ก.พลังงานชี้ก่อนส่งท้ายปี 47 ราคาน้ำมันลดลงได้อีก ย้ำราคาจำหน่ายน้ำมันเบนซินทั่วประเทศ บวกค่าขนส่ง ไม่เกิน 20 บาทต่อลิตรแน่

อังคาร ๑๔ ธันวาคม ๒๐๐๔ ๑๕:๐๕
กรุงเทพฯ--14 ธ.ค.--สนพ.
นายแพทย์พรหมินทร์ เลิศสุริย์เดช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี สัญจร ที่จ.ตรัง ว่า ภายหลังที่บริษัทน้ำมันในประเทศ อาทิ บริษัท ปตท. จำกัด(มหาชน) บริษัทบางจากปิโตรเลียม จำกัด(มหาชน) บริษัทเชลล์ ประเทศไทย จำกัด(มหาชน) ฯลฯ ได้ประกาศปรับลดราคาขายปลีก น้ำมันเบนซินทุกประเภทถึง 7 ครั้งในช่วงระหว่างปลายเดือนพฤศจิกายนถึงต้นเดือนธันวาคม ที่ผ่านมา รวมลดทั้งสิ้น 2.8 บาทต่อลิตร ส่งผลให้ราคาน้ำมันเบนซิน ขายปลีกปัจจุบัน (14 ธ.ค. 47) เบนซินออกเทน 95 ลดลงอยู่ที่ 19.59 บาทต่อลิตร เบนซินออกเทน 91 อยู่ที่ 18.79 บาทต่อลิตร โดยกระทรวงพลังงานมั่นใจว่า ราคาน้ำมันเบนซินขายปลีก ในระดับดังกล่าว เมื่อบวกกับค่าขนส่งแล้ว ราคาน้ำมันเบนซินทั่วประเทศ จะอยู่ที่ระดับไม่เกิน 20 บาทต่อลิตร
ทั้งนี้ เมื่อพิจารณาจากแนวโน้มราคาน้ำมันในตลาดโลก กระทรวงพลังงานพบว่า ราคา น้ำมันขายปลีก โดยเฉพาะน้ำมันเบนซินทั้งออกเทน 95 และ 91 ยังมีโอกาสปรับตัวลดลงได้อย่างต่อเนื่อง ไปจนถึงก่อนช่วงส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ และกระทรวงพลังงานยังได้เพิ่มทางเลือกให้แก่ประชาชนด้วยการจำหน่ายแก๊สโซฮอล์ ซึ่งจะมีราคาถูกกว่าน้ำมันเบนซิน 95 อีก 75 สตางค์ ต่อลิตรอีกด้วย โดยราคาจำหน่ายแก๊สโซฮอล์อยู่ที่ระดับ 18.84 บาทต่อลิตร ส่วนราคาน้ำมันดีเซลยังไม่มีการปรับราคาจำหน่าย เนื่องจากรัฐบาลประกาศใช้นโยบายตรึงราคาน้ำมันไปจนถึงหมดช่วงฤดูหนาว
สำหรับปัจจัยที่ส่งผลให้ราคาน้ำมันปรับตัวลดลง เนื่องจากในช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์ ที่ผ่านมา ราคาน้ำมันในตลาดโลกได้ปรับตัวลงลงอย่างต่อเนื่อง เพราะกองทุนเฮดฟันด์ได้เทขายน้ำมันเพื่อทำกำไรอย่างต่อเนื่อง อีกส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากที่มีการคาดการณ์ว่าอุณหภูมิในประเทศสหรัฐจะลดต่ำกว่าปกติ และส่งผลให้เกิดการใช้น้ำมันเพิ่มสูงขึ้นในช่วงเวลาดังกล่าว
จากเหตุการณ์ดังกล่าวส่งผลให้ราคาน้ำมันดิบดูไบอยู่ที่ระดับ 32.67 เหรียญสหรัฐต่อ บาร์เรล ลดลง 0.81 เหรียญสหรัฐต่อบาเรล ส่วนราคาน้ำมันสำเร็จรูปในตลาดสิงคโปร์ก็ปรับตัวลดลงเช่นกัน ทำให้ราคาน้ำมันเบนซิน 95 อ่อนตัวลงอยู่ที่ระดับ 41.83 เหรียญสรัฐต่อบาร์เรล ลดลง 2.4 เหรียญสหรัฐต่อบาเรล และน้ำมันดีเซลอยู่ที่ระดับ 47.10 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล ลดลง 2.1 เหรียญสหรัฐต่อบาเรล
สำหรับราคาน้ำมันดิบอื่น ๆ ต่างก็ลดลงเช่นกัน โดยเบรนท์ ปรับตัวลดลง 1.16เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล อยู่ที่ 36.71 เหรียญสหรฐต่อบาร์เรล ทาปิส ปรับตัวลดลง 2.71 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล อยู่ที่ระดับ 35.73 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล และโอมาน ปรับตัวลดลง 1.08 เหรียญสหรัฐต่อบาเรล อยู่ที่ระดับ 33.65 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล--จบ--

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๑๘:๓๓ COM7 เดินหน้าเต็มสปีด EV7 ส่งมอบแท็กซี่ไฟฟ้าล็อตแรก ดันเมกะเทรนด์ EV สู่หัวใจเมือง
๑๘:๓๖ GCAP ประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2568 ไฟเขียวผ่านฉลุยทุกวาระ พร้อมเดินหน้าแผนธุรกิจขยายสู่กลยุทธ์ Non Lending
๑๘:๔๔ PYLON จัดประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2568 ผู้ถือหุ้นไฟเขียวจ่ายปันผล 0.04 บาท/หุ้น
๑๘:๓๙ LDC จัดประชุมสามัญผู้ถือหุ้น ประจำปี 2568 มุ่งเป็นคลินิกทันตกรรมพรีเมียม ในราคาที่เข้าถึงง่าย
๑๘:๑๒ ผู้ถือหุ้น TATG ไฟเขียวจ่ายปันผล 0.07 บาท/หุ้น ลงทุนเครื่องจักรใหม่เสริมแกร่งสายการผลิต พิชิตเป้ารายได้ 3,000
๑๘:๕๗ ADVICE จัดประชุมสามัญผู้ถือหุ้นรูปแบบ Hybrid ประจำปี 2568 ผถห.ไฟเขียวทุกวาระ เคาะแจกปันผล 0.175 บ./หุ้น
๑๘:๓๖ LE ร่วมงานสถาปนิก'68 โชว์นวัตกรรมแสงสว่างอัจฉริยะ เสริมภาพผู้นำ Lighting Solutions Provider
๑๘:๔๖ SELIC จัดประชุมสามัญผู้ถือหุ้น ปี 2568 ผู้ถือหุ้นเห็นชอบทุกวาระ อนุมัติจ่ายปันผล 0.038 บาท/หุ้น เดินหน้า 3 ธุรกิจ
๑๘:๔๙ STA เปิดบ้านต้อนรับภาครัฐ โชว์มาตรฐานรับซื้อยางโปร่งใส เป็นธรรม หนุนรัฐต้านยางเถื่อน
๑๘:๓๕ กรมพัฒนาฝีมือแรงงาน จับมือเอกชน ปั้นช่างเชื่อมโกอินเตอร์ รายได้ทะลุ 70,000 บาทต่อเดือน