บอดี้เชพ เรฟโวลูชั่น ปฏิบัติการลับ 3...4...5 ชิงเจ้าตลาดลดไขมันเต็มรูปแบบ

กรุงเทพฯ--20 เม.ย.--ซิง รีพับลิค(กรุงเทพ)
บอดี้เชพ เปิดตัวกลยุทธ์รุกตลาด ปี 2548 ด้วยสุดยอดกิจกรรม "บอดี้เชพ เรฟโวลูชั่น ปฏิบัติการลับ 3...4...5" หวังเอาใจสาวเจ้าเนื้อทั่วไทยช่วงชิงความเป็นเบอร์หนึ่งตลาดลดไขมันและดูแลสัดส่วน คาดยอดโต 60%
น.พ.สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี ประธานที่ปรึกษา บริษัท บอดี้เชพ คอร์ปอเรชั่น กรุ๊ป จำกัด เปิดเผยว่า "นับตั้งแต่เดือนพฤษภาคมปี 2536 ที่บอดี้เชพสาขาแรกได้ถือกำเนิดขึ้น จวบจนถึงปัจจุบันก็นับเป็นระยะเวลาเกือบ 12 ปีแล้ว ความสำเร็จของบอดี้เชฟนับแต่อดีตที่ผ่านมานั้น เกิดจากการที่บอดี้เชฟให้ความสำคัญในเรื่องของคุณภาพและการให้บริการแก่ลูกค้า มีการนำเอาเทคโนโลยีและนวัตกรรมอันทันสมัยมาใช้ในการให้บริการแก่กลุ่มลูกค้าเป้าหมายอย่างต่อเนื่อง ตลอดจนการให้บริการจากพนักงานของทางบอดี้เชพทุกคนที่ผ่านการฝึกฝนอบรมและพัฒนาให้เป็นผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านเพื่อให้คำแนะนำและเป็นที่ปรึกษาในการลดน้ำหนักของลูกค้าทุกคน สิ่งเหล่านี้ล้วนเป็นภาพสะท้อนให้เห็นถึงความใส่ใจในเรื่องของสุขภาพและความปลอดภัย ที่บอดี้เชฟมีให้กับลูกค้าเสมอมาจนสามารถเข้าไปนั่งอยู่ในใจของผู้บริโภคที่มาเข้ารับบริการจากเรา"
"ภาพรวมของภาวะการแข่งขันของธุรกิจสถาบันลดไขมันและดูแลสัดส่วนในรอบ 2 ปีที่ผ่านมา มีการแข่งขันที่รุนแรงและดุเดือดมากยิ่งขึ้น สาเหตุเนื่องมาจากพฤติกรรมของผู้บริโภคที่ใส่ใจในเรื่องของสุขภาพและความสวยงามมากขึ้นอย่างต่อเนื่องทุกปี โดยเฉพาะหญิงไทยสมัยนี้ส่วนใหญ่ให้ความสำคัญกับเรื่องการควบคุมน้ำหนักและการดูแลสัดส่วนเป็นอย่างมาก โดยในปี 2547 ตลาดรวมเติบโตประมาณ 15% มีมูลค่าตลาดรวม 1,100 ล้านบาท ส่วนแบ่งการตลาด Marie France 39% Body Shape 25% Philop Wain 13.5% อื่น ๆ 22.5% สำหรับปี 2548 นี้ ผู้ประกอบการทั้งรายเก่าและรายใหม่ต่างมุ่งหวังที่จะแย่งชิงส่วนแบ่งตลาดให้ได้มากที่สุด บอดี้เชฟซึ่งมีอัตราการเจริญเติบโตประมาณ 30% ในปีที่ผ่านมา ซึ่งสูงกว่าการเติบโตของตลาดรวมที่ 15% จึงกำหนดยุทธศาสตร์และแผนปฏิบัติการเพื่อเบียดขึ้นเป็นผู้นำตลาดให้ได้ภายในสิ้นปีนี้" น.พ.สุรพงษ์ กล่าว
นอกจากนี้คุณปราณี สืบวงศ์ลี ประธานบริหาร บริษัท บอดี้เชพ คอร์ปอเรชั่น กรุ๊ป จำกัด ยังกล่าวเสริมในส่วนของแผนการรุกตลาดว่า "ในปีนี้ผู้บริโภคมีความรู้ความเข้าใจตลอดจนใส่ใจในเรื่องของสุขภาพกันมากขึ้น คำนึงถึงความสวยงาม ขณะเดียวกันธุรกิจนี้ยังคงมีผู้ประกอบการหน้าใหม่ที่ทยอยเข้าสู่ตลาดอย่างต่อเนื่อง ดังนั้นการวางแผนกลยุทธ์ทางการตลาดจึงมีความสำคัญเป็นอย่างยิ่ง โดยบอดี้เชฟเองได้มีการกำหนดทิศทางกลยุทธ์ทางการตลาดที่เน้นการเข้าถึงผู้บริโภคเป้าหมายโดยตรงมากขึ้น ดังจะเห็นได้แคมเปญ "สงครามพิชิตความอ้วน" ที่เราจัดขึ้นเมื่อต้นปีที่ผ่านมาและกำลังจะมีการประกาศผลผู้ชนะในเดือนพฤษภาคมนี้ โดยที่แคมเปญนี้ได้รับความสนใจจากกลุ่มลูกค้าเป้าหมายเป็นอย่างมากด้วยเหตุนี้เองเราจึงไม่รอช้าที่จะเปิดตัวยุทธศาสตร์ใหม่ของบอดี้เชพที่ชื่อว่า"บอดี้เชพ เรฟโวลูชั่น (Body Shape Revolution) ปฏิบัติการลับ 3...4...5"
