ฟิทช์ประกาศคงอันดับเครดิตสนับสนุนของไทยธนาคารที่ ‘4’

อังคาร ๐๙ สิงหาคม ๒๐๐๕ ๑๕:๑๔
กรุงเทพฯ--9 ส.ค.--ฟิทช์ เรทติ้งส์
บริษัท ฟิทช์ เรทติ้งส์ บริษัทจัดอันดับเครดิตข้ามชาติ ประกาศคงอันดับเครดิตสนับสนุนของธนาคารไทยธนาคาร ที่ ‘4’
อันดับเครดิตสะท้อนถึงความเห็นของฟิทช์ว่ามีความเป็นไปได้น้อยที่ธนาคารไทยธนาคารจะได้รับการสนับสนุนจากภาครัฐในระยะยาว เนื่องมาจากรัฐบาลมีนโยบายการถือหุ้นในธนาคารไทยธนาคารเป็นการชั่วคราวเท่านั้นและรัฐบาลได้ลดสัดส่วนการถือหุ้นลงมาต่ำกว่า 50% รวมทั้งอาจลดสัดส่วนดังกล่าวลงอีกในอนาคต ฟิทช์ยังกล่าวเสริมว่าการลดสัดส่วนการถือหุ้นของรัฐบาลในอนาคตอาจมีผลต่ออันดับเครดิตสนับสนุน
ในขณะที่สถานะทางการเงินของธนาคารไทยธนาคารมีการปรับตัวในทิศทางที่ดีขึ้น หลังจากที่มีการสนับสนุนในด้านเงินทุนจากรัฐบาลในการโอนหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้เกือบทั้งหมดและการเพิ่มทุน ธนาคารไทยธนาคารยังต้องเผชิญกับความท้าทายในการสร้างธุรกิจธนาคารทั้งสำหรับลูกค้าในภาคธุรกิจหรือลูกค้ารายย่อยในตลาดที่มีผู้ให้บริการจำนวนมากอยู่แล้ว ในช่วงเริ่มต้น ธนาคารไทยธนาคารทำการสร้างเครือข่ายธนาคารเพื่อให้บริการลูกค้าภาคธุรกิจแต่เพียงด้านเดียว แต่ในขณะนี้ ธนาคารกำลังวางแผนที่จะขยายเครือข่ายการให้บริการแก่ลูกค้ารายย่อยอีกด้วย
ธนาคารไทยธนาคารรายงานผลกำไรสุทธิที่ 545.7 ล้านบาท ในปี 2547 ฟื้นตัวจากขาดทุนสุทธิที่ 3.9 พันล้านบาท ในปี 2546 เนื่องมาจากอัตราการเติบโตของการให้สินเชื่อที่สูงขึ้น การลดลงของต้นทุนการปล่อยสินเชื่อ และการที่ไม่มีการกันสำรองหนี้สูญระหว่างปี ในครึ่งปีแรกของปี 2548 ธนาคารไทยธนาคารได้รายงานผลประกอบการที่ดีขึ้น โดยผลกำไรสุทธิเพิ่มขึ้นเป็น 336 ล้านบาท (จากงบการเงินที่ยังไม่ได้ตรวจสอบ) จาก 213.1 ล้านบาท ในครึ่งปีแรกของปี 2547 อย่างไรก็ตาม ผลประกอบการจากธุรกิจหลักของธนาคารยังคงอ่อนแอ สะท้อนให้เห็นถึงอัตราส่วนสินเชื่อต่อเงินฝากที่ต่ำและผลตอบแทนที่ต่ำที่ได้รับจากการบริหารสินทรัพย์ที่ได้รับการชดเชยภายใต้ CAP
ในปี 2544 กองทุนฟื้นฟูได้ทำสัญญาการแบ่งปันกำไรขาดทุนกับธนาคารไทยธนาคาร สำหรับการจัดการสินทรัพย์ด้อยคุณภาพที่มียอดรวมทั้งหมด 197.5 พันล้านบาท ซึ่งเป็นสินทรัพย์ที่ได้รับการชดเชยภายใต้ CAP และสินทรัพย์ด้อยคุณภาพดังกล่าว มียอดสำรองพึงกัน (Notional Provisions) ทั้งสิ้น 112 พันล้านบาท เงื่อนไขของสัญญาการแบ่งปันกำไรขาดทุนกำหนดให้ ธนาคารไทยธนาคารร่วมแบ่งผลกำไรในสัดส่วน 5% ของผลกำไรส่วนเกิน และร่วมแบ่งผลขาดทุนในสัดส่วน 15% ของผลขาดทุนส่วนเกินจากการจัดการสินทรัพย์ที่ได้รับการชดเชย สินทรัพย์ด้อยคุณภาพซึ่งมีมูลค่าทางบัญชีเท่ากับ 98.2 พันล้านบาทได้ถูกโอนไปยังบรรษัทบริหารสินทรัพย์ไทย (“บสท.”) ของรัฐบาล