยม อาร์มานี่ยังคงขายดีอันดับหนึ่ง จนบัดนี้ยังไม่มีใครโค่นเขาลงจากบัลลังก์ได้ เขายังคงตั้งใจทำงานหนักเหมือนเดิม และมีความกระตือรือร้นที่จะแสดงความเป็นตนเองออกมา และพลังแห่งการสร้างสรรค์ก็ได้รับการยกย่อง หลังจากอยู่ในธุรกิจมาได้ 25 ปี ในเดือนตุลาคม ปี 2000 พิพิธภัณฑ์กุกเกนไฮม์ที่นิวยอร์ก ได้จัดนิทรรศการแสดงผลงานชั้นเยี่ยมของเขา ดาราชื่อดังทั้งหลายรวมทั้งแขกเหรื่อจากทุกสารทิศต่างมางานเพื่อให้เกียรติ และแสดงความยินดีแก่อาร์มานี่ ซึ่งเป็นสิ่งที่บอกถึงทางเดินที่แสนยาวไกลของจอร์จิโอ้ อาร์มานี่ จากเด็กชายที่ตกอยู่ท่ามกลางไฟสงคราม มาสู่การเป็นสุดยอดผู้นำทางแฟชั่น
คนหลายคนเกิดมาถูกที่ถูกเวลา แต่ก็มีน้อยคนที่จะตระหนักว่าตัวเองเหมาะกับตำแหน่งนั้น กับจุดนั้น เวลานั้น แล้วสร้างโอกาสให้เกิดประโยชน์ นั่นคือสิ่งที่อาร์มานี่ทำได้ เส้นทางในอนาคต หลายคนพยายามค้นหาเคล็ดลับของเขา แต่คงยากที่จะมีใครโดดเด่นและมีอิทธิพลได้อย่างที่อาร์มานี่เป็น อาร์มานี่…พายุเฮอริเคนที่โหมกระหน่ำวงการแฟชั่น พายุที่กวาดชนะทุกอย่าง และคงอยู่เนิ่นนาน ตำนานของอาร์มานี่จะยังคงเข้มแข็งขึ้นยิ่งใหญ่ขึ้น และแข็งแกร่งขึ้นไปอีก
ต้องการรายละเอียดเพิ่มเติมกรุณาติดต่อ
บริษัท แม็กซิม่า คอนซัลแตนท์ จำกัด โทร.0-2434-8300
สุจินดา, แสงนภา, พินิตา--จบ--
-นท-

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๒๗ เม.ย. อแมนด้า ชาร์ลีน ออบดัม VICHY LIFTACTIV BRAND PARTNER ตัวแทนประเทศไทย ร่วมงาน 'V.I.C VICHY INTEGRATIVE CENTER' อีเว้นท์สุดยิ่งใหญ่ในรอบ 5 ปี ของแบรนด์ VICHY (วิชี่) อวดลุคเซ็กซี่สุดฮอต สวย ปัง
๒๖ เม.ย. ไทยพีบีเอสผนึกกำลัง สสส. ผลิต และเผยแพร่เนื้อหาส่งเสริมสุขภาวะเด็ก เยาวชน และครอบครัว
๒๖ เม.ย. NPS ร่วมสืบสานประเพณีสงกรานต์ชุมชนในพื้นที่รอบโรงไฟฟ้า ประจำปี 2567
๒๖ เม.ย. แพทย์แผนไทย มทร.ธัญบุรี แนะฤดูร้อนควรทานพืชผักที่มีฤทธิ์เย็นช่วยลดความร้อนในร่างกาย
๒๖ เม.ย. แพรนด้า จัดประชุมสามัญผู้ถือหุ้น ประจำปี 2566
๒๖ เม.ย. RBRU Herb Shot ขยายศักยภาพทางธุรกิจ รุกตลาดอินเดีย
๒๖ เม.ย. ไฮเออร์ ประเทศไทย เดินเกมรุกไตรมาส 2 เปิดตัวตู้เย็นรุ่นใหม่ Multi-door HRF-MD679 ตั้งเป้าปี 67 ดันยอดขายตู้เย็นโต
๒๖ เม.ย. เอ็น.ซี.ซี.ฯ ประกาศจัดงาน PET EXPO THAILAND 2024 ระดมสินค้า บริการ ลดหนักจัดเต็ม รับกระแส Petsumer ดันตลาดสัตว์เลี้ยงโตแรง
๒๖ เม.ย. ธอส. ขานรับนโยบายรัฐบาล ลดอัตราดอกเบี้ย MRR 0.25% ต่อปี พร้อมส่งเสริมวินัยการออม ด้วย เงินฝากออมทรัพย์เก็บออม ดอกเบี้ยสูงถึง 1.95%
๒๖ เม.ย. ManageEngine ลดความซับซ้อน ช่วยองค์กรจัดการต้นทุนบนคลาวด์ทั่วมัลติคลาวด์ได้ง่ายขึ้น พร้อมรองรับแพลตฟอร์ม Google Cloud