SIMAT มั่นใจพื้นฐานแข็งแกร่ง เข้าเทรดพรุ่งนี้ยืนเหนือจองชัวร์

พุธ ๑๒ ธันวาคม ๒๐๐๗ ๑๕:๑๒
กรุงเทพฯ--12 ธ.ค.--ไซแมท เทคโนโลยี
"ทองคำ มานะศิลปพันธ์" มั่นใจพรุ่งนี้หุ้น SIMAT เข้าเทรดจะสามารถยืนเหนือราคาจองได้ แม้ช่วงนี้สภาพการซื้อขายในตลาดหุ้นค่อนข้างผันผวน แต่เพราะปัจจัยพื้นฐานที่แข็งแกร่ง ผลประกอบการมีอัตราการขยายตัวดีต่อเนื่องดังนั้นจึงไม่วิตก สำหรับเงินที่ได้จากการระดมทุนจะนำไปเป็นทุนหมุนเวียนในการดำเนินธุรกิจเพื่อเสริมสภาพคล่อง และใช้เป็นเงินทุนในการเข้าประมูลงานขนาดใหญ่ในส่วนของภาคราชการและรัฐวิสาหกิจ
นายทองคำ มานะศิลปพันธ์ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ไซแมท เทคโนโลยี จำกัด (มหาชน) (SIMAT) มั่นใจว่าเมื่อจะเข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (mai) เป็นวันแรกในวันที่ 12 ธันวาคม 2550 จะสามารถยืนเหนือราคาจองได้อย่างแน่นอน เนื่องจากบริษัทมีปัจจัยพื้นฐานที่แข็งแกร่ง โดยที่ผ่านมาผลประกอบการมีอัตราการเติบโตที่ดีต่อเนื่องและในส่วนของการกำหนดราคาไอพีโอที่ระดับ 3.80 บาท/หุ้น ถือว่าเป็นระดับราคาที่ไม่แพง โดยมีส่วนลด(Discount)ให้นักลงทุนกว่า 30% อีกด้วย
"ถึงแม้ว่าช่วงนี้สภาพการซื้อขายในตลาดหุ้นค่อนข้างจะผันผวน แต่ผมก็ยังเชื่อมั่นในปัจจัยพื้นฐานที่แข็งแกร่ง จากผลการดำเนินงานของ SIMAT ที่มีอัตราการขยายตัวเฉลี่ยจากปี 2547 — ไตรมาส 3 ปี 2551 ประมาณ 45% ต่อปี และภาระหนี้สินแทบไม่มีเลย จะสร้างความเชื่อมั่นให้กับผู้ลงทุนและเป็นปัจจัยผลักดันให้ราคาหุ้น SIMAT ที่จะเข้าซื้อขายวันพรุ่งนี้ สามารถยืนเหนือราคาจองที่ 3.80 บาทได้"
เขากล่าวต่อว่าการระดมทุนในครั้งนี้ SIMAT จะนำเงินที่ได้จากการเสนอขายหลักทรัพย์ภายหลังหักค่าใช้จ่ายประมาณ 66.97 ล้านบาท ไปใช้เพื่อเป็นเงินทุนหมุนเวียนในการดำเนินธุรกิจของบริษัทเพื่อเสริมสภาพคล่อง และเพื่อใช้เป็นเงินทุนในการเข้าประมูลงานขนาดใหญ่ โดยเฉพาะงานภาคราชการและรัฐวิสาหกิจ
ในส่วนของผลประกอบการงวด 9 เดือนปีนี้ SIMAT มีรายได้รวมเท่ากับ 248.97 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 18.49 เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อนหน้า ต้นทุนรวมเท่ากับ 178.56 ล้านบาท โดยคิดเป็นอัตรากำไรขั้นต้นร้อยละ 27.55 อย่างไรก็ตามในงวด 9 เดือนปี 2550 สัดส่วนค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารลดลง ส่งผลให้อัตรากำไรสุทธิปรับตัวดีขึ้นจากร้อยละ 8.75 ในงวด 6 เดือนปี 2550 เป็นร้อยละ9.21 ในงวด 9 เดือนปี 2550 โดยมีกำไรสุทธิรวมเท่ากับ 22.93 ล้านบาท ณ วันที่ 30 กันยายน 2550 บริษัทมีสินทรัพย์รวม 155.04 ล้านบาท หนี้สินรวม 48.23 ล้านบาท และส่วนของผู้ถือหุ้น 106.81 ล้านบาท โดยมีอัตราส่วนหนี้สินต่อส่วนของผู้ถือหุ้นเท่ากับ 0.45 เท่า
