พม. จัดสัมมนาเชิงปฏิบัติการองค์กรเครือข่ายและอาสาสมัครไทยในสภาวะวิกฤตเศรษฐกิจสังคมไทย

นางนวลพรรณ ล่ำซำ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ กล่าวว่า กระทรวงการพัฒนาสังคมฯ มีนโยบายในการสร้างเครือข่ายเพื่อเป็นกลไกสำคัญในการสำรวจ เฝ้าระวัง และรายงานสถานการณ์ทางสังคม ตลอดจนข้อมูลบุคคล ชุมชนที่ประสบปัญหาความเดือดร้อน และดำเนินการป้องกันแก้ไข โดยภาครัฐต้องมีบทบาทในการส่งเสริมประชาชนทุกระดับ ทุกสาขาอาชีพให้เข้ามามีส่วนร่วมในการเป็นอาสาสมัคร ตลอดจนเพิ่มพื้นที่เครือข่ายอาสาสมัครอย่างทั่วถึง และทำงานอย่างมีมาตรฐาน โดยมุ่งเน้นการพัฒนาศักยภาพบุคคล กลุ่มคน ชุมชน และให้คำปรึกษาแนะนำ ช่วยเหลือ แก้ไขปัญหาทางสังคม เป็นต้น ทั้งนี้ เพื่อให้คนในชุมชนสามารถพึ่งพากันเองได้ และสามารถช่วยเหลือสังคมได้ ในยามที่เกิดความเดือดร้อนในสภาวะวิกฤตเศรษฐกิจ

นางนวลพรรณ กล่าวต่อว่า การพัฒนา องค์กรเครือข่าย และ อาสาสมัคร ให้เข้มแข็ง ทุกภาคส่วนของสังคม ต้องใส่ใจต่อปัญหาในพื้นที่ของตนเอง และหันหน้าเข้าหากัน ร่วมมือกันแก้ไขปัญหาต่างๆ ผลงานวิจัยหลายชิ้นงาน พบว่า พลังอาสาสมัครเป็นพลังที่ทำให้เกิดความร่วมมืออย่างยั่งยืน ทั้งนี้ คนไทยจะต้องมีการพัฒนาอุดมการณ์ 2 ประเภท คือ อุดมการณ์ของผู้ที่จะเป็นอาสาสมัคร และอุดมการณ์ทางสังคม ที่ผ่านมามีการผลักดัน ส่งเสริม เรื่อง การให้และอาสาสมัครเพื่อสังคมกันอย่างแพร่หลาย ทั้งในรูปของ “จิตอาสา” หรือ “ซีเอสอาร์” หรือ ความรับผิดชอบต่อสังคมของภาคธุรกิจ เพื่อให้เกิด “จิตสาธารณะ” ซึ่ง “จิตสาธารณะ” จะเกิดขึ้นได้ ทุกคนจะต้องยึดมั่นในหลักศาสนา มุ่งพัฒนาค่านิยมการเสียสละ ความมั่นคงทางจิตใจ และความสามารถในการรักษาสมดุล โดยเกิดจากการหล่อหลอมหรือมีพื้นฐานมาจากครอบครัว ด้วยการสอน การทำให้เห็นเป็นตัวอย่าง เป็นต้น สิ่งเหล่านี้ล้วนมีผลต่อบุคลิกภาพของปัจเจกบุคคลและการมีจิตใจที่จะทำตัวให้เป็นประโยชน์ต่อผู้อื่น และการส่งเสริมให้เกิดจิตสาธารณะทั้งสิ้น

“กระทรวงการพัฒนาสังคมฯ จะทำหน้าที่เป็นผู้อำนวยการความสะดวกและส่งเสริมให้เกิดการรวมตัวกันเป็นองค์กรเครือข่าย และอาสาสมัคร เพื่อองค์กรและอาสาสมัครเหล่านี้ จะได้รวมตัวกันเป็นพลังสำคัญยิ่งใหญ่ในการพัฒนาสังคมไทยให้เข้มแข็ง ร่วมสร้างสังคมที่น่าอยู่และมั่นคงให้ลูกหลานต่อไป” นางนวลพรรณ กล่าว