ปฏิบัติการลับ 3 4 5 คือ 3 เป้าหมาย 4 ยุทธศาสตร์ 5 แบรนด์ ซึ่งมีรายละเอียดดังนี้
3 เป้าหมาย คือ
1. เป็นผู้นำด้านนวัตกรรมแห่งการลดสัดส่วน
2. เป็นผู้นำอันดับ 1 ส่วนแบ่งการตลาดสูงสุด
3. ขยายธุรกิจออกสู่ต่างประเทศ
4 เป้าหมาย คือ
1. ยุทธศาสตร์เจาะกลุ่มเป้าหมายทั้งตลาด ตั้งแต่ระดับ A+ ถึง C
2. ยุทธศาสตร์สร้างมูลค่าเพิ่มจากแบรนด์ ด้วยการออกแบบผลิตภัณฑ์ใหม่เข้าสู่ช่องทาง
จัดจำหน่ายทั่วไป
3. ยุทธศาสตร์สร้างองค์กรแห่งการเรียนรู้ จัดประชุมสัมมนา และจัดตั้งศูนย์ฝึกอบรมผู้เชี่ยวชาญ
4. ยุทธศาสตร์พันธมิตร ขยายพันธมิตรในรูปแบบต่างๆ เช่น แฟรนไชส์, เครือข่าย และพันธมิตร
ต่างประเทศ
5 แบรนด์ คือ
1. ปราณลี สำหรับกลุ่มเป้าหมาย A+ มีสาขาแรกที่อาคารชินวัตร 3 และสาขาที่ 2 ที่สยามพารากอนซึ่งจะเปิดทำการในเดือน พฤศจิกายนนี้
2. บอดี้เชพ สำหรับกลุ่มเป้าหมาย A- ถึง B+ มี 19 สาขาทั่วประเทศ
3. คริสตี้ ฟรองซ์ สำหรับกลุ่มเป้าหมาย B ถึง C+ เปิดแล้ว 7 สาขา เป็นของ บริษัทเอง 2 สาขาแฟรนไชชี่ 5 สาขา กำหนดขยายให้ครบ 20 สาขา ภายในสิ้นปีนี้
ส่วนอีก 2 แบรนด์ที่เหลือ กำหนดเปิดตัวแบรนด์ใหม่ สำหรับกลุ่มเป้าหมายระดับ A+ ภายในเดือนพฤษภาคมนี้ และแบรนด์ สำหรับกลุ่มเป้าหมายระดับ C ในเดือนกรกฎาคม 2548
ภายหลังการเปิดตัวกลยุทธ์นี้คาดว่า บอดี้เชพ จะมียอดรายได้เพิ่มขึ้นประมาณ 100 ล้านบาท นอกจากนี้เรายังคงเร่งพัฒนาสินค้าและบริการให้สามารถตอบสนองความต้องการของลูกค้าให้มากที่สุด ซึ่งเรามีความมั่นใจเป็นอย่างยิ่งว่านับจากนี้จนถึงสิ้นปีบอดี้เชพจะสามารถช่วงชิงส่วนแบ่งทางการตลาด ก้าวสู่ความเป็นผู้นำอันดับ 1 ได้อย่างแน่นอน"
ในส่วนของการใช้งบประมาณด้านการโฆษณาและประชาสัมพันธ์ตลอดจนกิจกรรมส่งเสริมการตลาดของบอดี้เชพในปี 48 อยู่ที่ 60 ล้านบาท และคาดว่ายอดรวมรายได้ทั้งปีจะอยู่ที่ 450 ล้านบาท หรือคิดเป็นอัตราเพิ่มขึ้นจากปีที่แล้ว 60%
นอกจากนี้คุณปราณียังได้กล่าวทิ้งท้ายไว้ว่า "ยังมีสิ่งที่บอดี้เชพให้ความสำคัญมากกว่าเป้าหมายทางการตลาดก็คือการสร้างความพึงพอใจสูงสุดให้เกิดขึ้นกับลูกค้า หรือการที่เราสามารถเข้าไปนั่งอยู่ในใจผู้บริโภคได้นั่นเอง เนื่องจากเรามองว่าสิ่งนี้ต่างหากที่เป็นกุญแจสำคัญ อันจะนำพาธุรกิจให้ก้าวไปสู่ความสำเร็จที่ยั่งยืน และยาวนานได้"
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมติดต่อ
ฝ่ายประชาสัมพันธ์ บริษัท ซิง รีพับลิค (กรุงเทพ) จำกัด
ปิยภรณ์ ทิพย์สุนทรศักดิ์ 02-511-5239-42 ต่อ 102--จบ--