ศูนย์วิทย์ฯ ขอนแก่นทำสำเร็จ..พัฒนาโปรแกรมตรวจสารระเหย

จันทร์ ๒๖ มกราคม ๑๙๙๘ ๑๕:๐๓
กรุงเทพ--26 ม.ค.--กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์
ศูนย์วิทยาศาสตร์การแพทย์ ขอนแก่น พัฒนาโปรแกรมตรวจวิเคราะห์สารระเหยสำเร็จ สามารถลดเวลาและลดขั้นตอนการตรวจวิเคราะห์ลงจากเดิม และอยู่ระหว่างเตรียมดำเนินการถ่ายทอดเทคโนโลยีที่เป็นประโยชน์เพื่อแก้ไขปัญหาสาธารณสุขในพื้นที่ห่างไกล เพื่อเพิ่มการบริการเชิงรุกแก่ประชาชน
ดร.เรณู โกยสุโข อธิบดีกรมวิทยาศาสตร์ เปิดเผยว่าตั้งแต่ปี พ.ศ. 2535 เป็นต้นมา จังหวัดในเขตที่รับผิดชอบของศูนย์วิทยาศาสตร์การแพทย์ขอนแก่น มีการส่งตัวอย่างสารระเหยมาตรวจวิเคราะห์เพิ่มมากขึ้นจากเดิมเฉลี่ยปีละประมาณ 235 ตัวอย่างโดยในปีงบประมาณ 2540 มีจำนวนตัวอย่างที่ส่งตรวจทั้งสิ้น 838 ตัวอย่าง ซึ่งในขบวนการตรวจพิสูจน์สารระเหยนี้จะใช้เวลาประมาณ 10 วันทำการ ประกอบด้วยการทำรายงานตรวจรับของกลาง การตรวจวิเคราะห์ รายงานการตรวจวิเคราะห์ การเก็บรักษาและการส่งทำลายของกลาง ทั้งนี้การทำรายงานการตรวจพิสูจน์จะต้องมีความสมบูรณ์ของรายละเอียดตามขั้นตอนต่างๆ เพื่อประกอบเป็นหลักฐานทางคดี โดยใช้รายงาน 1 ฉบับ ต่อ 1 ตัวอย่าง ซึ่งปกติแล้วจะใช้เวลาในการจัดทำเอกสารทั้งหมดประมาณ 120 นาที จึงทำให้เกิดความล่าช้าผู้ใช้บริการต้องใช้เวลารอคอยนานไม่ทันต่อความต้องการของผู้ใช้บริการ
จากปัญหาความล่าช้าของขั้นตอนด้านเอกสารดังกล่าว ศูนย์วิทยาศาสตร์การแพทย์ขอนแก่น จึงได้พัฒนาโปรแกรมการทำงานตรวจสารระเหย ตั้งแต่เดือน พฤษภาคม 2540 จนเสร็จสมบูรณ์ในเดือนตุลาคม 2540 โปรแกรมดังกล่าวสามารถทดแทนการทำรายงานในขั้นตอนต่างๆ แบบอัตโนมัติ โดยรวบรวมข้อมูลจากการบันทึกในครั้งแรก ผลของการพัฒนาโปรแกรมการตรวจสารระเหยนี้สามารถลดเวลาลงเหลือเพียง 30 นาที หรือลดลงจากระยะเวลาเดิมถึงร้อยละ 75 นอกจากนี้ยังลดความผิดพลาดต่างๆ ในด้านเอกสารได้อย่างมากผลการพัฒนาโปรแกรมด้วยระบบพึ่งตนเองของนักวิทยาศาสตร์การแพทย์นี้ ยังส่งผลดีในด้านการพัฒนางานบริการเชิงรุกของศูนย์วิทยาศาสตร์การแพทย์ ขอนแก่น สามารถรายงานผลการตรวจวิเคราะห์ได้อย่างรวดเร็วนับตั้งแต่วันที่รับตัวอย่างจนกระทั่งส่งรายงานฉบับสมบูรณ์ได้ประมาณ 5 วันทำการ ซึ่งสามารถสร้างความพึงพอใจแก่ผู้ใช้บริการทั้งของภาครัฐและเอกชนได้ในระดับหนึ่ง
อธิบดีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ กล่าวในตอนท้ายว่า นอกจากโปรแกรมทำงานตรวจสารระเหยที่ศูนย์วิทยาศาสตร์การแพทย์ ขอนแก่น ได้พัฒนาขึ้นมาใช้เพื่อบริการประชาชนแล้ว ขณะนี้กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ ยังได้ริเริ่มพัฒนาโปรแกรมการทำงานในด้านอื่นๆ อีกเพื่อเพิ่มการบริการเชิงรุกแก่ประชาชนทั่วไป นอกจากนี้ฐานข้อมูลการตรวจวิเคราะห์ทั้งหมดยังได้จัดเก็บอย่างเป็นระบบ เพื่อนำมาประมวลผลได้ตามความต้องการได้อย่างรวดเร็ว และสามารถขยายเทคโนโลยีที่ทันสมัย ให้กับศูนย์วิทยาศาสตร์การแพทย์ต่างๆ เพื่อประโยชน์ทางด้านการบริหารจัดการ และใช้ข้อมูลแก้ไขปัญหาสาธารณสุขในพื้นที่ห่างไกลได้อย่างทั่วถึง
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมที่ ฝ่ายประชาสัมพันธ์ โทรศัพท์ 5910203-14 ต่อ 9017, 9018--จบ--

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๑๘:๓๓ COM7 เดินหน้าเต็มสปีด EV7 ส่งมอบแท็กซี่ไฟฟ้าล็อตแรก ดันเมกะเทรนด์ EV สู่หัวใจเมือง
๑๘:๓๖ GCAP ประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2568 ไฟเขียวผ่านฉลุยทุกวาระ พร้อมเดินหน้าแผนธุรกิจขยายสู่กลยุทธ์ Non Lending
๑๘:๔๔ PYLON จัดประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2568 ผู้ถือหุ้นไฟเขียวจ่ายปันผล 0.04 บาท/หุ้น
๑๘:๓๙ LDC จัดประชุมสามัญผู้ถือหุ้น ประจำปี 2568 มุ่งเป็นคลินิกทันตกรรมพรีเมียม ในราคาที่เข้าถึงง่าย
๑๘:๑๒ ผู้ถือหุ้น TATG ไฟเขียวจ่ายปันผล 0.07 บาท/หุ้น ลงทุนเครื่องจักรใหม่เสริมแกร่งสายการผลิต พิชิตเป้ารายได้ 3,000
๑๘:๕๗ ADVICE จัดประชุมสามัญผู้ถือหุ้นรูปแบบ Hybrid ประจำปี 2568 ผถห.ไฟเขียวทุกวาระ เคาะแจกปันผล 0.175 บ./หุ้น
๑๘:๓๖ LE ร่วมงานสถาปนิก'68 โชว์นวัตกรรมแสงสว่างอัจฉริยะ เสริมภาพผู้นำ Lighting Solutions Provider
๑๘:๔๖ SELIC จัดประชุมสามัญผู้ถือหุ้น ปี 2568 ผู้ถือหุ้นเห็นชอบทุกวาระ อนุมัติจ่ายปันผล 0.038 บาท/หุ้น เดินหน้า 3 ธุรกิจ
๑๘:๔๙ STA เปิดบ้านต้อนรับภาครัฐ โชว์มาตรฐานรับซื้อยางโปร่งใส เป็นธรรม หนุนรัฐต้านยางเถื่อน
๑๘:๓๕ กรมพัฒนาฝีมือแรงงาน จับมือเอกชน ปั้นช่างเชื่อมโกอินเตอร์ รายได้ทะลุ 70,000 บาทต่อเดือน