ธ.กรุงเทพ Bank of the Year 2016 ธ.กสิกรไทย & ธ.ไทยพาณิชย์ ครองที่ 2 ร่วม

ศุกร์ ๐๘ เมษายน ๒๐๑๖ ๑๓:๐๗
ธนาคารกรุงเทพ ครองแชมป์ ธนาคารแห่งปี 2559 Bank of the Year 2016 ธนาคารกสิกรไทยและธนาคารไทยพาณิชย์ ครองอันดับ 2 ร่วมกัน ด้านธนาคารกรุงไทยครองอันดับ 4

การเงินธนาคาร ฉบับเดือนเมษายน 2559 ประกาศผลการจัดอันดับ ธนาคารแห่งปี 2559 หรือ Bank of the Year 2016 โดยใช้ผลประกอบการของธนาคารพาณิชย์ 15 แห่ง ในรอบปี 2558 ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม-31 ธันวาคม 2558 มาพิจารณาจัดอันดับ ปรากฏว่า ธนาคารกรุงเทพ ได้ครองแชมป์ธนาคารแห่งปี 2559

ผลการดำเนินงานของ ธนาคารกรุงเทพ ยังคงเติบโตต่อเนื่อง โดยสามารถสร้างกำไรสุทธิได้สูงเป็นอันดับ 3 ของระบบธนาคารพาณิชย์ โดยมีกำไรสุทธิทั้งสิ้น 34,180.63 ล้านบาท และมีอัตรากำไรสุทธิ (Net Profit Margin) สูงเป็นอันดับ 2 ที่ 23.86% ส่วนกำไรสุทธิต่อหุ้น สูงสุดเป็นอับดับ 1 ที่ 17.91 บาทต่อหุ้น

นอกเหนือจากประสิทธิภาพในการทำกำไรแล้ว ธนาคารกรุงเทพได้ยึดหลักความระมัดระวังด้วยการตั้งสำรองค่าเผื่อหนี้สงสัยจะสูงอย่างสม่ำเสมอ โดยในปี 2558 ธนาคารตั้งค่าเผื่อหนี้สงสัยจะสูญรวม 101,755.09 ล้านบาท คิดเป็น 5.44% ของสินเชื่อ ขณะที่มีเงินกองทุนต่อสินทรัพย์เสี่ยง (BIS) รวมทั้งสิ้น 17.87% ประกอบด้วยเงินกองทุนขั้นที่ 1 ที่ระดับ 15.78% และเงินกองทุนขั้นที่ 2 ที่ระดับ 2.09%

นอกจากนี้ ธนาคารยังเน้นการบริหารความเสี่ยงด้านคุณภาพสินเชื่อให้อยู่ในระดับที่เหมาะสม พร้อมทั้งให้คำปรึกษาและความช่วยเหลือลูกค้าอย่างใกล้ชิดและต่อเนื่อง ส่งผลให้มียอด NPL ในระดับต่ำเพียง 2.75%

ในปี 2559 ธนาคารกำลังปรับเปลี่ยนกระบวนการทางธุรกิจในหลายด้าน เช่น ธนาคารดิจิทัล ระบบชำระเงิน รวมถึงกลยุทธ์ด้านช่องทางการให้บริการและการพัฒนาผลิตภัณฑ์ เพื่อให้มั่นใจว่าธนาคารจะมีความสามารถและความคล่องตัว เพื่อตอบสนองความต้องการที่เปลี่ยนไปของลูกค้า ควบคู่กับการสร้างความมั่นใจในความปลอดภัยของข้อมูล และความสะดวกสบายในการดำเนินธุรกรรมผ่านช่องทางบริการทุกช่องทาง ทุกที่ ทุกเวลา ทั้งลูกค้าธุรกิจรายใหญ่ ลูกค้าธุรกิจรายกลาง ลูกค้าธุรกิจรายปลีก ลูกค้าบุคคล กิจการธนาคารต่างประเทศ และกิจการการเงินธนกิจ

