หัวใจเต้นช้า โรคหัวใจที่มักถูกมองข้าม

ศุกร์ ๑๗ พฤษภาคม ๒๕๖๗ ๑๓:๔๘
 โรคหัวใจเต้นผิดจังหวะ ไม่ได้มีแค่ชนิดเต้นเร็วเท่านั้น แต่ยังมีโรคหัวใจเต้นผิดจังหวะชนิดเต้นช้าที่หลายคนมักมองข้าม ทั้งที่จริงแล้วเป็นภาวะที่อาจก่อให้เกิดอันตรายได้เช่นกัน ทั้งนี้ หากผู้ป่วยได้รับการรักษาอย่างถูกต้องก็จะสามารถรักษาให้หายได้
หัวใจเต้นช้า โรคหัวใจที่มักถูกมองข้าม

ผู้ช่วยศาสตราจารย์นายแพทย์ศราวุธ ลิ้มประเสริฐ อายุแพทย์โรคหัวใจและหลอดเลือดเฉพาะทางด้านสรีระไฟฟ้าหัวใจ โรงพยาบาลเวชธานี อธิบายว่า หัวใจเต้นช้า (Bradycardia) เป็นภาวะที่หัวใจเต้นในอัตราช้ากว่าปกติ โดยมักจะน้อยกว่า 60 ครั้งต่อนาที เมื่อหัวใจเต้นช้าเกินไป ย่อมส่งผลให้เลือดที่ส่งออกจากหัวใจมีปริมาณลดลง จนทำให้การส่งออกซิเจนไปเลี้ยงส่วนต่าง ๆ ของร่างกายไม่เพียงพอ โดยเฉพาะอวัยวะสำคัญอย่างสมองและหัวใจ โดยทั่วไปมักจะไม่ก่อให้เกิดอาการผิดปกติใด ๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในผู้ที่มีสุขภาพแข็งแรง แต่หากเกิดในผู้ป่วยหรือผู้สูงอายุมักก่อให้เกิดอาการผิดปกติ

โดยอาการผิดปกติที่พบได้ในผู้ป่วยที่มีหัวใจเต้นช้า ประกอบไปด้วย

  • เหนื่อยง่าย
  • เจ็บหน้าอก
  • เพลีย
  • ใจสั่น
  • วิงเวียนศีรษะ
  • เป็นลมหมดสติ
  • สับสน หลงลืมง่าย เสียสมาธิง่าย

ภาวะหัวใจเต้นช้ามักพบในผู้มีอายุมากกว่า 65 ปี แต่อาจจะพบได้ในผู้ป่วยอายุน้อยหากมีโรคร่วมหรือโรคทางพันธุกรรมบางอย่าง นอกจากนี้ยังมีสาเหตุที่พบได้บ่อย ได้แก่ ความสมดุลเกลือแร่ในร่างกายผิดปกติ, การติดเชื้อโรคหรือการอักเสบบางอย่าง, โรคหลอดเลือดหัวใจรีบ, โรคหัวใจรูมาติก, การเสื่อมของกลุ่มเซลล์กระตุ้นการเต้นของหัวใจ (sick sinus syndrome), การนำกระแสไฟฟ้าหัวใจผิดปกติ, และภาวะแทรกซ้อนจากยา การผ่าตัด หรือการฉายรังสี

อย่างไรก็ตาม มีความจำเป็นอย่างยิ่งที่ต้องตรวจหาสาเหตุให้แน่ชัด เนื่องจากหากทราบว่าภาวะหัวใจเต้นช้าเกิดจากสาเหตุที่สามารถรักษาให้หายขาดได้ ย่อมทำให้ภาวะหัวใจเต้นช้าหายไปได้เช่นกัน โดยแนวทางการตรวจวินิจฉัยโรคหัวใจเต้นช้า แพทย์จะทำการซักประวัติ ตรวจร่างกาย ตรวจคลื่นไฟฟ้าหัวใจ (EKG) และตรวจเลือดต่าง ๆ เพื่อหาสาเหตุในการเกิดหัวใจเต้นช้า อีกทั้งยังอาจมีการตรวจพิเศษอื่น ๆ ทางระบบหัวใจ ซึ่งขึ้นกับภาวะของผู้ป่วยด้วย

