มิวเซียมสยาม เปิดตัว “ระบบพิพิธภัณฑ์เสมือนจริง” ชวนคนไทยท่องนิทรรศการออนไลน์ เที่ยวชมได้ 360 องศา

พฤหัส ๐๙ กุมภาพันธ์ ๒๐๑๗ ๑๔:๑๙
มิวเซียมสยาม เปิดตัว "ระบบพิพิธภัณฑ์เสมือนจริง" ขยายโอกาสให้คนทั่วไปเที่ยวชมมิวเซียมสยาม และนิทรรศการถาวรชุดเรียงความประเทศไทย ผ่านช่องทางออนไลน์ในมุมมอง 360 องศา โดยผู้สนใจสามารถเข้าไปเที่ยวชมได้ที่ ที่ www.museumsiam.org/virtualexhibition/accountofthailand ทั้งนี้ ปัจจุบันมิวเซียมสยามปิดปรับปรุงอาคารชั่วคราว เพื่อเตรียมพัฒนานิทรรศการถาวรชุดใหม่ซึ่งจะมีกำหนดเปิดตัวในช่วงปลายปี 2560 สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่หมายเลขโทรศัพท์ 02-225-2777 หรือ www.facebook.com/museumsiamfan

นายราเมศ พรหมเย็น ผู้อำนวยการสถาบันพิพิธภัณฑ์การเรียนรู้แห่งชาติ (มิวเซียมสยาม) กล่าวว่า มิวเซียมสยาม ในฐานะพิพิธภัณฑ์การเรียนรู้ที่มุ่งส่งเสริมสังคมไทยให้เป็นพื้นที่แห่งการเรียนรู้อย่างสร้างสรรค์ ได้เปิดตัว "ระบบพิพิธภัณฑ์เสมือนจริง (Virtual Museum)" ขึ้น โดยยกเอามิวเซียมสยาม และนิทรรศการถาวรชุดเรียงความประเทศไทยซึ่งจัดแสดงมาเป็นระยะเวลา 8 ปี ตลอดจนมีผู้เข้าชมกว่า 2 ล้านคน ขึ้นมาอยู่บนแพลตฟอร์มออนไลน์ เพื่อขยายโอกาสให้ประชาชนทั่วไปสามารถเข้าถึงพิพิธภัณฑ์ และองค์ความรู้ได้อย่างทั่วถึง

นายราเมศ กล่าวต่อว่า ผู้ชมใช้เพียงปลายนิ้วสัมผัสก็จะสามารถเที่ยวชมนิทรรศการได้อย่างลื่นไหล โดยผู้ชมสามารถปรับมุมมองได้รอบตัว 360 องศา ในขณะเดียวกันก็สามารถขยายภาพ และคลิกเพื่อดูข้อมูลรายละเอียดในจุดต่างๆ ของนิทรรศการ ซึ่งมีทั้งในลักษณะป็อบอัพคำอธิบาย และการเชื่อมต่อไปยังคลิปวิดีโอที่เกี่ยวข้องในยูทูป โดยถือเป็นการใช้เทคโนโลยีดิจิทัลแบบผสมผสาน เพื่อสร้างเสริมการเรียนรู้ที่สนุกสนานให้กับคนทุกเพศ ทุกวัย รวมทั้งชาวต่างชาติด้วย

สำหรับผู้เข้าชมระบบพิพิธภัณฑ์เสมือนจริงจะรู้สึกเหมือนได้เดินทางไปสัมผัสบรรยากาศ ณ มิวเซียมสยาม ด้วยตนเองโดยเริ่มต้นจากบริเวณด้านหน้าอาคารนิทรรศการ ที่ตั้งตระหง่านประชันกับท้องฟ้าและสนามหญ้าสีเขียวขจี จากนั้นเข้าสู่ด้านในอาคารที่มีการจัดแสดงนิทรรศการถาวรชุด "เรียงความประเทศไทย" ซึ่งบอกเล่าถึงพัฒนาการด้านต่างๆ ของภูมิภาคอุษาคเนย์ นับตั้งแต่สมัยแผ่นดินสุวรรณภูมิ เรื่อยมาจนถึงประเทศไทยในยุคปัจจุบัน ผ่านการนำเสนอถึง 17 ห้องนิทรรศการ ดังต่อไปนี้

ห้องที่ 1: เบิกโรง (Immersive Theater) เป็นการเบิกตัวละครทั้งเจ็ดที่จะพาผู้ชมย้อนกลับไปสู่เรื่องราวอันเป็นต้นกำเนิด จากสุวรรณภูมิสู่สยามประเทศ ถึงประเทศไทย เพื่อค้นหาคำตอบว่า เราคือใคร และอะไรคือไทย