ในฐานะธนาคารแห่งภูมิภาคที่มีเครือข่ายอยู่ในประเทศสำคัญที่เป็นคู่ค้าหลักของไทย เช่น จีน ฮ่องกง ไต้หวัน ญี่ปุ่น อาเซียน สหรัฐฯ และยุโรป รวม 32 แห่ง ใน 15 เขตเศรษฐกิจ โดยเฉพาะในกลุ่มเศรษฐกิจอาเซียนมีถึง 16 แห่ง ธนาคารจึงมีความพร้อมสนับสนุนลูกค้าในการขยายธุรกิจสู่ต่างประเทศ โดยจัดเจ้าหน้าที่ที่มีความเชี่ยวชาญเพื่อให้คำแนะนำ และจัดโครงการนำลูกค้าสำรวจลู่ทางการดำเนินธุรกิจในประเทศที่มีศักยภาพ

ปีนี้ ธนาคารกสิกรไทย และ ธนาคารไทยพาณิชย์ ครองอันดับ 2 ร่วมกันเป็นครั้งแรก โดย ธนาคารกสิกรไทย มีรายได้ในปี 2558 สูงเป็นอันดับ 1 รวม 249,020.92 ล้านบาท มีกำไรสุทธิ 39,473.64 ล้านบาท สูงเป็นอันดับ 2 และมีอัตราส่วนทางการเงินสูงในอันดับต้นๆ ได้แก่ อัตราผลตอบแทนจากสินทรัพย์ (ROA) สูงเป็นอันดับ 1 ที่ 20.20% อัตราผลตอบแทนจากส่วนผู้ถือหุ้น (ROE) สูงเป็นอันดับ 2 ที่ 14.54% และกำไรสุทธิต่อหุ้น สูงเป็นอันดับ 2 ที่ 16.49 บาทต่อหุ้น

สำหรับทิศทางในปี 2559 ธนาคารกำหนดยุทธศาสตร์ที่จะมุ่งเน้น 4 ด้านสำคัญ ได้แก่ 1.การเป็นอันดับหนึ่งด้านธนาคารหลักของลูกค้าในทุกกลุ่มลูกค้า และมีแบรนด์ที่แข็งแกร่ง 2.การครองความเป็นผู้นำด้านการให้บริการดิจิทัลแบงกิ้ง 3.การเน้นย้ำเรื่องบริการที่เป็นเลิศตามแนวคิด "บริการทุกระดับประทับใจ" และการเสริมสร้างตำแหน่งทางการตลาดนี้ให้แข็งแกร่ง และ 4.การเป็นธนาคารแห่งภูมิภาค AEC+3 เพื่อตอบสนองต่อโอกาสทางธุรกิจซึ่งมาจากการเกิดขึ้นของ AEC รวมถึงโอกาสทางธุรกิจกับจีน ญี่ปุ่น และเกาหลีใต้

ธนาคารไทยพาณิชย์ ยังคงเป็นธนาคารที่มีกำไรสุทธิสูงสุดเป็นอันดับ 1 ในระบบธนาคารพาณิชย์ โดยในปี 2558 ธนาคารมีกำไรสุทธิ 47,182.41 ล้านบาท และมีอัตรากำไรสุทธิสูงสุดเป็นอันดับ 1 ที่ 28.59% เช่นเดียวกับอัตราผลตอบแทนจากส่วนผู้ถือหุ้น (ROE) ซึ่งสูงเป็นอันดับ 1 ที่ 15.92%

ในปี 2559 ธนาคารได้กำหนดกลยุทธ์เพื่อสร้างการเติบโตให้แก่ธุรกิจของธนาคารอย่างยั่งยืน โดยปรับพอร์ตโฟลิโอของธนาคารให้มีความสมดุลมากขึ้น พร้อมทั้งเน้นการเติบโตจากภายใน โดยเพิ่มรายได้ค่าธรรมเนียมและฐานสินทรัพย์จากกลุ่มลูกค้าที่มีอยู่ในปัจจุบัน และผลักดันการใช้ดิจิทัล โดยเพิ่มการใช้งานผ่านช่องทางด้านดิจิทัลเพิ่มขึ้น และสนับสนุนการทำงานร่วมกัน โดยส่งเสริมการทำงานร่วมกันผ่านช่องทางการให้บริการและฐานลูกค้า ทั้งหน่วยงานภายในธนาคารและบริษัทในเครือ