ปัจจุบัน SIMAT มีทุนจดทะเบียนจำนวน 75 ล้านบาท แบ่งออกเป็นหุ้นสามัญจำนวน 75 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 1.00 บาท เป็นทุนที่ชำระแล้ว 56.25 ล้านบาท โดยมี Grand-Flo กลุ่มมานะศิลปพันธ์ และนายรณภูมิ สุวิริยะกุลชัย ถือหุ้นร้อยละ 49 ร้อยละ 46 และร้อยละ 5 ของทุนจดทะเบียนชำระแล้วตามลำดับ และได้เสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนต่อประชาชนจำนวน 18.75 ล้านหุ้น คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 25.00 ของทุนชำระแล้ว ภายหลังจากที่เสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนต่อประชาชนแล้ว สัดส่วนการถือหุ้นของ Grand-Flo กลุ่มมานะศิลปพันธ์ และนายรณภูมิ สุวิริยะกุลชัย จะเท่ากับร้อยละ 36.75 ร้อยละ 34.50 และร้อยละ 3.75 ตามลำดับ
นายสมชาย สุทัศน์ธรรมกุล กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์ ฟิลลิป (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงิน และผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่ายหุ้นสามัญเพิ่มทุนของ SIMAT กล่าวเสริมว่าราคาไอพีโอที่กำหนดไว้ 3.80 บาท/หุ้น มีค่าพีอี เรโชว์ ประมาณ 7.92 เท่า คิดเป็นอัตราส่วนลดประมาณ 30% เมื่อเปรียบเทียบกับค่าพีอี เรโชว์ ของตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (mai) นอกจากนี้แนวโน้มธุรกิจเทคโนโลยีสารสนเทศมีการขยายตัวอย่างต่อเนื่อง ในปี 2550 คาดว่าจะขยายตัวในอัตราร้อยละ 13 ตลาดที่มีการขยายตัวมากที่สุดจะเป็นตลาดของซอฟท์แวร์และ SIMAT ถือว่าเป็นผู้ประกอบธุรกิจที่อยู่ในลำดับต้นๆ ของประเทศ ดังนั้นหุ้น SIMAT จึงถือเป็นอีกหลักทรัพย์ที่น่าสนใจมากที่สุดตัวหนึ่ง
บทวิเคราะห์จาก บริษัทหลักทรัพย์ ฟิลลิป(ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) ออกบทวิเคราะห์โดยระบุว่าผลการดำเนินงาน SIMAT โดยคาดว่าปี 2551 จะเห็นผลการดำเนินงานกลับมาเติบโตก้าวกระโดดอีกครั้งหลังการเลือกตั้งแล้วเสร็จ โดยเฉพาะการขยายฐานลูกค้าใหม่จะเห็นความชัดเจนของการขายมากขึ้น