นิสสันยังได้ชวนนักแสดงเด็กมาร่วมสร้างความสุขให้กับน้อง อาทิเช่น น้องแม็ก ณัฐพัชร์ และ น้องริว อิงครัต ทั้งนี้ สำหรับบรรยากาศในการชมภาพยนตร์นั้น แม้ว่าน้องๆ ซึ่งมีตั้งแต่อายุ 3 ขวบ จนถึง 17 ปี จะซุกซนก่อนเข้าชมบ้าง แต่หลังจากภาพยนตร์แอนนิเมชั่นเริ่มฉาย สร้างความตื่นเต้นและเสียงหัวเราะตลอดเวลากว่า 1 ชั่วโมงของการชมภาพยนตร์ ก็ทำให้ผู้ใหญ่ที่มอบโอกาสให้มีความสุขและยิ้มปลื้มอย่างมากมาย ดังคำบอกเล่าของ คุณสุรีย์ทิพย์ ละอองทอง โฉมทองดี รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายงานการตลาด บริษัท นิสสัน มอเตอร์ (ประเทศไทย) จำกัด "ดีใจที่ได้มีโอกาสได้มอบความสุขในช่วงปีใหม่ให้กับน้องๆ โดยส่วนตัวได้ดูภาพยนตร์เรื่องนี้แล้ว ประทับใจมาก ให้ความรู้สึกสุขกับความอบอุ่นความรักของพ่อแม่ไดโนเสาร์ที่มีต่อลูก ได้ความรู้สึกประทับใจถึงพลังความกล้าหาญ มิตรภาพของเพื่อนไดโนเสาร์น้อย กับทาร์ซานจิ๋ว ที่เมื่อพวกเขามาเรียนรู้ด้วยกัน ก็จะเกิดพลัง ต่างคนต่างได้เรียนรู้จุดแข็งของเพื่อน และนำจุดแข็งนั้น ทำให้เพื่อนสามารถก้าวข้ามอุปสรรค รวมถึงสามารถช่วยชีวิตเพื่อนได้ ก็เชื่อว่าในข้อคิด สาระ ที่ซ่อนอยู่ในภาพยนตร์เรื่องนี้ จะทำให้น้องๆ ได้มีความรู้สึกดีๆ มีกำลังใจ และเห็นคุณค่าของมิตรภาพ และการทำความดี"
ความรู้สึกน้องๆจากชุมชนเสนานิคม 2 ที่ได้มาร่วมชมภายนตร์ ณ โรงภาพยนตร์ สยามพารากอน ทุกคนต่างตื่นเต้น เพราะบางคนที่นี่ถือเป็นครั้งแรกที่ได้มาชมภาพยนตร์ ในโรงครั้งแรก
"หนูนอนไม่หลับเลย เมื่อคืนนอน 5 ทุ่ม ตื่นตี2 ตื่นเต้น ครั้งแรกที่ดูหนังโรง ดูแต่ในโทรทัศน์ ภาพไม่เหมือนในทีวี จอใหญ่นั่งสบาย ไม่ปวดคอ ไม่หิวเลยหนูมากับชุมชน ในวันเสาร์อาทิตย์อยู่บ้านดูทีวี ทำงานบ้าน กลับไปบ้านจะเล่าให้น้องฟังว่ามาดูหนังเรื่องไดโนเสาร์" น้องแพร นภาพร ไม้อ่อน จากชุมชนเสนานิคมวัย 2 ขวบบอกเล่าด้วยความสุขหลังจากได้มีโอกาสชมภาพยนตร์ในโรงหนัง
ก่อนเข้าชมภาพยนต์น้องๆได้รับป๊อปคอร์น พร้อมน้ำแก้วใหญ่จากหน้าโรงนำเข้าไปรับประทานระหว่างดูหนัง เป็นบรรยากาศของการดูหนังเต็มครบออฟชั่น พร้อมกับเหล่าพี่อาสาสมัครพนักงานคนรุ่นใหม่ของนิสสัน ที่เรียกว่า Nissan CSR Team ที่มาช่วยดูแลน้องๆระหว่างดูหนังให้มีความสุขไม่ว่าจะคอยจูงมือพาเข้าโรง พาไปห้องน้ำและคอยตอบคำซักถามของน้องๆ ขณะที่คุณพิมพร ศิริวรรณ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่สายงานประชาสัมพันธ์และซี เอส อาร์ บริษัท นิสสัน มอเตอร์ (ประเทศไทย) จำกัด ซึ่งนำทีมจิตอาสา Nissan CSR Team จากแผนกต่างๆ มาร่วมดูแลน้องๆ กล่าวว่า เป็นที่น่าดีใจที่แม้จะเป็นวันหยุด แต่พนักงานหนุ่มสาว คนรุ่นใหม่ของนิสสัน ก็มีจิตอาสา มาร่วมกิจกรรม ให้ความสุข สร้างรอยยิ้มให้กับน้องๆ กันอย่างชนิดที่เรียกว่าใจเกินร้อย หลายคนเมื่อเข้าไปในโรงภาพยนตร์ ยินดีที่จะนั่งกับพื้นตรงทางบันได เพื่อคอยดูแลน้องๆ ที่ จะไปเข้าห้องน้ำในระหว่างที่ฉายภาพยนตร์ รวมถึงจูงน้องพาน้องไปส่งที่รถ