ปีนี้ อันดับ 4 ยังคงเป็นของ ธนาคารกรุงไทย โดยมีกำไรสุทธิ 28,493.77 ล้านบาท สูงเป็นอันดับ 4 โดยในปี 2559 ธนาคารมีการดำเนินงานภายใต้แผนยุทธศาสตร์ Three Summits โดยจะเป็นการเข้าสู่ช่วงที่สองของ Three Summits หรือ 2nd Summit (ปี 2559-2561) ซึ่งมีเป้าหมายสำคัญคือ มุ่งเน้นในเรื่องของการปิดช่องว่างกับธนาคารคู่เทียบ โดยจะปรับพอร์ตสินเชื่อเพื่อเพิ่มคุณภาพของสินทรัพย์ เน้นการขยายสินเชื่อธุรกิจ SME ขนาดกลางและขนาดเล็กมากขึ้น ในส่วนของลูกค้าธุรกิจขนาดใหญ่ ธนาคารจะเน้นการมีบทบาทในการเป็นที่ปรึกษาทางการเงินให้แก่ลูกค้า เพื่อสนับสนุนการขายข้ามผลิตภัณฑ์อันจะนำไปสู่การเป็นธนาคารหลักของลูกค้า พร้อมต่อยอดจากการมีความสัมพันธ์อันดีและความเข้าใจในลูกค้าภาครัฐ เพื่อนำไปสู่การเป็นผู้ให้บริการในธุรกรรมที่จะเกิดขึ้นระหว่างภาครัฐและภาคธุรกิจ หรือภาครัฐกับผู้บริโภค

อันดับ 5 ได้แก่ ธนาคารกรุงศรีอยุธยา โดยมีกำไรสุทธิสูงเป็นอันดับ 5 รวม 18,634.18 ล้านบาท สำหรับในปี 2559 ธนาคารจะมุ่งในการสานต่อแผนธุรกิจระยะกลาง 3 ปี ภายใต้ 3 กลยุทธ์หลักคือ 1.ผลักดันการเติบโตของสินทรัพย์ 2.เพิ่มรายได้ที่ไม่ใช่ดอกเบี้ย และ 3.ลดต้นทุนทางการเงิน ทั้งนี้ ธนาคารมุ่งขยายบริการเครือข่ายธุรกิจครอบคลุมทั้งในกลุ่มลูกค้ารายย่อยและลูกค้าธุรกิจ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในกลุ่มประเทศ CLMV พร้อมทั้งผสานความร่วมมือกับเครือข่ายของธนาคารแห่งโตเกียว-มิตซูบิชิ ยูเอฟเจ (BTMU) ที่ครอบคลุม 7 ประเทศในอาเซียน โดยมีเป้าหมายเพื่อขับเคลื่อนสู่การเป็นสถาบันการเงินชั้นนำในภูมิภาคอาเซียน

ปีนี้ อันดับ 6 มี 2 ธนาคารที่ได้ครองตำแหน่งร่วมกัน ได้แก่ ธนาคารเกียรตินาคิน และธนาคารธนชาต โดย ธนาคารเกียรตินาคิน มีกำไรสุทธิ 3,317 ล้านบาท สำหรับแผนธุรกิจปี 2559 ธนาคารได้เดินหน้าตามโมเดลธุรกิจที่เน้น 3 ด้านหลัก คือ 1.การเป็น Credit House ที่มีประสิทธิภาพ 2.ต่อยอดธุรกิจ Private Banking ที่ภัทร มีประสบการณ์มากว่า 15 ปี และ 3.รักษาความเป็นผู้นำในด้าน Investment Banking

