นายฉัตรชัย พรหมเลิศ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) กล่าวว่า ฝนที่ตกหนักอย่างต่อเนื่อง ในหลายพื้นที่ ทำให้เกิดสถานการณ์อุทกภัย 4 จังหวัด ได้แก่ สกลนคร ศรีสะเกษ อุบลราชธานี และอำนาจเจริญ รวม 17 อำเภอ โดยจังหวัดสกลนคร เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลากในพื้นที่ 5 อำเภอ 16 ตำบล 136 หมู่บ้าน ได้แก่ อำเภอเมืองสกลนคร อำเภอโพนนาแก้ว อำเภอสว่างแดนดิน อำเภอพรรณานิคม และอำเภออากาศอำนวย ประชาชนได้รับความเดือดร้อน 4,298 ครัวเรือน สะพานเสียหาย 1 แห่ง ท่อระบายน้ำ 4 แห่ง พื้นที่การเกษตรเสียหาย 11,782 ไร่ ปัจจุบันสถานการณ์คลี่คลายแล้ว อยู่ระหว่างการฟื้นฟู แต่ยังคงมีน้ำท่วมขังพื้นที่ลุ่มการเกษตร จังหวัดศรีสะเกษ เกิดน้ำท่วมฉับพลันใน 2 อำเภอ 10 ตำบล ได้แก่ อำเภอโนนคูณ ในพื้นที่ตำบลโพธิ์ บ้านเรือนประชาชนได้รับผลกระทบ 50 หลังคาเรือน และอำเภอเบญจลักษณ์ ในพื้นที่ตำบลหนองงูเหลือม อยู่ระหว่างการสำรวจความเสียหาย ปัจจุบันสถานการณ์คลี่คลายแล้ว แต่ยังคงมีน้ำท่วมขังในพื้นที่ลุ่มการเกษตร จังหวัดอุบลราชธานี เกิดน้ำท่วมในพื้นที่ 9 อำเภอ ได้แก่ อำเภอเดชอุดม อำเภอพิบูลมังสาหาร อำเภอสำโรง อำเภอนาเยีย อำเภอเมืองอุบลราชธานี อำเภอวารินชำราบ อำเภอสว่างวีระวงศ์ อำเภอสิรินธร และอำเภอกุดข้าวปุ้น รวม 32 ตำบล 137 หมู่บ้าน 11,248 ครัวเรือน บ้านเรือนประชาชนถูกน้ำท่วม 726 หลัง เจ้าหน้าที่ได้อพยพประชาชนจำนวน 20 ครัวเรือน ถนนเสียหาย 47 สาย สะพาน 6 แห่ง วัด 1 แห่ง โรงเรียน 1 แห่ง พื้นที่เกษตร 12,120 ไร่ ปัจจุบันระดับน้ำในทุกอำเภอลดลง แต่ยังคงมีน้ำท่วมในพื้นที่ลุ่มการเกษตรในพื้นที่อำเภอนาเยีย อำเภอวารินชำราบ และอำเภอพิบูลมังสาหาร จังหวัดอำนาจเจริญ น้ำล้นระดับกักเก็บของอ่างเก็บน้ำพุทธอุทยาน อำเภอเมืองอำนาจเจริญ ทำให้เอ่อล้นลำห้วยปลาแดกเข้าท่วมพื้นที่การเกษตรกว่า 300 ไร่ บ้านเรือนประชาชนได้รับผลกระทบ 10 หลังคาเรือน และถนนถูกน้ำท่วมหลายสาย คาดว่าสถานการณ์จะเข้าสู่ภาวะปกติภายใน 1 – 2 วัน สำหรับการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัย สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดที่ประสบภัยได้ร่วมกับหน่วยทหารและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อพยพประชาชนและขนย้ายสิ่งของไปยังพื้นที่ปลอดภัย เร่งระบายน้ำออกจากพื้นที่ รวมถึงแจกจ่ายถุงยังชีพแก่ผู้ประสบภัย พร้อมเร่งตรวจสอบและสำรวจความเสียหาย เพื่อให้การช่วยเหลือผู้ประสบภัยตามระเบียบกระทรวงการคลังฯ ท้ายนี้ ผู้ประสบภัยสามารถติดต่อแจ้งเหตุและขอความช่วยเหลือได้ที่ศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเขต สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัด สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดสาขาในพื้นที่ หรือสายด่วนนิรภัย 1784 ตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อประสานให้การช่วยเหลือโดยด่วนต่อไป
0-2243-0674 0-2243-2200
www.disaster.go.th