ปรับระบบยาไทยใหม่หวังลดค่าใช้จ่าย

จันทร์ ๓๐ มิถุนายน ๑๙๙๗ ๑๓:๔๑
กรุงเทพ--30 มิ.ย.--กระทรวงสาธารณสุข
พบแพทย์และประชาชน สั่งยาไม่สมเหตุสมผล ทำให้ค่าใช้จ่ายต่อประชากรเพิ่มขึ้นในอัตราร้อยละ 23 ต่อปี สถาบันวิจัยระบบสาธารณสุขรุกงานวิจัยแก้ปัญหา ปรับเปลี่ยนการบริหารและจัดการระบบยาให้มีประสิทธิภาพขึ้น
นายสุนทร วิลาวัลย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุขเปิดเผยว่า จากการสำรวจของสถาบันวิจัยระบบสาธารณสุขเกี่ยวกับมูลค่าการใช้จ่ายยาของประเทศไทยในปี 2536 ที่ผ่านมาพบว่า มีมูลค่าสูงประมาณ 27,000 ล้านบาท ในราคาขายส่ง และประมาณ 50,000 ล้านบาทในราคาขายปลีก คิดเป็นร้อยละ 35 ของค่าใช้จ่ายด้านสุขภาพ ซึ่งสูงกว่าประเทศที่มีคุณภาพบริการสาธารณสุขที่ใกล้เคียงกันถึง 2-3 เท่า และหากคิดเป็นค่าใช้จ่ายต่อประชากรและจะเพิ่มขึ้นในอัตราร้อยละ 23 ต่อปี สูงกว่าอัตราการเพิ่มขึ้นของค่าใช้จ่ายด้านสุขภาพและอัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจประเทศ
นายสุนทร วิลาวัลย์ กล่าวว่า ปัญหาการใช้ยาที่ไม่สมเหตุสมผลนี้พบได้ทั้งในระดับประชาชนทั่วไปจนถึงแพทย์ผู้สั่งใช้ยา เนื่องจากมีการสั่งใช้ยามากเกินความจำเป็นหรือมีราคาสูง ส่งผลให้ค่าใช้จ่ายทางด้านยาสูง ทั้งนี้เพราะการขาดข้อมูลทางด้านสุขภาพ ประสิทธิภาพและประสิทธิผลของยารวม อีกทั้งผลประโยชน์จากการสั่งซื้อยาและใช้ยา อันจะนำไปสู่ปัจจัยต่อการสนับสนุนสั่งใช้ยาที่ไม่เหมาะสม
นอกจากนี้ปัญหาวัฒนธรรมของระบบสาธารณสุข ที่ผู้สั่งจ่ายเป็นทั้งผู้ขายยาด้วย ก็เป็นปัจจัยหนึ่งที่มีส่วนสำคัญ และเชื่อมต่อกับปัญหาการใช้ยาอย่างไม่เหมาะสม หรือปัญหาของนโยบายแห่งชาติด้านยาที่ยังไม่เอื้ออำนวยต่อการเปลี่ยนแปลงแก้ไขระบบยาได้ ปัญหาเหล่านี้ล้วนต้องการความรู้พื้นฐานและความรู้เชิงระบบตลอดจนการบริหารจัดการและการใช้ความรู้ การเปลี่ยนแปลงนโยบายที่จะนำไปสู่ระบบยาที่มีประสิทธิภาพ
นายสุนทร วิลาวัลย์ กล่าวต่อว่า เพื่อแก้ปัญหาของระบบยาดังกล่าวข้างต้น สถาบันวิจัยระบบสาธารณสุข จึงได้มีโครงการพัฒนาองค์ความรู้เพื่อพัฒนาระบบยาในประเทศไทยขึ้น โดยประกอบไปด้วย 6 ชุดโครงการ คือ โครงการเกี่ยวกับการส่งเสริมการใช้ยาอย่างเหมาะสม โครงการวิจัยเพื่อพัฒนาระบบคัดเลือกยา โครงการวิจัยเพื่อระบบการจัดหาและกระจายยา โครงการวิจัยเพื่อสนับสนุนอุตสาหกรรมการผลิต โครงการวิจัยเพื่อสนับสนุนการพัฒนานโยบายแห่งชาติด้านยา และโครงการวิจัยด้านกฎหมายเพื่อสนับสนุนการพัฒนายา
การแก้ปัญหาระบบยาดังกล่าว เพื่อให้เกิดองค์ความรู้ที่จำเป็นเกี่ยวกับระบบยาของประเทศ ซึ่งมีความเชื่อมโยงกับระบบสาธารณสุขเศรษฐกิจและสังคม อันนำไปสู่การแก้ไข ปรับเปลี่ยน การบริหารจัดการรวมถึงการพัฒนาระบบดังกล่าว ที่เกี่ยวข้องทั้งในระยะสั้นและระยะยาวให้เกิดการดำเนินงานอย่างมีประสิทธิภาพสูงสุดสอดคล้องกับปัญหาที่เกิดขึ้นจริง นายสุนทร วิลาวัลย์ กล่าว--จบ--

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๑๘:๓๓ COM7 เดินหน้าเต็มสปีด EV7 ส่งมอบแท็กซี่ไฟฟ้าล็อตแรก ดันเมกะเทรนด์ EV สู่หัวใจเมือง
๑๘:๓๖ GCAP ประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2568 ไฟเขียวผ่านฉลุยทุกวาระ พร้อมเดินหน้าแผนธุรกิจขยายสู่กลยุทธ์ Non Lending
๑๘:๔๔ PYLON จัดประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2568 ผู้ถือหุ้นไฟเขียวจ่ายปันผล 0.04 บาท/หุ้น
๑๘:๓๙ LDC จัดประชุมสามัญผู้ถือหุ้น ประจำปี 2568 มุ่งเป็นคลินิกทันตกรรมพรีเมียม ในราคาที่เข้าถึงง่าย
๑๘:๑๒ ผู้ถือหุ้น TATG ไฟเขียวจ่ายปันผล 0.07 บาท/หุ้น ลงทุนเครื่องจักรใหม่เสริมแกร่งสายการผลิต พิชิตเป้ารายได้ 3,000
๑๘:๕๗ ADVICE จัดประชุมสามัญผู้ถือหุ้นรูปแบบ Hybrid ประจำปี 2568 ผถห.ไฟเขียวทุกวาระ เคาะแจกปันผล 0.175 บ./หุ้น
๑๘:๓๖ LE ร่วมงานสถาปนิก'68 โชว์นวัตกรรมแสงสว่างอัจฉริยะ เสริมภาพผู้นำ Lighting Solutions Provider
๑๘:๔๖ SELIC จัดประชุมสามัญผู้ถือหุ้น ปี 2568 ผู้ถือหุ้นเห็นชอบทุกวาระ อนุมัติจ่ายปันผล 0.038 บาท/หุ้น เดินหน้า 3 ธุรกิจ
๑๘:๔๙ STA เปิดบ้านต้อนรับภาครัฐ โชว์มาตรฐานรับซื้อยางโปร่งใส เป็นธรรม หนุนรัฐต้านยางเถื่อน
๑๘:๓๕ กรมพัฒนาฝีมือแรงงาน จับมือเอกชน ปั้นช่างเชื่อมโกอินเตอร์ รายได้ทะลุ 70,000 บาทต่อเดือน