กรุงเทพ--25 ก.ย.--สำนักงานเขตกรุงเทพ
วันที่ 24 ก.ย. 40 เวลา 10.00 น. ดร.พิจิตต รัตตกุล ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร นายนิคม ปราชญ์นคร ผู้อำนวยการสำนักการระบายน้ำ พร้อมคณะ ได้เดินทางไปตรวจแนวป้องกันน้ำท่วมริมแม่น้ำเจ้าพระยา บริเวณท่าราชวรดิษฐ์ สโมสรทหารเรือ บริเวณวังเทเวศน์ และตรวจบ่อสูบน้ำหน้าท่าราชวรดิษฐ์ ท่าช้างวังหลวง รวมถึงตรวจการระบายน้ำ บริเวณพระบรมมหาราชวัง และบริเวณประตูวิเศษไชยศรี
ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เปิดเผยว่า จากกรณีที่มีฝนตกหนักทำให้บริเวณรอบพระบรมมหาราชวังเกิดน้ำท่วมขัง ทั้งนี้เนื่องจากท่อระบายน้ำภายในพระบรมมหาราชวัง มีขนาดเล็ก และไม่มีท่อระบายน้ำขนาดใหญ่รองรับ ดังนั้นคนจึงได้สั่งการสำนักการระบายน้ำแก้ไขปัญหาดังกล่าว และสำนักการระบายน้ำได้ติดตั้งเครื่องสูบน้ำเพิ่มที่ตรอกโรงโม่ เพื่อดึงน้ำจากถนนมหาไชย และด้านทิศใต้ของพระบรมมหาราชวัง ออกสู่แม่น้ำเจ้าพระยา อีกจุดหนึ่ง คือ บริเวณท่าพระจันทร์ ได้ติดเครื่องสูบน้ำ, คันชักน้ำเพื่อไม่ให้น้ำไหลผ่านไปยังพระบรมมหาราชวัง ส่วนด้านประตูวิเศษไชยศรี กทม. จะพยายามกั้นน้ำจากบริเวณท้องสนามหลวงไม่ให้เข้าถึงพระบรมมหาราชวัง โดยสร้างคันชักน้ำไว้ ตลอดจนมีหน่วยฟองน้ำเข้าช่วยเหลืออีกทางหนึ่ง นอกจากนี้ยังได้เร่งระบายน้ำภายในพระบรมมหาราชวังออกโดยเร็วที่สุด
สำหรับจุดอ่อนน้ำท่วมบริเวณรอบท้องสนามหลวงนั้น ได้เร่งสูบน้ำออกทางด้านท่าพระจันทร์ ท่าช้างวังหน้าท่าเตียน รวมทั้งยังได้ระบายน้ำลงคลองหลอดไปออกปากคลองตลาด และระบายน้ำออกด้านประตูระบายน้ำปิ่นเกล้าอีกทางหนึ่งด้วย
ผู้ว่าฯ กทม. กล่าวต่อไปว่า แนวป้องกันริมแม่น้ำเจ้าพระยา ดำเนินการก่อสร้าง เริ่มตั้งแต่วังเทเวศน์ เขตพระนครถึงสะพานสาธร ประมาณ 7 กม. ขณะนี้ได้ดำเนินการก่อสร้างแล้ว 5 กม. ทำให้ปีนี้กทม. สามารถลดพื้นที่เสียหายจากน้ำเอ่อล้นได้ประมาณ 50% เมื่อเทียบระดับน้ำที่ 2.20-2.30 เมตร สำหรับพื้นที่ที่สามารถป้องกันได้คือ บริเวณวังเทเวศน์ หน่วยราชการ ย่านถนนพระอาทิตย์ ท่าราชวรดิษฐ์ ท่าช้าง ส่วนบริเวณแนวป้องกันที่ยังสร้างไม่เสร็จ มีบางจุดที่ไม่สามารถป้องกันน้ำท่วมได้ ได้แก่ บริเวณชุมชนสามพระยา บริเวณป้อมพระสุเมรุ แต่กทม.จะใช้กระสอบทรายสร้างเป็นแนวป้องกันน้ำเอ่อล้น และเชื่อว่าน้ำเอ่อล้นคงไม่มีปัญหามาก--จบ--