สถาบันพัฒนาองค์กรชุมชน(พอช.) ใช้งบ มพช.อีก 185 ล้านบาท สนองนโยบาย "หนึ่งผลิตภัณฑ์ หนึ่งตำบล"

ศุกร์ ๐๘ มิถุนายน ๒๐๐๑ ๑๔:๐๓
กรุงเทพฯ--8 มิ.ย.--มพช.
สถาบันพัฒนาองค์กรชุมชน(พอช.) ใช้งบ มพช.อีก 185 ล้านบาท วางกลไกเครือข่ายศูนย์ธุรกิจชุมชน สนองนโยบาย "หนึ่งผลิตภัณฑ์ หนึ่งตำบล" ของรัฐบาล เริ่มต้น 15 จังหวัดนำร่อง ก่อนกระจายลงสู่ทุกจังหวัดในประเทศ
นางสาวสมสุข บุญญะบัญชา ผู้อำนวยการสถาบันพัฒนาองค์กรชุมชน(พอช.) เปิดเผยว่า พอช. ได้ใช้เงินงวดสองอีก 185 ล้านบาท จากโครงการมาตรการเสริมการพัฒนาชนบทและชุมชน (มพช.) เพื่อใช้ในการสร้างกลไกเครือข่ายชุมชน รองรับการถ่ายโอนอำนาจจากส่วนกลางลงสู่ท้องถิ่น จากงบประมาณรวม 500 ล้านบาท
"เงินงวดสองนี้ พอช.นำมาใช้ในก่อตั้งศูนย์ธุรกิจชุมชน ซึ่งถือว่าเป็นกลไกสำคัญที่จะทำให้ชุมชนมีความเข้มแข็งและสามารถสร้างรายได้ให้กับสมาชิกและชุมชน จึงเท่ากับว่า ชุมชนมีความเข้มแข็งมากขึ้น"
ผู้อำนวยการ พอช. กล่าวว่า ศูนย์ธุรกิจชุมชน ที่จัดตั้งขึ้น จะมีบทบาทในการประสานงานเรื่องการตลาดให้กับชุมชน โดยเฉพาะในเรื่องของการจัดการเชิงธุรกิจ เนื่องจากแต่ละชุมชนต่างมีสินค้าอยู่แล้ว ดังนั้น ศูนย์ธุรกิจชุมชนจะเข้าไปทำหน้าที่เป็นร้านค้าให้กับชุมชน เช่นการซื้อมา-ขายไป ทำหน้าเป็นผู้ร่วมพัฒนาในการผลิตเกษตรอินทรีย์ให้กับเกษตรกรและชุมชนต่างๆ และการทำหน้าที่ด้านการตลาดให้กับชุมชน
" สามบทบาทหลัก ของศูนย์ธุรกิจชุมชน จะเป็นส่วนสนับสนุนต่อนโยบายของรัฐบาล ในโครงการ "หนึ่งผลิตภัณฑ์ หนึ่งตำบล" เท่ากับว่าชุมชนสามารถมีช่องทางในการจำหน่ายสินค้าและแหล่งเงิน ทุนของสมาชิกในชุมชนอีกทางหนึ่ง"
สำหรับศูนย์ธุรกิจชุมชน นี้จะเริ่มใน 15 จังหวัดกระจายทั่วทุกภาคของไทย คือ กรุงเทพฯ ปทุมธานี ภาคเหนือที่ เชียงราย พะเยา เชียงใหม่ ภาคตะวันออกที่ ตราด ระยอง จันทบุรี ภาคใต้ที่ สงขลา ตรัง ชุมพร นครศรีธรรมราช และภาคตะวันออกเฉียงเหนือที่ ยโสธร ขอนแก่นและมุกดาหาร
อย่างไรก็ตาม การเริ่มดำเนินการของศูนย์ธุรกิจชุมชนนั้น ผอ.พอช. กล่าวว่า จะเริ่มต้นไม่พร้อมกัน เพราะต้องขึ้นอยู่กับความพร้อมของแต่ละจังหวัด เนื่องจากในบางแห่งก็ดำเนินการอยู่แล้ว เมื่อตั้งศูนย์ธุรกิจชุมชนขึ้นก็จะเป็นการต่อยอดให้กับชุมชน
