ก.ไอซีที เพิ่มขีดสมรรถนะข้าราชการ เพื่อสร้างผลงานให้กระทรวงฯ

จันทร์ ๓๐ มีนาคม ๒๐๐๙ ๑๗:๑๒
ร้อยตรีหญิงระนองรักษ์ สุวรรณฉวี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร กล่าวในงานฝึกอบรม “การพัฒนาขีดสมรรถนะและความรู้ในการบริหารงานราชการ ณ โรงแรมลองบีช การ์เด้นฯ จ.ชลบุรี ว่า กระทรวงฯ ต้องเร่งพัฒนาระบบการทำงานของข้าราชการและเจ้าหน้าที่ในกระทรวงไอซีที ด้วยการจัดฝึกอบรม การพัฒนาขีดสมรรถนะและความรู้ในการบริหารราชการ ทั้งนี้ เพื่อพัฒนาศักยภาพของข้าราชการและเจ้าหน้าที่ในสังกัดกระทรวงทุกคน ให้มีความก้าวหน้าและสามารถปฏิบัติงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ซึ่งการฝึกอบรมครั้งนี้เป็นการพัฒนาความรู้ทางด้านระเบียบการเงินและพัสดุ

นอกจากนี้รัฐมนตรีว่าการฯ ยังได้มอบนโยบายการปฏิบัติงานให้กับหน่วยงานต่างๆ ในสังกัดสำนักงานปลัดกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร โดยให้ทุกสำนักจัดทำแผนงานในลักษณะองค์รวมและมีการสอดรับกัน เพื่อให้สามารถสร้างประโยชน์ในการพัฒนาด้านไอซีทีของประเทศอย่างเต็มที่ และสามารถนำเสนอผลงานในการชี้แจงของบประมาณได้ โดยไม่ถูกลดงบประมาณ พร้อมกันนี้ยังได้มอบหมายให้กระทรวงฯ มีการทำประชาสัมพันธ์เสริมสร้างภาพลักษณ์ให้องค์กรเป็นที่น่าเชื่อถือมากขึ้น ตลอดจนเผยแพร่ศักยภาพผลงานของกระทรวงฯ และองค์ความรู้ที่เป็นประโยชน์ต่อประชาชน สังคม และประเทศชาติ

สำหรับโครงการสำคัญที่กระทรวงไอซีทีกำลังดำเนินงานอยู่นั้นมีทั้ง การจัดตั้งองค์กรอวกาศแห่งชาติ การส่งดาวเทียม SMMS ร่วมกับประเทศจีน เพื่อสำรวจทรัพยากรธรรมชาติและเฝ้าระวังภัยพิบัติทางธรรมชาติในประเทศไทย การจัดตั้งพิพิธภัณฑ์ที่จัดแสดงความรู้ด้านอุตุนิยมวิทยาของกรมอุตุนิยมวิทยา การผลักดันแผนแม่บทเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร ฉบับที่ 2 ให้คณะรัฐมนตรีพิจารณา การผลักดันการจัดตั้งหน่วยงานระดับกรม และการดำเนินการจัดการกับเว็บไซต์ที่ไม่เหมาะสมโดยศูนย์ปฏิบัติการ ISOC ซึ่งได้รับความร่วมมือจากกระทรวงยุติธรรม กระทรวงมหาดไทย และกระทรวงกลาโหม ส่งเจ้าหน้าที่มาร่วมปฏิบัติการเฝ้าระวังเว็บไซต์ที่ไม่เหมาะสมผ่านทางเครือข่ายอินเทอร์เน็ตตลอด 24 ชั่วโมง

ด้านนายสือ ล้ออุทัย ปลัดกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร กล่าวเพิ่มเติมเกี่ยวกับการดำเนินงานของกระทรวงฯ ว่า ปัจจุบันกระทรวงฯ ได้เร่งแก้ปัญหาและการจัดการกับเว็บไซต์ที่ไม่เหมาะสมอย่างจริงจังและต่อเนื่อง ผ่านการปฏิบัติงานของศูนย์ปฏิบัติการ ISOC โดยสามารถปิดเว็บเพจที่ไม่เหมาะสมไปแล้วกว่า 7,000 URL นอกจากนี้กระทรวงฯ ยังได้เร่งผลักดันโครงการจัดตั้งศูนย์การเรียนรู้ ICT ชุมชน โดยในปี 2552 นี้จะจัดตั้งเพิ่มเติมอีก 100 ศูนย์ และวางแผนที่จะจัดตั้งเพิ่มเติมในปี 2553 อีก 150 ศูนย์ ซึ่งจะทำให้มีศูนย์การเรียนรู้ ICT ชุมชนกระจายอยู่ทั่วประเทศรวมทั้งสิ้น 410 ศูนย์ หรือเกือบร้อยละ 50 ที่กระทรวงฯ ได้ตั้งเป้าหมายไว้