ห้องที่ 2: ไทยแท้ (Typically Thai) เป็นห้องที่ทำให้เกิดความอยากรู้ว่าไทยแท้คืออะไร และเป็นอย่างไรจึงเรียกว่าไทยแท้

ห้องที่ 3: เปิดตำนานสุวรรณภูมิ (Introduction to Suvarnabhumi) เป็นห้องที่แสดงถึงวิวัฒนาการสังคมก่อนจะมา เป็นบรรพบุรุษชาวสุวรรณภูมิ ซึ่งมีใจความสำคัญว่า "สุวรรณภูมิ" คือชื่อที่ชาวโลกเมื่อประมาณ 3,000 ปีก่อนใช้เรียก ดินแดนแห่งความอุดมสมบูรณ์ทางทิศตะวันออกของอินเดีย ส่วนหนึ่งของพื้นที่แห่งนี้มีกรุงเทพฯ ที่ยังนอนสงบนิ่งอยู่ใต้ ทะเล ซึ่งการศึกษาโครงกระดูก หลุมฝังศพ และอารยธรรมที่ฝังอยู่ใต้ดินทำให้รู้จักดินแดนแห่งนี้มากขึ้น

ห้องที่ 4: สุวรรณภูมิ (Suvarnabhumi) เป็นห้องที่ทำให้รู้จัก "สุวรรณภูมิ" ดินแดนแห่งความมั่งคั่งผ่านผู้คน การเกษตร การค้า การสร้างเมือง เทคโนโลยีแห่งโลหะ และความเชื่อ (ผี-พราหมณ์-พุทธ) ซึ่งจะทำให้รู้ว่าสุวรรณภูมิ คือ รากเหง้าของประเทศไทย

ห้องที่ 5: พุทธิปัญญา (Buddhism) สร้างความเข้าใจเกี่ยวกับหัวใจของพุทธศาสนา ซึ่งมี คาถา เย ธมฺมา (อ่านว่า เย-ทำ-มา) แปลว่า สิ่งทั้งหลายมีเหตุเป็นแดนเกิด คาถายอดนิยมแห่งสุวรรณภูมิ มูลเหตุแห่งความใจกว้างและสันติ

ห้องที่ 6: กำเนิดสยามประเทศ (The Founding of Ayutthaya) นำเสนอด้วยเทคนิคที่หลากหลาย เพื่อให้เห็นนานา แว่นแคว้นต่างๆ ที่เริ่มก่อตัวขึ้นเป็นนครรัฐ และสืบสานเรื่องราวของวีรบุรุษผู้สถาปนากรุงศรีอยุธยาจากตำนานท้าวอู่ทอง เรื่องเล่าที่แสดงให้เห็นถึงการผสมผสานทางเชื้อชาติและวัฒนธรรม

ห้องที่ 7: สยามประเทศ (Siam) กรุงศรีอยุธยามีสภาพภูมิศาสตร์ที่เหมาะสม ทั้งยังมีความอุดมสมบูรณ์ทางธรรมชาติและด้วยอำนาจทางการเมืองที่กว้างไกล ทำให้สามารถควบคุมการผลิตภายในราชอาณาจักรได้ นอกจากนี้กรุงศรีอยุธยายังเป็นอาณาจักรที่อยู่ใกล้ทะเล จึงพัฒนาตัวเองขึ้นเป็นศูนย์กลางการค้าทางทะเลของภูมิภาค และสืบเนื่องจากการ ติดต่อค้าขายนี่เอง ที่ทำให้เกิดการผสมผสานระหว่างผู้คนและวัฒนธรรม เกิดเป็นความรุ่งเรืองทางวัฒนธรรมที่ หลากหลายขึ้นในแผ่นดิน ไม่ว่าจะเป็นการเมือง การทหาร ภาษา และสถาปัตยกรรม

ห้องที่ 8: สยามยุทธ์ (The War Room) สงครามในสมัยกรุงศรีอยุธยา มีมูลเหตุใหญ่ๆ คือ ความต้องการแสดง พระองค์ของกษัตริย์ ในฐานะ "พระจักรพรรดิ" เหนือพระเจ้าแผ่นดิน และเพื่อกวาดต้อน "คน" อันเป็นแรงงานและกำลังรบรวมถึงการครอบครองสินค้าสำคัญของรัฐอื่น สงครามจึงไม่ใช่เรื่องของรัฐต่อรัฐ หากเป็นเรื่องของพระมหากษัตริย์รัฐ หนึ่งกับพระมหากษัตริย์อีกรัฐหนึ่ง และนอกจากการสู้รบแล้ว ยังมีการแสดงถึงภูมิปัญญา การวางกลยุทธ์ กลุ่มชาติพันธุ์ และศิลปกรรมอีกด้วย