ซึ่งสินทรัพย์มูลค่าประมาณ 82.4 พันล้านบาทจากจำนวนทั้งหมด เป็นสินทรัพย์ที่ได้รับการชดเชยภายใต้ CAP โดยทางธนาคารไทยธนาคารได้รับตราสารหนี้ที่ออกโดยบสท. ซึ่งถูกค้ำประกันโดยกองทุนฟื้นฟูเป็นการแลกเปลี่ยน โดยตราสารหนี้ดังกล่าวมีอัตราดอกเบี้ยเท่ากับอัตราเฉลี่ยดอกเบี้ยเงินฝากของธนาคารใหญ่ ณ สิ้นเดือนมีนาคม 2548 ยอดสินเชื่อที่ได้รับการชดเชยคงค้างภายใต้ CAP อยู่ที่ 56.6 พันล้านบาท ในขณะที่ยอดสินเชื่อที่ไม่ได้รับการชดเชยอยู่ที่ 77.3 พันล้านบาท
สัญญาการแบ่งปันกำไรขาดทุนกับกองทุนฟื้นฟูจะสิ้นสุดในเดือนมกราคม 2549 อัตราการได้รับการชำระคืน (recovery rate) ที่ผ่านมาของสินทรัพย์ที่ได้รับการชดเชยภายใต้ CAP อยู่ที่ระดับ 50.5% ในขณะที่ธนาคารไทยธนาคารประมาณการว่าอัตราการได้รับการชำระคืนโดยเฉลี่ยเมื่อสิ้นสุดสัญญาของสินทรัพย์ที่ได้รับการชดเชยภายใต้ CAP ทั้งหมด จะอยู่ที่ประมาณ 47% สูงกว่าระดับ 43% ซึ่งเป็นระดับที่ประมาณจากยอดสำรองพึงกัน ณ ปัจจุบัน ดังนั้น ธนาคารคาดว่าจะบันทึกกำไรจากสัญญาดังกล่าวเล็กน้อย
หนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ของธนาคารไทยธนาคาร โดยไม่รวมสินเชื่อที่ได้รับการชดเชยภายใต้ CAP ได้เพิ่มขึ้นเล็กน้อยเป็น 7.9 พันล้านบาท ณ สิ้นเดือนมีนาคม 2548 หลังจากลดลงมาอยู่ที่ 7.6 พันล้านบาท ณ สิ้นปี 2547 จาก 9.2 พันล้านบาท ณ สิ้นปี 2545 หากพิจารณาเฉพาะส่วนของสินเชื่อที่ไม่ได้รับการชดเชยภายใต้ CAP หนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้คิดเป็น 10.3% ของสินเชื่อ ในขณะที่ระดับการกันสำรองหนี้สูญอยู่ที่ระดับ 6.5 พันล้านบาท เทียบเท่ากับ 82.2% ของหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ ซึ่งจัดว่าเป็นระดับที่แข็งแกร่ง อย่างไรก็ตาม การที่สินเชื่อที่ผ่านการปรับโครงสร้างหนี้อยู่ในระดับสูง อาจก่อให้เกิดความเสี่ยงที่จะต้องทำการกันสำรองหนี้สูญเพิ่มเติม
อัตราส่วนส่วนของผู้ถือหุ้นต่อสินทรัพย์ที่ระดับ 3.36% ณ สิ้นเดือนมีนาคม 2548 จัดอยู่ในระดับต่ำ เนื่องมาจากการนับรวมสินทรัพย์ที่ได้รับการชดเชยภายใต้ CAP ในขณะที่เงินกองทุนขั้นที่ 1 ที่ระดับ 10.3% ของสินทรัพย์เสี่ยง (ซึ่งการคำนวณสินทรัพย์เสี่ยงดังกล่าวไม่ได้รวมยอดสินเชื่อที่ได้รับการชดเชยภายใต้ CAP) และอัตราส่วนเงินกองทุนทั้งหมดที่ระดับ 10.2% จัดอยู่ในระดับที่เพียงพอ อัตราส่วนดังกล่าวได้สะท้อนถึงสัญญาการแบ่งปันกำไรขาดทุนระหว่างกองทุนฟื้นฟูและบสท. ซึ่งผลการบริหารสัญญาดังกล่าวยังคงต้องถูกพิจารณาโดยกระทรวงการคลัง ฟิทช์ยังกล่าวว่าการเปลี่ยนแปลงในเงื่อนไขของสัญญาการแบ่งปันกำไรขาดทุนดังกล่าว รวมทั้งผลกำไรที่อ่อนแออย่างต่อเนื่องอาจสามารถสร้างแรงกดดันต่อสถานะเงินกองทุนของธนาคารได้