“โครงการศูนย์การเรียนรู้ ICT ชุมชนนี้ นับเป็นโครงการที่สามารถสร้างประโยชน์ให้กับประชาชนทั่วประเทศ โดยเฉพาะในท้องถิ่น เพราะทำให้ประชาชนทุกกลุ่มทั้งนักเรียน แม่บ้าน เกษตรกรได้มีโอกาสเข้าถึงและได้ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารมากขึ้น รวมถึงยังสามารถต่อยอดไปสู่โครงการอื่นๆ เช่น โครงการคอมพิวเตอร์ราคาถูก ที่จัดทำขึ้นเพื่อมารองรับกับการขยายโอกาสการเรียนรู้สำหรับผู้ที่เคยใช้บริการจากศูนย์ฯ และมีความสามารถที่จะซื้อคอมพิวเตอร์ราคาถูกไปใช้ศึกษาเพิ่มเติม โครงการฯ นี้จึงถือเป็นการติดอาวุธทางปัญญาให้กับประชาชน และทำให้กระทรวงไอซีทีเป็นที่รู้จักมากยิ่งขึ้น” นายสือ กล่าว

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม โทร. 02-5682453 ธาริน แจ้งสว่าง

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๑๗:๒๖ ม.ศรีปทุม เตรียมรับนักศึกษาจีน! คณบดีคณะวิศวกรรมศาสตร์ SPU ต้อนรับและหารือ สถาบันการศึกษาจีน แผนรับนศ.จีนเข้าเรียน
๑๗:๑๖ UAC รุกพัฒนาโรงไฟฟ้าภูผาม่าน - โรงงานผลิต RDF3 ปั้นรายได้ปีนี้โตมากกว่า 15% - EBITDA แกร่งแตะ 20%
๑๗:๓๐ เอ็กโซติค ฟู้ด (XO) เบอร์ 1 ซอสพริกส่งออกของไทย เฉิดฉายในงาน THAIFEX - ANUGA ASIA 2024
๑๗:๒๐ LVMH ขยายความร่วมมือกับ Alibaba สร้างนิยามใหม่ให้กับประสบการณ์ค้าปลีกผลิตภัณฑ์หรูในจีน
๑๗:๐๐ ศรีวิชัยเวชวิวัฒน์ (VIH) เปิดจองซื้อหุ้นเพิ่มทุน 4-10 มิ.ย.นี้ ต่อยอดขยายอาณาจักรโรงพยาบาล คาดผู้ถือหุ้นเดิมใช้สิทธิเต็มจำนวน
๑๗:๕๒ กทม. ตั้งเต็นท์ศาลาที่พักผู้โดยสารชั่วคราวหน้า รร. คลองทวีวัฒนา ก่อนของบสร้างถาวรเพิ่มเติม
๑๗:๒๒ กทม. เร่งตรวจสอบแก้ไขฝาบ่อตะแกรงเหล็กท่อร้อยสายทางเท้าถนนเยาวราช
๑๗:๒๕ Q2 รับสร้างบ้านภาคอีสาน-ใต้ทรงกับทรุดพีดีเฮ้าส์ ชูโนว์ฮาว-ประสบการณ์มืออาชีพแก้เกมส์แข่งเดือด
๑๗:๑๙ อีริคสันครองอันดับหนึ่งผู้นำตลาดโครงสร้างพื้นฐานเครือข่าย 5G ในรายงาน Frost Radar(TM) เป็นปีที่สี่ติดต่อกัน
๑๗:๕๔ IB Club ร่วมกับ FynnCorp ผสานต่อโครงการ Capital Market Case Competition 2024 เคสการแข่งขันตลาดทุนที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย ชิงเงินรางวัลมูลค่ารวมกันกว่า 270,000