สจ๊วต โครว์ ซีอีโอหน่วยธุรกิจบริการด้านตลาดทุนภาคพื้นเอเชียแปซิฟิกของเจแอลแอล กล่าวว่า "จากการที่ประเทศต่างๆ ที่เป็นตลาดหลักๆ ด้านการลงทุนอสังหาริมทรัพย์ทั่วโลกมีอัตราผลตอบแทนลดลง โดยเฉพาะในยุโรปและสหรัฐฯ ทำให้นักลงทุนในประเทศเหล่านี้ หันไปหาโอกาสการลงทุนในตลาดของประเทศอื่นที่ให้ผลตอบแทนการลงทุนสูงกว่า โดยเฉพาะในเอเชียแปซิฟิก ทั้งนี้ พบว่า การร่วมทุน (กิจการร่วมค้า หรือ Joint venture) และการจัดคอนซอร์เตียม (กิจการค้าร่วม หรือ Consortium) เป็นวิธีที่นักลงทุนนิยมใช้มากขึ้นในการเข้าลงทุนซื้ออาคารหรือโครงการอสังหาริมทรัพย์ที่มีมูลค่าสูงในเอเชียแปซิฟิก"
รายการลงทุนซื้อขายอสังหาริมทรัพย์ล่าสุดสำหรับช่วงครึ่งแรกปีนี้ เกิดขึ้นที่สิงคโปร์ คือการขายอาคารสำนักงานเกรดเอดูโอทาวเวอร์และศูนย์การค้าดูโอแกลเลอเรีย รวมมูลค่า 1.17 พันล้านดอลลาร์ ซึ่งเจแอลแอลได้รับมอบหมายจากบริษัทเอ็มพลัสเอสให้ทำหน้าที่เป็นตัวแทนขาย โดยมีบริษัทอัลไลแอนซ์เรียลเอสเตทและบริษัทกอว์แคปปิตัลได้ร่วมเป็นหุ้นส่วนกันในการเข้าซื้อ
นายโครว์กล่าวว่า "การซื้อขายรายการดังกล่าว สะท้อนให้เห็นถึงศักยภาพของเอเชียแปซิฟิกในการดึงดูดการลงทุนจากภาคธุรกิจประกันระหว่างประเทศ โดยเชื่อว่า ในช่วงครึ่งหลังของปีนี้ไปจนถึงไตรมาสแรกของปีหน้าจะมีกลุ่มทุนจากภาคธุรกิจประกันเข้ามามีบทบาทมากขึ้นและกระตุ้นตลาดการลงทุนซื้อขายอสังหาริมทรัพย์"
เป็นที่น่าสังเกตว่า ตลาดการลงทุนซื้อขายอสังหาริมทรัพย์ปรับตัวดีขึ้นมาก โดยในช่วงครึ่งแรกของปีนี้มีมูลค่าการลงทุนปรับเพิ่มสูงขึ้นเกือบเท่าตัวเมื่อเทียบกับปี 2561 หนุนโดยรายการลงทุนซื้อขายมูลค่าสูง ทั้งนี้ มูลค่าการซื้อขายส่วนใหญ่มาจากการซื้อขายอาคารสำนักงาน คือเกือบ 4.6 พันล้านดอลลาร์ และมีแนวโน้มว่ามูลค่าการซื้อขายรวมของทั้งปีจะพุ่งขึ้นสูงสุดในรอบ 10 ปี เทียบกับปี 2561 และปี 2560 ที่มีมูลค่าการซื้อขายรวมของทั้งปีที่ 3 พันล้านดอลลาร์และ 4.7 พันล้านดอลลาร์ตามลำดับ
เกี่ยวกับ JLL
เจแอลแอลจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์นิวยอร์ก เป็นหนึ่งในบริษัทชั้นนำของโลกในธุรกิจบริการที่มีความเชี่ยวชาญด้านอสังหาริมทรัพย์และบริหารการลงทุน โดยในปีที่ผ่านมา มีรายได้ทั่วโลกรวมทั้งสิ้น 1.63 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ดำเนินธุรกิจในกว่า 80 ประเทศและมีพนักงานทั่วโลกรวมจำนวนทั้งสิ้นกว่า 91,000 คน JLL เป็นชื่อแบรนด์และเครื่องหมายการค้าของบริษัทโจนส์ แลง ลาซาลล์ (Jones Lang LaSalle Incorporated)
สำหรับในประเทศไทย เจแอลแอลเริ่มดำเนินธุรกิจในปี 2533 ปัจจุบันเป็นบริษัทระหว่างประเทศผู้ให้บริการด้านอสังหาริมทรัพย์ครบวงจรรายใหญ่ที่สุดในประเทศ ด้วยพนักงาน 1,600 คน มีอสังหาริมทรัพย์และสถานประกอบการภายใต้การบริหารจัดการคิดเป็นพื้นที่รวมกว่า 5 ล้านตารางเมตร JLL ได้รับการคัดเลือกให้เป็นผู้ชนะรางวัลระดับห้าดาวในสาขาที่ปรึกษาและตัวแทนซื้อขายให้เช่าอสังหาริมทรัพย์เชิงพาณิชย์ที่ดีที่สุดในประเทศไทย จากการประกาศรางวัล International Property Awards Asia Pacific 2019/2020 นอกจากนี้ ผลการสำรวจความคิดเห็นของคนในแวดวงอสังหาริมทรัพย์โดยยูโรมันนีประจำปี 2561 เจแอลแอลได้รับการโหวตให้เป็นบริษัทที่ปรึกษาอสังหาริมทรัพย์อันดับหนึ่งของประเทศไทยติดต่อกันเป็นปีที่ 8 และยังได้รับคะแนนโหวตสูงสุดในสาขาบริการตัวแทนซื้อขายให้เช่า บริการงานวิจัย และบริการประเมินราคาทรัพย์สิน