หมายเหตุ : การจัดอันดับเครดิตภายในประเทศ (National Ratings) ใช้วัดความน่าเชื่อถือของบริษัทในประเทศที่อันดับเครดิตของประเทศนั้นอยู่ในระดับต่ำกว่าอันดับเครดิตระดับเพื่อการลงทุน หรือมีอันดับเครดิตอยู่ในระดับต่ำแม้จะอยู่ในระดับเพื่อการลงทุน อันดับเครดิตของบริษัทที่ดีที่สุดของประเทศจะอยู่ที่ระดับ “AAA” และการจัดอันดับเครดิตอื่นในประเทศ จะเป็นการเปรียบเทียบความเสี่ยงกับบริษัทที่ดีที่สุดนี้เท่านั้น อันดับเครดิตภายในประเทศนั้นถูกออกแบบมาเพื่อนักลงทุนภายในประเทศในแต่ละประเทศนั้นๆ และมีสัญลักษณ์ที่กำหนดไว้ต่อท้ายจากอันดับเครดิตสำหรับแต่ละประเทศ เช่น “AAA(tha)” ในกรณีของประเทศไทย อันดับเครดิตภายในประเทศนั้นไม่สามารถนำไปใช้เปรียบเทียบระหว่างประเทศได้
คำจำกัดความของอันดับเครดิตและการใช้อันดับเครดิตดังกล่าวของ ฟิทช์ เรทติ้งส์ สามารถหาได้จาก www.fitchratings.com อันดับเครดิตที่ประกาศ หลักเกณฑ์และวิธีการจัดอันดับเครดิต ได้แสดงไว้ในเว็บไซต์ดังกล่าวตลอดเวลา หลักจรรยาบรรณ การรักษาข้อมูลภายใน ความขัดแย้งทางผลประโยชน์ที่อาจเกิดขึ้น แนวทางการเปิดเผยข้อมูลระหว่างบริษัทในเครือ กฏข้อบังคับรวมทั้งนโยบายและกระบวนการที่เกี่ยวข้องอื่นๆของฟิทช์ ได้แสดงไว้ในส่วน ‘หลักจรรยาบรรณ’ ในเว็บไซต์ดังกล่าวเช่นกัน
ติดต่อ
ชัยพัฒน์ ไพฑูร Vincent Milton, กรุงเทพฯ
+662 655 4762/4759
David Marshall, ฮ่องกง
+852 2263 9963--จบ--

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๑๐:๕๙ อแมนด้า ชาร์ลีน ออบดัม VICHY LIFTACTIV BRAND PARTNER ตัวแทนประเทศไทย ร่วมงาน 'V.I.C VICHY INTEGRATIVE CENTER' อีเว้นท์สุดยิ่งใหญ่ในรอบ 5 ปี ของแบรนด์ VICHY (วิชี่) อวดลุคเซ็กซี่สุดฮอต สวย ปัง
๒๖ เม.ย. ไทยพีบีเอสผนึกกำลัง สสส. ผลิต และเผยแพร่เนื้อหาส่งเสริมสุขภาวะเด็ก เยาวชน และครอบครัว
๒๖ เม.ย. NPS ร่วมสืบสานประเพณีสงกรานต์ชุมชนในพื้นที่รอบโรงไฟฟ้า ประจำปี 2567
๒๖ เม.ย. แพทย์แผนไทย มทร.ธัญบุรี แนะฤดูร้อนควรทานพืชผักที่มีฤทธิ์เย็นช่วยลดความร้อนในร่างกาย
๒๖ เม.ย. แพรนด้า จัดประชุมสามัญผู้ถือหุ้น ประจำปี 2566
๒๖ เม.ย. RBRU Herb Shot ขยายศักยภาพทางธุรกิจ รุกตลาดอินเดีย
๒๖ เม.ย. ไฮเออร์ ประเทศไทย เดินเกมรุกไตรมาส 2 เปิดตัวตู้เย็นรุ่นใหม่ Multi-door HRF-MD679 ตั้งเป้าปี 67 ดันยอดขายตู้เย็นโต
๒๖ เม.ย. เอ็น.ซี.ซี.ฯ ประกาศจัดงาน PET EXPO THAILAND 2024 ระดมสินค้า บริการ ลดหนักจัดเต็ม รับกระแส Petsumer ดันตลาดสัตว์เลี้ยงโตแรง
๒๖ เม.ย. ธอส. ขานรับนโยบายรัฐบาล ลดอัตราดอกเบี้ย MRR 0.25% ต่อปี พร้อมส่งเสริมวินัยการออม ด้วย เงินฝากออมทรัพย์เก็บออม ดอกเบี้ยสูงถึง 1.95%
๒๖ เม.ย. ManageEngine ลดความซับซ้อน ช่วยองค์กรจัดการต้นทุนบนคลาวด์ทั่วมัลติคลาวด์ได้ง่ายขึ้น พร้อมรองรับแพลตฟอร์ม Google Cloud