การประชุมครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อเป็นการขยายความร่วมมือและระดมความคิดเห็นร่วมกันระหว่างประเทศไทยกับธนาคารโลกภายใต้แผนไทยเข้มแข็ง ซึ่งมีเป้าหมายสำคัญ คือ เร่งรัดการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานที่สำคัญและจำเป็นของภาครัฐเพื่อเพิ่มแรงกระตุ้นให้กับระบบเศรษฐกิจของประเทศ ก่อให้เกิดการจ้างงาน และสร้างรายได้ให้กับประชาชน เพิ่มการกระจายการลงทุนด้านการบริการสาธารณะขั้นพื้นฐานสู่ชนบท ซึ่งเป็นการบรรเทาปัญหาว่างงานในปัจจุบัน พร้อมทั้งสร้างโอกาสด้านการลงทุนให้แก่ภาคเอกชน โดยให้ความสำคัญกับการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานที่จำเป็นต่อการยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชนในชนบทและเกษตรกร ตลอดจนการเสริมสร้างความเข้มแข็งแก่สถาบันการเงินเฉพาะกิจซึ่งมีบทบาทสำคัญต่อการพัฒนาภาคการเงินของไทยในปัจจุบันและใน 2 ปี ข้างหน้าตามกรอบยุทธศาสตร์ความเป็นหุ้นส่วนระหว่างประเทศไทยกับธนาคารโลกระยะ 2 ปี (2552-2553) ทั้งนี้ จะมีผู้เชี่ยวชาญจากธนาคารโลก สำนักงานใหญ่ กรุงวอชิงตัน ประเทศสหรัฐอเมริกา เดินทางมาเข้าร่วมในการระดม ความคิดเห็นและให้ข้อเสนอแนะที่เป็นประโยชน์ด้วย การประชุมที่สมุยจะมีการระดมความเห็นในหัวข้อ ที่สำคัญต่อการพัฒนาของไทย 4 หัวข้อหลัก ได้แก่
1. ด้านการเงินของโครงการด้านโครงสร้างพื้นฐาน รวมถึง การติดตาม ตรวจสอบ และรายงานผลงานในโครงการด้านโครงสร้างพื้นฐานภายใต้แผนกระตุ้นเศรษฐกิจ 2 (SP2) (สำนักงานบริหารหนี้สาธารณะเป็นเจ้าภาพ)
2. การเข้าถึงและการบริหารความเสี่ยงทางการคลัง และโครงการอื่น อันเกี่ยวเนื่องกับ การให้ความสนับสนุนด้านพืชผลทางการเกษตร (สำนักงานเศรษฐกิจการคลังเป็นเจ้าภาพ)
3. การประกันพืชผลทางการเกษตร และการบริหารความเสี่ยงของพืชผลทางการเกษตร (สำนักงานเศรษฐกิจการคลังเป็นเจ้าภาพ)
4. การเพิ่มความเข้มแข็งในการบริหารความเสี่ยงของสถาบันการเงินเฉพาะกิจ (สำนักงานเศรษฐกิจการคลังเป็นเจ้าภาพ)
การประชุมครั้งนี้ แบ่งออกเป็น 2 วัน โดยในวันแรก (วันที่ 3 กรกฎาคม 2552) ในช่วงเช้า ปลัดกระทรวงการคลังเป็นผู้กล่าวรายงานวัตถุประสงค์ของการจัดงานและมีรัฐมนตรีว่ากากระทรวงการคลังและคุณ Annette Dixon, Country Director ธนาคารโลกประจำประเทศไทยในฐานะเจ้าภาพร่วม กล่าวเปิดการประชุม หลังจากนั้น ผู้แทนหน่วยงานภาครัฐจะรายงานภาพรวมของแต่ละกลุ่มย่อยให้แก่ผู้เข้าประชุม ซึ่งประกอบด้วย หน่วยงานภาครัฐ รัฐวิสาหกิจ และภาคเอกชนที่เกี่ยวข้อง ก่อนที่จะมีการประชุมกลุ่มย่อยในช่วงบ่าย สำหรับในวันที่ 2 ของการประชุม (วันที่ 4 กรกฎาคม 2552) ในช่วงเช้า จะมีการรายงานสรุปผลการประชุมในแต่ละกลุ่มย่อย โดยมีรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังเป็นประธาน และในช่วงบ่ายจะเป็น การระดมความเห็นเพื่อหาข้อสรุปความร่วมมือกับธนาคารโลกใน 2 ปีข้างหน้า และเมื่อเสร็จสิ้นการประชุม รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังและ Country Director ธนาคารโลกประจำประเทศไทย จะแถลงข่าวผลการประชุมให้กับผู้สื่อข่าวและซักถามผลลัพธ์ของการประชุม
การประชุมครั้งนี้ คาดว่า จะสามารถหาข้อสรุปในประเด็นต่างๆ ทั้ง 4 หัวข้อ และสามารถนำมาใช้ในเชิงนโยบาย หรือมีโครงการนำร่องที่จะเป็นประโยชน์ต่อประเทศไทย ทั้งในด้านเศรษฐกิจ การเงิน สังคม เพื่อเป็นตัวอย่างสำหรับการดำเนินการระหว่างหน่วยงานภาครัฐของไทยกับธนาคารโลกในอนาคตต่อไป
สำนักนโยบายเศรษฐกิจระหว่างประเทศ สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง
02-273-9020 ต่อ 3620