นายบุญช่วย เจียดำรงค์ชัย ผู้ช่วยผู้จัดการธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) เปิดเผยว่า เพื่อแก้ปัญหาราคาผลไม้ตกต่ำให้แก่เกษตรกรชาวสวนผลไม้ทั่วประเทศ ธ.ก.ส. จึงได้ออกมาตรการเร่งด่วนเพื่อระบายผลไม้ออกจากแหล่งผลิตสู่ผู้บริโภคทั้งภายในและภายนอกประเทศ รวม 9 มาตรการด้วยกัน โดยมาตรการระบายผลผลิตสู่ผู้บริโภคภายในประเทศมี 7 มาตรการ ประกอบด้วย
1.เชื่อมโยงตลาดทั่วประเทศผ่านสหกรณ์การเกษตรเพื่อการตลาดลูกค้า ธ.ก.ส. (สกต.) เพื่อเป็นช่องทางระบายผลไม้ไปสู่ภูมิภาค 2.ร่วมกับห้างสรรพสินค้า เช่น THE MALL TOP SUPPER MARKET และ LOTUS เพื่อนำผลไม้มาจำหน่ายตามสาขาต่างๆ ทั่วประเทศ 3. ประสานกับส่วนราชการ รัฐวิสาหกิจ และเอกชน เพื่อขอความร่วมมือในการนำเกษตรกรมาขายผลไม้ในหน่วยงานต่างๆ 4. ประสานงานผู้ค้าต้นทางกับผู้ค้าตลาดปลายทาง เพื่อนำผลไม้ไปส่งตามตลาดกลางของจังหวัดต่างๆ 5.ร่วมกับสมาคมผู้ค้าผลไม้รวบรวมผลผลิตเพื่อจำหน่ายผู้ค้าส่งทั่วประเทศ 6.จำหน่ายผลไม้ผ่านชายแดนประเทศเพื่อนบ้าน เช่น ลาว กัมพูชา มาเลเซีย และ 7. นำผลไม้มาจำหน่ายผ่าน “ตลาดนัด ธ.ก.ส.” ซึ่งจัดที่บริเวณสำนักงานใหญ่และสาขาของ ธ.ก.ส. ทั่วประเทศ
ส่วนมาตรการระบายผลผลิตสู่ผู้บริโภคภายนอกประเทศมี 2 มาตรการ ได้แก่ มาตรการแรก ธ.ก.ส. จะร่วมกับเอกชน เช่น บริษัท ไทยฮงผลไม้ จำกัด รวบรวมผลไม้ ส่งออกไปยังประเทศ จีน เวียดนาม และฮ่องกง ซึ่งเป็นตลาดผลไม้รายใหม่ของประเทศไทย และมาตรการที่ 2. ธ.ก.ส. จะร่วมกับส่วนราชการนำผลไม้คัดคุณภาพของเกษตรกรลูกค้า ธ.ก.ส.ไปจัดแสดงและเจรจาในด้านธุรกิจการส่งออกกับกลุ่มประเทศเป้าหมายต่างๆ เช่น จีนและอินเดีย เป็นต้น
“สำหรับในช่วงนี้ ธ.ก.ส. จะนำเกษตรกรจาก จ.พังงา ชุมพร สุราษฎร์ธานี ลำพูน และเชียงใหม่ นำผลไม้สด คุณภาพดี ราคาถูก ทั้งเงาะ ลองกอง มังคุด จำปาดะ ลูกเนียง ทุเรียน สะตอ และลำไย มาจำหน่ายที่ลานคนเมือง ศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร ระหว่างวันที่ 27-31 กรกฎาคมนี้ เพื่อช่วยระบายผลไม้ที่ออกมาเป็นจำนวนมากในจังหวัดดังกล่าว โดยในช่วงปลายเดือนกรกฎาคมจนถึงเดือนสิงหาคมนี้คาดว่าจะมีผลผลิตทุเรียนจากภาคใต้ออกสู่ตลาดประมาณ 9,600 ตัน มังคุด 58,000 ตัน เงาะ 48,000 ตัน ลองกอง 40,000 ตัน และลำไยในภาคเหนือไม่ต่ำกว่า 457,000 ตัน” นายบุญช่วยกล่าว