ในปี 2558 ธนาคารธนชาต มีกำไรสุทธิ 10,742.83 ล้านบาท ส่วนในปี 2559 ธนาคารได้กำหนดนโยบาย 4 ด้านหลัก ได้แก่ 1. นำเสนอนวัตกรรมใหม่ของผลิตภัณฑ์เงินออมและการลงทุนให้แก่ลูกค้า 2. นำเสนอความคุ้มครองภายใต้ผลิตภัณฑ์กลุ่มประกันที่เหมาะสมตอบโจทย์ลูกค้า ภายใต้กลุ่มธนชาต เพื่อให้ลูกค้าเกิดความมั่นใจในความสำเร็จทางการเงิน 3. เป็นส่วนหนึ่งในความสำเร็จของลูกค้าในการให้คำปรึกษาการระดมทุนและการกู้ยืมที่ตรงตามความต้องการในแต่ละกลุ่มลูกค้า เพื่อให้ลูกค้ามีระบบการเงินที่ดีขึ้น และ 4.เชื่อมโยงลูกค้า ให้สามารถเข้าถึงบริการของธนาคารธนชาตได้ทุกที่ ทุกเวลา และทุกช่องทางผ่านระบบบริการธนาคารดิจิทัล

อันดับ 8 ธนาคารทิสโก้ มีกำไรสุทธิ 2,914.31 ล้านบาท ซึ่งกลยุทธ์ในปี 2559 ธนาคารมุ่งเน้นการสร้างรายได้ภายใต้การบริหารคุณภาพสินทรัพย์อย่างมีประสิทธิภาพ ประกอบกับเสริมสร้างรายได้จากค่าธรรมเนียมโดยการขยายฐานลูกค้าอย่างต่อเนื่อง ได้แก่ 1.กลุ่มลูกค้ารายย่อย ผ่านการขยายเครือข่ายการให้บริการอย่างต่อเนื่องไปยังตลาดที่ยังมีการเติบโตสูง และเสริมสร้างการขยายฐานลูกค้าผ่านพันธมิตรทางธุรกิจ 2.กลุ่มลูกค้าธุรกิจ โดยมุ่งเน้นการสร้างความสัมพันธ์ในระยะยาว ด้วยการเป็นพันธมิตรที่ให้บริการทางการเงินอย่างครบวงจร พร้อมกับยังเน้นการสร้างโอกาสจากขยายตัวของการลงทุนภาครัฐในช่วงเศรษฐกิจที่ฟื้นตัว และ 3.กลุ่มลูกค้าธนบดี โดยให้บริการด้านการบริหารความมั่งคั่งด้วยคำแนะนำที่มีคุณภาพ และตอบสนองความต้องการสำหรับลูกค้าแต่ละราย รวมถึงการนำเสนอผลิตภัณฑ์ที่เหมาะกับกลุ่มรายได้ปานกลางที่ขยายตัว

อันดับ 9 ธนาคารทหารไทย หรือ ทีเอ็มบี มีกำไรสุทธิ 9,333.07 ล้านบาท โดยธนาคารกำหนดกลยุทธ์ในปี 2559 สำหรับลูกค้าธุรกิจขนาดใหญ่ที่จะพัฒนาผลิตภัณฑ์เพื่อตอบสนองความต้องการทางการเงินให้แก่กลุ่มธุรกิจตั้งแต่ต้นน้ำถึงปลายน้ำ เพื่อรองรับการขยายตัวของการลงทุนภาครัฐ ด้านลูกค้า SME ธนาคารมุ่งสู่การเป็นธนาคารหลักของ SME ในการดำเนินธุรกิจพัฒนาสู่การเป็นธนาคารเพื่อการค้าระหว่างประเทศ ส่วนลูกค้าบุคคล ธนาคารตั้งเป้าหมายที่จะมอบประสบการณ์การทำธุรกรรมทางการเงินที่ง่ายที่สุดและคำแนะนำทางการเงินที่เหมาะสมที่สุด ผ่านช่องทางที่เป็นหนึ่งเดียว โดยเน้นความเป็นผู้นำด้านดิจิตอล