รสสุคนธ์ กสิกิจวรกุล พนักงานแผนก R&D บอกว่า "ปกติเคยทำงานด้านจิตอาสาเมื่ออยู่มหาวิทยาลัย เช่น จัดห้องสมุด บริจาคของ ชอบกิจกรรมจิตอาสา เพราะทำแล้วได้ความความสบายใจและมีความสุข ได้สัมผัสกับเด็กๆแต่ละคนไม่เหมือนกัน เด็กบางคนก็มีความกล้า ความขี้อายแตกต่างกันรู้สึกว่าน้องๆให้ความร่วมมือดี"
เช่นเดียวกับ วัฒนา จินดา พนักงานในแผนกคิวซีอุปกรณ์และแม่พิมพ์ บอกว่าในวันนี้เข้างานกะกลางคืนในวันเช้าวันเสาร์เมื่อมีเวลาว่าง จึงมาร่วมกิจกรรม ทั้งแผนกสมัครมาคนเดียวเมื่อได้มาดูแลน้องๆ รู้สึกว่ามีความสุขเมื่อเห็นน้องๆมีความสุขเมื่อได้ดูหนัง
ประวิชญา แหล้ยัง ผู้ประสานงานโครงการพัฒนาพื้นที่ชุมชนอย่างยั่งยืน มูลนิธิศุภมิตรแห่งประเทศไทย บอกว่า ดีใจที่มีโอกาสแบบนี้มอบให้กับเด็กๆ ส่วนใหญ่ยังไม่เคยมามาดูหนัง เนื่องจากพ่อแม่มีฐานะยากจน ต้องทำงาน นอกจากนี้มีจำนวนมากที่เป็นเด็กกำพร้า การที่นิสสันได้จัดรถรับส่งดูแลพามาดูภาพยนตร์ จึงทำให้น้องๆ มีความสุข สดใส และ มีเสียงหัวเราะดังมาก
สำหรับความมุ่งมั่นของนิสสัน ที่จัดกิจกรรมนี้ขึ้น เพื่อมอบรอยยิ้มและความสุขให้กับลูกค้า และสังคมไปพร้อมๆ กัน โดยนอกจากกิจกรรมเพื่อน้องแล้ว ยังได้จัดกิจกรรมให้ลูกค้าพาครอบครัวมาชมภาพยนตร์ ในวันพ่อ รวมถึงจัดกิจกรรมบริการหลังการขาย ให้ลูกค้านำรถเข้ามาตรวจสภาพฟรี 28 รายการในช่วงเดือนแห่งความสุข จนถึงวันที่ 31 มกราคม ภายใต้ แนวคิดกลับบ้านอย่างปลอดภัยกับนิสสันหรือ GET HOME SAFELY with NISSAN พร้อมจัดให้ลุ้นโชคใหญ่เป็นรถนิสสัน มาร์ช และรางวัลอื่นรวมกว่า 1.6 ล้านบาท
นิสสัน ก่อตั้งในประเทศญี่ปุ่น ตั้งแต่ปี พ.ศ . 2476 และเริ่มดำเนินธุรกิจในประเทศไทยมาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2495 โดยมีนโยบายมุ่งที่จะนำเสนอนวัตกรรมที่สร้างความตื่นเต้นเร้าใจให้กับลูกค้า (Innovation that Excites) ทำให้ลูกค้าได้มีความสุขกับการใช้รถของนิสสัน ขณะที่ในด้านสังคมนิสสันมุ่งการมีส่วนร่วมในการเพิ่มพูนความสุข และเพิ่มชีวิตชีวาให้กับคนในสังคม รวมถึงการมีส่วนร่วมสร้างและธำรงไว้ซึ่ง ท้องฟ้าสิ่งแวดล้อมและโลกที่สดใสน่าอยู่สำหรับคนรุ่นใหม่ในอนาคต ตามแนวคิดของการเป็นประชากรภายใต้โลกสีฟ้าสดใส หรือ Nissan Blue Citizenship