สำหรับบางจังหวัดที่มีลักษณะของการจัดการคล้ายๆ กับศูนย์ธุรกิจชุมชน แต่ไม่ได้ดำเนินการอย่างเป็นเครือข่ายชัดเจน เมื่อจัดตั้งศูนย์ธุรกิจชุมชนแล้ว จะช่วยให้การจัดการของจังหวัดนั้นๆ เป็นเครือข่ายของชุมชนที่เข้มแข็งได้
ส่วนที่เหลือบางแห่งก็จะเป็นการเข้าไปวางระบบและสร้างกลไกนี้ขึ้นมา และจะเป็นส่วนช่วยให้ชุมชนในท้องถิ่นคิดเป็นและทำเป็น ได้ตรงความต้องการของชุมชน ซึ่งเท่ากับว่าช่วยให้ชุมชนเกิดความเข้มแข็ง และพร้อมรับการถ่ายโอนอำนาจจากส่วนกลางได้.
รายละเอียดเพิ่มเติม โปรดติดต่อ
ศูนย์ประชาสัมพันธ์ มพช.
คุณสุภาพร หวานเสนาะ / คุณสร้อยนภา สงฆ์โนนเหล็ก
โทร. 279-8001,616-2214-5--จบ--
-อน-

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๑๘:๓๓ COM7 เดินหน้าเต็มสปีด EV7 ส่งมอบแท็กซี่ไฟฟ้าล็อตแรก ดันเมกะเทรนด์ EV สู่หัวใจเมือง
๑๘:๓๖ GCAP ประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2568 ไฟเขียวผ่านฉลุยทุกวาระ พร้อมเดินหน้าแผนธุรกิจขยายสู่กลยุทธ์ Non Lending
๑๘:๔๔ PYLON จัดประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2568 ผู้ถือหุ้นไฟเขียวจ่ายปันผล 0.04 บาท/หุ้น
๑๘:๓๙ LDC จัดประชุมสามัญผู้ถือหุ้น ประจำปี 2568 มุ่งเป็นคลินิกทันตกรรมพรีเมียม ในราคาที่เข้าถึงง่าย
๑๘:๑๒ ผู้ถือหุ้น TATG ไฟเขียวจ่ายปันผล 0.07 บาท/หุ้น ลงทุนเครื่องจักรใหม่เสริมแกร่งสายการผลิต พิชิตเป้ารายได้ 3,000
๑๘:๕๗ ADVICE จัดประชุมสามัญผู้ถือหุ้นรูปแบบ Hybrid ประจำปี 2568 ผถห.ไฟเขียวทุกวาระ เคาะแจกปันผล 0.175 บ./หุ้น
๑๘:๓๖ LE ร่วมงานสถาปนิก'68 โชว์นวัตกรรมแสงสว่างอัจฉริยะ เสริมภาพผู้นำ Lighting Solutions Provider
๑๘:๔๖ SELIC จัดประชุมสามัญผู้ถือหุ้น ปี 2568 ผู้ถือหุ้นเห็นชอบทุกวาระ อนุมัติจ่ายปันผล 0.038 บาท/หุ้น เดินหน้า 3 ธุรกิจ
๑๘:๔๙ STA เปิดบ้านต้อนรับภาครัฐ โชว์มาตรฐานรับซื้อยางโปร่งใส เป็นธรรม หนุนรัฐต้านยางเถื่อน
๑๘:๓๕ กรมพัฒนาฝีมือแรงงาน จับมือเอกชน ปั้นช่างเชื่อมโกอินเตอร์ รายได้ทะลุ 70,000 บาทต่อเดือน