อันดับ 10 ธนาคารยูโอบี มีกำไรสุทธิ 3,120.85 ล้านบาท โดยนโยบายของธนาคาร ในปี 2559 นั้น ธนาคารยึดหลักความระมัดระวังและการมีวินัยในการบริหารงานของธนาคารเพื่อการเติบโตอย่างยั่งยืน และยังคงเน้นสร้างความแข็งแกร่งด้านลูกค้า เห็นได้จากการที่ธนาคารมีความเข้าใจถึงความต้องการ ความชอบ และลำดับความสำคัญทางธุรกิจของลูกค้าและนำสิ่งเหล่านี้มาใส่ในผลิตภัณฑ์และการบริการของธนาคารที่ยาวนาน และพนักงานที่ทุ่มเทในการทำงาน

อันดับ 11 ธนาคารแลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ มีกำไรสุทธิ 1,660.73 ล้านบาท สำหรับกลยุทธ์ปี 2559 ธนาคารยังคงเน้นการเติบโตของสินเชื่ออย่างมีคุณภาพ และเพิ่มเป้าหมายรายได้ค่าธรรมเนียมและควบคุมค่าใช้จ่าย ตลอดจนรุกตลาด Digital Banking โดย Scale Down การเปิดสาขา มาพัฒนาระบบ Mobile Banking หรือการทำธุรกรรมผ่านมือถือ ซึ่งจะสามารถใช้ได้ในช่วงไตรมาส 2 นอกจากนี้ ธนาคารทำการตลาดผ่าน Social Media ต่างๆ เช่น Line, Facebook และ Youtube เพราะสามารถเข้าถึงลูกค้าได้อย่างรวดเร็ว

อันดับ 12 ธนาคารไอซีบีซี (ไทย) มีกำไรสุทธิ 1,335.08 ล้านบาท สำหรับปี 2559 ธนาคารยังคงมุ่งมั่นที่จะเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน โดยมุ่งให้การสนับสนุนทางด้านการเงินกับกลุ่มธุรกิจต่างๆ เพื่อเสริมสร้างความแข็งแกร่งทางเศรษฐกิจของประเทศ รวมทั้งการพัฒนาและสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์และบริการทางการเงินที่มีคุณภาพอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้สามารถตอบสนองความต้องการและสร้างความพึงพอใจยิ่งขึ้นแก่ลูกค้า

อันดับ 13 ธนาคารสแตนดาร์ด ชาร์เตอร์ด โดยผลประกอบการของธนาคารในปี 2558 ประสบกับภาวะขาดทุนจำนวน 46.69 ล้านบาท อย่างไรก็ตาม ในปี 2559 ธนาคารยังคงมุ่งเน้นการให้บริการที่มีคุณภาพกับทุกกลุ่มลูกค้า ทั้งลูกค้าธนาคารพิเศษและธนาคารต่างประเทศ ลูกค้าบุคคล ลูกค้าธุรกิจ ลูกค้าองค์กรและลูกค้าสถาบัน โดยธนาคารมุ่งบริการและผลิตภัณฑ์ที่ตอบสนองความต้องการของลูกค้า ด้วยข้อเสนอที่หลากหลายให้กับลูกค้าแต่ละกลุ่มเพื่อให้ได้รับบริการที่เหมาะสม

อันดับ 14 ธนาคารซีไอเอ็มบี ไทย โดยมีกำไรสุทธิ 1,052.48 ล้านบาท นโยบายของธนาคารซีไอเอ็มบี ไทย ในปี 2559 ธนาคารจะเดินหน้าใช้เทคโนโลยีและการจับมือกับพันธมิตรธุรกิจรุกลูกค้ารายย่อย และชูจุดแข็งด้านเครือข่ายในภูมิภาคหนุนลูกค้าธุรกิจทั้งขนาดใหญ่ และธุรกิจ SME ในการเปิดตลาดอาเซียน