เนื่องจากความเชื่อมั่นที่มากขึ้นต่อสถานการณ์โดยรวมของสภาพเศรษฐกิจ อีกทั้งพระราชบัญญัติค้าปลีกแม้ว่าจะไม่มีความชัดเจนของเงื่อนเวลา แต่ทำให้ผู้ประกอบการในกลุ่มนี้เร่งขยายสาขาเพื่อหลีกหนีปัญหาดังกล่าวโดยเฉพาะในกลุ่มคอนวีเนียนสโตร์ซึ่งเป็นปัจจัยสนับสนุนต่อการขยายตัวของยอดขาย โดยทางฝ่ายวิเคราะห์คาดหมายยอดขายปี 2551 ที่ 384 ล้านบาทเพิ่มขึ้น 19% เทียบ YoY แต่คาดว่าสัดส่วนการขายในกลุ่มลูกค้าเดิมซึ่งเน้นการซื้อทั้งระบบซึ่งจะทำให้อัตรากำไรดีขึ้นจากปีที่ผ่านมาคาดว่าจะเพิ่มเป็น 31.2% ขณะที่ค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารเพิ่มขึ้น 25% เทียบ YoY ประมาณการกำไรสุทธิ 42.2 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 35% เทียบ YoY ทั้งนี้ ฝ่ายวิเคราะห์ฯ ประเมินราคาเหมาะสมปี 2551 ที่ 4.50 บาทอิงบน P/E 8 เท่า โดยให้ส่วนลด 20% จาก P/E กลุ่มประมูลงานที่ 10 เท่า
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ : ปภาดา สุวรรณกูฎ (ตุ้ย) 02-554-9396 , 085-133-0184

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๑๗ พ.ค. สุรีย์พร คลินิก เปิดตัวตึกสูงที่สุดแห่งวงการคลินิกสถาบันเสริมความงาม ฉลอง 20 ปีความสำเร็จพร้อมยกระดับชูเทคโนโลยีล้ำสมัย Volformer
๑๗ พ.ค. ปตท.สผ. จัดงานประชุม SSHE Forum 2024 ส่งเสริมวัฒนธรรมความปลอดภัยในการทำงาน
๑๗ พ.ค. บมจ. เอสไอเอส ดิสทริบิวชั่น (ประเทศไทย) แนะนำ ชุดล็อคประตูกลอนแม่เหล็กไฟฟ้า จากแบรนด์ HIP
๑๗ พ.ค. ซัมซุง อัปเกรดประสบการณ์การชมทุกมหรรมกีฬา ด้วยนวัตกรรม AI TV สุดล้ำ ชัดทุกแมตซ์เหมือนเชียร์ติดขอบสนาม
๑๗ พ.ค. ไทยพาณิชย์ปักหมุดผู้นำดิจิทัลแบงก์ นำ AI เสริมแกร่ง 360 องศา เปิด 3 นวัตกรรม AI ครั้งแรก! สร้างปรากฏการณ์ใหม่กลุ่มสินเชื่อรายย่อย และ Digital
๑๗ พ.ค. หัวใจเต้นช้า โรคหัวใจที่มักถูกมองข้าม
๑๗ พ.ค. DDD โชว์งบ Q1/67 กวาดกำไรทะยาน 317% YoY พร้อมลุยขยายตลาดสินค้าไลฟ์สไตล์ อัพผลงานปีนี้โตสวย
๑๗ พ.ค. PCC เปิดงบ Q1/67 รายได้โต 14.25% ยอดขายสินค้าหม้อแปลงไฟฟ้า - อุปกรณ์ระบบโครงข่ายไฟฟ้าอัจฉริยะ เพิ่มขึ้น มั่นใจรายได้ปีนี้โต 10%
๑๗ พ.ค. บางจากฯ สานต่อพันธกิจสนับสนุนด้านกีฬาอย่างเป็นมิตรต่อโลก ร่วมจัดกิจกรรมเดิน-วิ่ง Olympic Day 2024 Together, For A Better
๑๗ พ.ค. บัตรเครดิต ttb ช้อปคุ้ม อิ่มครบ ได้มากกว่า รับ Magic Gift Voucher รวมมูลค่าสูงสุด 1,500 บาท ที่ศูนย์การค้าเซ็นทรัลทั้ง 5