หากตรวจวินิจฉัยแล้วพบว่าภาวะหัวใจเต้นช้าเกิดจากโรคหรือภาวะที่สามารถรักษาให้หายขาดได้ ผู้ป่วยจะได้รับการรักษาโรคหรือภาวะดังกล่าว ซึ่งจะทำให้หัวใจกลับมาเต้นในอัตราปกติได้ แต่หากภาวะหัวใจเต้นช้าเกิดจากโรคหรือภาวะที่ไม่สามารถรักษาได้ หรือไม่สามารถรักษาให้หายขาด จะมีความจำเป็นต้องรักษาด้วยการฝังเครื่องกระตุ้นหัวใจ (Pacemaker Implantation) โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อลดอาการของผู้ป่วยหรือลดโอกาสเกิดหัวใจเต้นผิดจังหวะรุนแรงต่อไป

การรักษาด้วยการฝังเครื่องกระตุ้นไฟฟ้าหัวใจ เป็นหัตถการเพื่อฝังอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์เข้าไปในผนังหน้าอกใต้ผิวหนังของผู้ป่วย เพื่อกระตุ้นจังหวะการเต้นของหัวใจ โดยส่งสัญญาณไฟฟ้าไปยังหัวใจห้องที่ทำงานผิดปกติ สัญญาณไฟฟ้าจะช่วยให้หัวใจเต้นเร็วพอที่จะสูบฉีดเลือดไปเลี้ยงร่างกายและอวัยวะส่วนอื่น ๆ ได้มากเพียงพอ

การเตรียมตัวก่อนใส่เครื่องกระตุ้นไฟฟ้าหัวใจ

ก่อนทำหัตถการใส่เครื่องกระตุ้นไฟฟ้าหัวใจ ผู้ป่วยจะต้องงดยาตามที่แพทย์แนะนำ, งดน้ำและอาหารก่อนเข้ารับการรักษา 8 ชั่วโมง, ผู้ป่วยจะได้รับการโกนขนบริเวณหน้าอกข้างที่จะใส่เครื่องกระตุ้นหัวใจ โดยส่วนมากแพทย์จะนิยมใส่เครื่องกระตุ้นใจในแขนข้างที่ผู้ป่วยไม่ถนัด

การปฏิบัติตัวหลังใส่เครื่องกระตุ้นไฟฟ้าหัวใจ

เมื่อใส่เครื่องกระตุ้นไฟฟ้าหัวใจเข้าไปในร่างกายแล้ว ผู้ป่วยต้องพักฟื้นในโรงพยาบาลปะมาณ 1 - 2 วัน และในช่วง 7 วันแรกไม่ควรยกแขนด้านที่ใส่เครื่องกระตุ้นไฟฟ้าหัวใจขึ้นสูงเหนือไหล่, หลีกเลี่ยงกิจกรรมที่ใช้แรงมาก, หลีกเลี่ยงการถู กด หรือเกาบริเวณแผล, หลีกเลี่ยงการนวดหน้าอก,ห้ามยกของหนักเป็นเวลาอย่างน้อย 1 เดือน, ในระหว่างพักฟื้นหากมีอาการผิดปกติ เช่น ใจสั่น หน้ามืดเป็นลม เหนื่อยหอบผิดปกติ สะอึกตลอดเวลา ควรรีบพบแพทย์เพื่อหาสาเหตุและตรวจสอบการทำงานของเครื่องและควรมาพบแพทย์ตามนัด เพราะจะได้รับการตรวจเช็คเครื่องอย่างสม่ำเสมอ

