นางบุบผา ภู่ละออ ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตรที่ 6 จังหวัดชลบุรี (สศท.6) สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร (สศก.) เปิดเผยถึงผลพยากรณ์ไม้ผลภาคตะวันออก ครั้งที่ 2 ของสินค้า 4 ชนิด คือ ทุเรียน เงาะ มังคุด ลองกอง ในพื้นที่ 3 จังหวัด ได้แก่ จันทบุรี ระยอง และตราด เพื่อใช้เป็นข้อมูลเบื้องต้นในการวางแผนบริหารจัดการผลไม้ตั้งแต่ต้นฤดู โดยเป็นความร่วมมือกับสำนักส่งเสริมและพัฒนาการเกษตรที่ 3 (สสข.3) จังหวัดระยอง และสำนักงานเกษตรจังหวัดระยอง จันทบุรี และตราด ซึ่งผลพยากรณ์ ครั้งที่ 2 (ข้อมูล ณ วันที่ 19 มกราคม 2559) พบว่า
เนื้อที่ให้ผลของไม้ผลทั้ง 4 ชนิด มีจำนวน 664,885 ไร่ เพิ่มขึ้นจากปี 2558 ที่มีจำนวน 662,965 ไร่ (เพิ่มขึ้น 1,920 ไร่ หรือร้อยละ 0.29) โดยทุเรียน เพิ่มขึ้นประมาณร้อยละ 1.4 มังคุด เพิ่มขึ้นร้อยละ 0.89 ส่วนเงาะ ลดลงร้อยละ 0.01 และลองกอง ลดลงร้อยละ 3.35
ผลผลิตต่อไร่ทั้ง 4 ชนิด คือ ทุเรียน เงาะ มังคุด และลองกอง คาดว่าจะเพิ่มขึ้นเนื่องจากราคาในปีที่ผ่านมาอยู่ในเกณฑ์ดีจูงใจให้เกษตรกรมีการดูแลรักษาดีขึ้น ประกอบกับในปีที่ผ่านมาไม้ผลบางต้นไม่ติดผลหรือให้ผลผลิตน้อย ทำให้มีเวลาในการพักต้นสะสมอาหารต้นสมบูรณ์ขึ้น
สำหรับผลผลิตรวมทั้ง 4 สินค้า คาดว่าจะมีผลผลิตรวมประมาณ 776,780 ตัน เพิ่มขึ้นจากปี 2558 จำนวน 56,528 ตัน หรือร้อยละ 7.85 โดยผลผลิตจะออกมากช่วงปลายเดือนพฤษภาคม ต่อเนื่องถึงกลางเดือนมิถุนายน และคาดการณ์ว่าผลผลิตรวมของทั้ง 4 สินค้าจะเพิ่มขึ้นทุกชนิด โดยมังคุด จะเพิ่มขึ้นมากที่สุดอยู่ที่ร้อยละ 18.66 เนื่องจากปีที่แล้วมามังคุดติดผลน้อยคาดว่าสภาพอากาศที่เหมาะสมจะออกดอกได้มากขึ้น รองลงมาได้แก่ ทุเรียน เพิ่มขึ้นร้อยละ 8.75 เงาะ เพิ่มขึ้นร้อยละ 2.23 และลองกอง เพิ่มขึ้นร้อยละ 1.62
ทั้งนี้ ด้านสถานการณ์การผลิตไม้ผลในขณะนี้ ทุเรียน ออกดอกแล้วประมาณร้อยละ 78 ผลผลิตที่ติดผลในช่วงแรกนี้เป็นทุเรียนพันธุ์เบา และทุเรียนที่บังคับสารกระตุ้นการออกดอกจะเป็นพันธุ์กระดุมและหมอนทองบางส่วน เงาะ ออกดอกแล้วประมาณร้อยละ 41 มังคุด ออกดอกแล้วประมาณร้อยละ 18 ลองกองออกดอกน้อยมากประมาณร้อยละ 1.5 ซึ่งหากสภาพดิน ฟ้า อากาศแปรปรวนอาจทำให้ผลผลิตไม้ผลเปลี่ยนแปลงลดลงได้อีกเนื่องจากในปีนี้มีฝนตกในช่วงฤดูหนาวส่งผลต่อการติดดอกออกผลของผลไม้ล่าช้าออกไปเมื่อเปรียบเทียบกับปีที่ผ่านมา