วว.เร่งจัดทำฐานข้อมูลสร้างสะพานเชื่อมงานวิจัย

อังคาร ๒๖ ตุลาคม ๒๐๐๔ ๐๙:๐๕
กรุงเทพฯ--26 ต.ค.--วว.
ดร.นงลักษณ์ ปานเกิดดี ผู้ว่าการสถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งประเทศไทย (วว.) กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี กล่าวถึงแนวนโยบายการดำเนินงานเนื่องในโอกาสเข้ารับตำแหน่งใหม่ว่า จะมุ่งเน้นการวิจัยด้านวิทยาศาสตร์ฯ ที่มีผลกระทบสูงหรือมีส่วนเข้าไปผลักดันให้อุตสาหกรรมขยายผลไปได้ โดยเฉพาะในกลุ่มของ SMEs รวมทั้งจะต้องมีความสมดุลในการทำงาน มีความเชื่อมโยงและประสานงานกันระหว่างกลุ่มวิจัยพัฒนา กลุ่มถ่ายทอดเทคโนโลยีและกลุ่มบริการ
สำหรับโครงการวิจัยที่จะผลักดันในอันดับแรกนั้น จะมุ่งเน้น 3 โครงการหลักด้วยกัน คือ โครงการความร่วมมือกับองค์กรการวิจัยภายนอก , โครงการที่ดำเนินตามนโยบายหลักของรัฐบาลและโครงการพัฒนาความพร้อมทางด้านการใช้เทคโนโลยี ซึ่งจะส่งผลให้ประเทศไทยสามารถพึ่งพาตนเองได้ นอกจากนั้น จะมุ่งเน้นการสร้างกระบวนการผลิตที่เป็นต้นแบบงานวิจัยของประเทศไทย รวมทั้งจะจัดทำฐานข้อมูลให้มากขึ้น โดยเฉพาะผลงานและผลการดำเนินโครงการที่ วว. ดำเนินการซึ่งจะมีฐานข้อมูลที่แบ่งแยกชัดเจน โดยขณะนี้ วว. ได้มีการจัดทำฐานข้อมูลน้ำมันหอมระเหย , ฐานข้อมูลสมุนไพร และได้ทำการเผยแพร่เพื่อให้สังคมรู้จัก วว.มากขึ้นอีกทางหนึ่ง
"การทำงานในปัจจุบันจะอาศัยเพียงสาขาใดสาขาหนึ่งไม่ได้ ต้องอาศัยความรู้ในหลาย ๆ สาขามารวมกันจึงจะได้ผลงานที่เป็นรูปธรรม หากเราพัฒนาความรู้เฉพาะด้านจะไม่สามารถนำเทคโนโลยีไปถ่ายทอดได้ เราจะต้องเอาความรู้หลาย ๆ ด้านมาทำให้เป็นรูปธรรมที่พร้อมถ่ายทอดได้ จุดอ่อนของบ้านเราส่วนหนึ่งก็คือ วิจัยแล้วก็จบแค่นั้น แต่สะพานเชื่อมระหว่างการวิจัยไปสู่การใช้ในเชิงพาณิชย์ยังมีช่องว่างที่ใหญ่มาก การที่ วว. มีความพร้อมในหลาย ๆ สาขา จะทำให้ช่องว่างเหล่านั้นน้อยลงได้.. การวิจัยพัฒนาไม่ใช่จะเรียนรู้กันได้ในวันเดียว อันนี้ต้องการประสบการณ์ในการทำงาน" ผู้ว่าการ วว. กล่าว
สำหรับการพัฒนาวงการวิทยาศาสตร์ไทยในอนาคตนั้น ดร.นงลักษณ์กล่าวว่า จำเป็นอย่างยิ่งที่ต้องมีความร่วมมือทำงานเป็นทีมและมีความเชื่อมโยงกันของหน่วยงานทุก ๆ ฝ่าย ฉะนั้นหากแหล่งที่ให้ทุนสามารถมีกรอบและขอบเขตที่ชัดเจน ให้ทุนอยู่บนพื้นฐานที่มุ่งเน้นว่ามีหลาย ๆ หน่วยงานมาร่วมกันก็จะทำให้เกิดความชัดเจนมากยิ่งขึ้น นอกจากนั้นหากพยายามดึงองค์กรที่เพิ่งเริ่มต้นมาร่วมมือกับองค์กรที่มีความแข็งแกร่ง ได้ทำงานร่วมกัน ก็จะทำให้เกิดประโยชน์ต่อประเทศ ทั้งนี้หากมีแนวทางทำให้เกิดความร่วมมือดังกล่าว ทุก ๆ องค์กรที่รัฐบาลได้ทุ่มเทงบประมาณก็จะได้ผลและมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น--จบ--

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๑๘:๓๓ COM7 เดินหน้าเต็มสปีด EV7 ส่งมอบแท็กซี่ไฟฟ้าล็อตแรก ดันเมกะเทรนด์ EV สู่หัวใจเมือง
๑๘:๓๖ GCAP ประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2568 ไฟเขียวผ่านฉลุยทุกวาระ พร้อมเดินหน้าแผนธุรกิจขยายสู่กลยุทธ์ Non Lending
๑๘:๔๔ PYLON จัดประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2568 ผู้ถือหุ้นไฟเขียวจ่ายปันผล 0.04 บาท/หุ้น
๑๘:๓๙ LDC จัดประชุมสามัญผู้ถือหุ้น ประจำปี 2568 มุ่งเป็นคลินิกทันตกรรมพรีเมียม ในราคาที่เข้าถึงง่าย
๑๘:๑๒ ผู้ถือหุ้น TATG ไฟเขียวจ่ายปันผล 0.07 บาท/หุ้น ลงทุนเครื่องจักรใหม่เสริมแกร่งสายการผลิต พิชิตเป้ารายได้ 3,000
๑๘:๕๗ ADVICE จัดประชุมสามัญผู้ถือหุ้นรูปแบบ Hybrid ประจำปี 2568 ผถห.ไฟเขียวทุกวาระ เคาะแจกปันผล 0.175 บ./หุ้น
๑๘:๓๖ LE ร่วมงานสถาปนิก'68 โชว์นวัตกรรมแสงสว่างอัจฉริยะ เสริมภาพผู้นำ Lighting Solutions Provider
๑๘:๔๖ SELIC จัดประชุมสามัญผู้ถือหุ้น ปี 2568 ผู้ถือหุ้นเห็นชอบทุกวาระ อนุมัติจ่ายปันผล 0.038 บาท/หุ้น เดินหน้า 3 ธุรกิจ
๑๘:๔๙ STA เปิดบ้านต้อนรับภาครัฐ โชว์มาตรฐานรับซื้อยางโปร่งใส เป็นธรรม หนุนรัฐต้านยางเถื่อน
๑๘:๓๕ กรมพัฒนาฝีมือแรงงาน จับมือเอกชน ปั้นช่างเชื่อมโกอินเตอร์ รายได้ทะลุ 70,000 บาทต่อเดือน