ทั้งนี้ ความเสี่ยงและภาวะแทรกซ้อนที่อาจพบได้ ได้แก่ ลมรั่วในเยื่อหุ้มปอดจากปลายเข็มที่ใช้เป็นตัวนำทางสายไฟโดนยอดปอด ซึ่งพบได้น้อย, ในระยะสั้น แผลบริเวณใส่เครื่องอาจมีอาการบวมช้ำ โดยเฉพาะผู้ป่วยที่ได้รับยาต้านเกล็ดเลือด หรือยาป้องกันเลือดแข็งตัวร่วมด้วย, สายกระตุ้นไฟฟ้าหัวใจเลื่อน หรือหลุดออกจากตำแหน่ง สามารถพบได้น้อยเนื่องจากมีการตรวจสอบหลายขั้นตอนก่อนเชื่อมต่อสายเข้ากับเครื่องกระตุ้นไฟฟ้าหัวใจ, การติดเชื้อของเครื่องกระตุ้นไฟฟ้าหัวใจและสายไฟ มักมีปัจจัยเสี่ยงทางโรคประจำตัวบางอย่างที่เพิ่มความเสี่ยงนี้ ซึ่งสามารถป้องกันได้โดยการใช้ยาปฏิชีวะนะก่อนและหลังทำหัตถการ, ขณะที่ความเสี่ยงในระยะยาวต้องอาศัยการสังเกตร่วมกันระหว่างผู้ป่วยและแพทย์ เพื่อความรวดเร็วในการตรวจพบและแก้ไขปัญหาหากมีภาวะแทรกซ้อนเกิดขึ้น

ผู้ช่วยศาสตราจารย์นายแพทย์ศราวุธ ลิ้มประเสริฐ

อายุแพทย์โรคหัวใจและหลอดเลือดเฉพาะทางด้านสรีระไฟฟ้าหัวใจ

โรงพยาบาลเวชธานี

ที่มา: ChomPR

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๑๗:๐๐ วว. ผนึกกำลัง มรภ.เพชรบุรี พัฒนา วทน. ด้านเทคโนโลยีเพิ่มมูลค่าพืชผลเกษตร-สร้างระบบนิเวศงานวิจัย
๑๗:๒๙ กทม. แจงจ้างเหมาเอกชนซ่อมบำรุงเครื่องสูบน้ำที่สถานีสูบน้ำคลองช่องนนทรี หลังสิ้นสุดระยะเวลาค้ำประกัน
๑๗:๔๖ ออปโป้ชวนด้อมไทยส่งข้อความสู่ Boost Your Dreams Box เตรียมต้อนรับ 3 หนุ่ม BSS สู่งาน Boost Your Dreams Together 2
๑๗:๔๒ นนท์ ธนนท์ - อิ้งค์ วรันธร นำทัพศิลปินขี้เหงา มาฮีลใจ ชวนคนเหงาปล่อยจอย ใน LONELY LOUD FEST เปิดจองบัตร Early Bird 30 ก.ค.
๑๗:๕๙ มะเร็งรังไข่ ภัยเงียบที่ผู้หญิงควรระวัง
๑๗:๒๘ โก โฮลเซลล์ ปักหมุดภาคใต้สาขาแรก ราไวย์ จ.ภูเก็ต แล้ว! ลุยอาณาจักรค้าส่งวัตถุดิบอาหาร สร้างฟู้ด พาราไดซ์
๑๗:๓๗ How to เริ่มต้นวางแผนซื้อบ้าน/คอนโดฯ อย่างไรให้มั่นใจยุคดอกเบี้ยสูง
๑๗:๒๐ โรบินสันไลฟ์สไตล์ ในเครือเซ็นทรัล รีเทล ฉลองเทศกาลวันแม่ ส่งแคมเปญ ชวน ฮักแม่ ด้วยภาษารัก
๑๗:๔๔ เลือกฟิล์มติดกระจกออฟฟิศยังไงให้คุ้มค่าในระยะยาว ?
๑๗:๒๒ 5 เคล็ดลับเลือก Clinic เสริมความงาม ที่ปลอดภัย ได้มาตรฐาน