อันดับ 15 ธนาคารไทยเครดิต เพื่อรายย่อย มีกำไรสุทธิ 111 ล้านบาท ทั้งนี้ ในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา ธนาคารได้ปรับปรุงและเปลี่ยนแปลงโครงสร้างการบริหารงาน รวมถึงการปรับกลยุทธ์การดำเนินธุรกิจอย่างเป็นรูปธรรมและพร้อมก้าวสู่ยุคแห่งการเติบโตและสร้างความแข็งแกร่งทางธุรกิจ ด้วยความมุ่งมั่นในภารกิจการให้บริการทางการเงินแก่กลุ่มลูกค้ารายย่อย ทั้งประชาชนทั่วไป และธุรกิจขนาดเล็กที่ไม่สามารถเข้าถึงบริการทางการเงินในระบบได้

ผลการจัดอันดับธนาคารแห่งปี2559

อันดับ ธนาคาร อันดับ ธนาคาร

1 ธ.กรุงเทพ 10 ธ.ยูโอบี

2 ธ.กสิกรไทย และ ธ.ไทยพาณิชย์ 11 ธ.แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์

4 ธ.กรุงไทย 12 ธ.ไอซีบีซี (ไทย)

5 ธ.กรุงศรีอยุธยา 13 ธ.สแตนดาร์ด ชาร์เตอร์ด (ไทย)

6 ธ.เกียรตินาคิน และ ธ.ธนชาต 14 ธ.ซีไอเอ็มบี ไทย

8 ธ.ทิสโก้ 15 ธ.ไทยเครดิต เพื่อรายย่อย

9 ธ.ทหารไทย

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๑๗ พ.ค. สุรีย์พร คลินิก เปิดตัวตึกสูงที่สุดแห่งวงการคลินิกสถาบันเสริมความงาม ฉลอง 20 ปีความสำเร็จพร้อมยกระดับชูเทคโนโลยีล้ำสมัย Volformer
๑๗ พ.ค. ปตท.สผ. จัดงานประชุม SSHE Forum 2024 ส่งเสริมวัฒนธรรมความปลอดภัยในการทำงาน
๑๗ พ.ค. บมจ. เอสไอเอส ดิสทริบิวชั่น (ประเทศไทย) แนะนำ ชุดล็อคประตูกลอนแม่เหล็กไฟฟ้า จากแบรนด์ HIP
๑๗ พ.ค. ซัมซุง อัปเกรดประสบการณ์การชมทุกมหกรรมกีฬา ด้วยนวัตกรรม AI TV สุดล้ำ ชัดทุกแมตซ์เหมือนเชียร์ติดขอบสนาม
๑๗ พ.ค. ไทยพาณิชย์ปักหมุดผู้นำดิจิทัลแบงก์ นำ AI เสริมแกร่ง 360 องศา เปิด 3 นวัตกรรม AI ครั้งแรก! สร้างปรากฏการณ์ใหม่กลุ่มสินเชื่อรายย่อย และ Digital
๑๗ พ.ค. หัวใจเต้นช้า โรคหัวใจที่มักถูกมองข้าม
๑๗ พ.ค. DDD โชว์งบ Q1/67 กวาดกำไรทะยาน 317% YoY พร้อมลุยขยายตลาดสินค้าไลฟ์สไตล์ อัพผลงานปีนี้โตสวย
๑๗ พ.ค. PCC เปิดงบ Q1/67 รายได้โต 14.25% ยอดขายสินค้าหม้อแปลงไฟฟ้า - อุปกรณ์ระบบโครงข่ายไฟฟ้าอัจฉริยะ เพิ่มขึ้น มั่นใจรายได้ปีนี้โต 10%
๑๗ พ.ค. บางจากฯ สานต่อพันธกิจสนับสนุนด้านกีฬาอย่างเป็นมิตรต่อโลก ร่วมจัดกิจกรรมเดิน-วิ่ง Olympic Day 2024 Together, For A Better
๑๗ พ.ค. บัตรเครดิต ttb ช้อปคุ้ม อิ่มครบ ได้มากกว่า รับ Magic Gift Voucher รวมมูลค่าสูงสุด 1,500 บาท ที่ศูนย์การค้าเซ็นทรัลทั้ง 5