ห้องที่ 9: แผนที่ความยอกย้อนบนแผ่นกระดาษ (The Map Room) ผืนดินตามธรรมชาติ คงไม่มีเส้นแบ่งใดๆ มาขวางกั้นผู้คน แต่เส้นพรมแดนก็ถูกสร้างขึ้นโดยผู้ล่าอาณานิคมเพื่อแบ่ง "เขา" สร้าง "เรา" และรวมไปถึงการสร้าง "ชาติ" ให้มีตัวตนขึ้นมาจริงๆ มูลเหตุที่ทำให้เกิดการตัดแบ่งชุมชนเชื้อชาติญาติพี่น้องออกจากกัน

ห้องที่ 10: กรุงเทพฯ ภายใต้ฉากอยุธยา (Bangkok: New Ayutthaya) เรื่องราว เมื่อครั้งสิ้นกรุงศรีอยุธยาชาวกรุงศรีฯ ก็สร้างเมืองของพวกเขาขึ้นมาใหม่บนผืนดิน "บางกอก" ซึ่งพวกเขาได้จำลองแนวคิดและสืบสานวัฒนธรรมมาจาเมืองเก่ามากมายอีกทั้งเมื่อเริ่มสร้างกรุงใหม่จึงได้เกณฑ์ผู้คนหลากหลายเชื้อชาติมาช่วยกัน จนเมื่อสร้างเสร็จจึงลงหลักปัก ฐานกลายเป็นชาวกรุงเทพในที่สุด

ห้องที่ 11: ชีวิตนอกกรุงเทพฯ (Village Life) สื่อให้เห็นถึงภูมิปัญญาท้องถิ่นและความฉลาดหลักแหลมไม่ว่าจะเป็น ของเล่นอุปกรณ์การดักสัตว์เครื่องมือทำกิน ความเชื่อ และพิธีกรรมที่แสดงให้เห็นถึงอัจฉริยะแห่งการสร้างสรรค์ และ วิถีเกษตรที่ผูกพันกับชาวสยามมาจนถึงทุกวันนี้

ห้องที่ 12: แปลงโฉมสยามประเทศ (Changes) การติดต่อกับโลกตะวันตก ทำให้เกิดปรากฏการณ์ใหม่ๆ ในสังคมสยามหลายด้าน การเริ่มสร้างถนน ไม่เพียงแต่เปลี่ยนวิธีการคมนาคมเท่านั้น หากยังเปลี่ยนวิถีชีวิตของผู้คนที่คุ้นชินกับ สายน้ำและความแช่มช้า นับจากนี้ ถนนจะเร่งกงล้อแห่งความเปลี่ยนแปลงให้สยามเปลี่ยนโฉมไปตลอดกาล

ห้องที่ 13: กำเนิดประเทศไทย (Politics & Communications) จากสยามทำไมกลายเป็นไทยห้องนี้จะกระตุ้นให้เกิดการค้นหาคำตอบว่า "วันเกิดประเทศไทยคือวันที่เท่าไหร่" และ "กรมโฆษณาการมาเกี่ยวอย่างไร"

ห้องที่ 14: สีสันตะวันตก (Thailand and the World) เป็นห้องที่แสดงให้เห็นถึงประวัติศาสตร์โลกใหม่ที่เกิดขึ้นอย่างมีชีวิตชีวา ภายหลังความบอบช้ำจากสงครามโลกครั้งที่ 2 ในทศวรรษ 1940 เศรษฐกิจที่กำลังรุ่งเรือง ผู้คนยิ้มแย้มแจ่มใสเสียงเพลงแห่งความหวัง และสนุกสนาน กล่อมให้ผู้คนลืมความเจ็บปวดจากสงครามไปได้หมดสิ้น และประเทศไทยก็โกย "ดอลล่าร์" จากการเปิดอ้ารับวัฒนธรรมอเมริกันอย่างเป็นล่ำเป็นสัน

ห้องที่ 15: เมืองไทยวันนี้ (Thailand Today) ผ่านกาลเวลามากว่า 3,000 ปี มีสิ่งใดบ้างที่สืบทอดจากรุ่นสู่รุ่น จนฝังตรึงเป็น "ดีเอ็นเอ" ของความเป็นไทย มีสิ่งดีๆ ใดบ้างที่ยังอยู่กับเรา และมีสิ่งดีๆ ใดบ้างที่หล่นหายไปอย่างน่าเสียดาย ภาวะอันสับสนของคนรุ่นปัจจุบันน่าจะแก้ไขได้ หากทุกคนเรียนรู้ "ความเป็นไทยที่แท้จริง" "ความเป็นไทยที่อยู่บน พื้นฐานของความหลากหลาย" "ความเป็นไทยที่รู้จักเลือกรับและปรับใช้" นั่นคือ การผสมผสานสิ่งดีงามจนกลายเป็น เอกลักษณ์ของเรา

ห้องที่ 16: มองไปข้างหน้า (Thailand Tomorrow) เป็นห้องที่ตอกย้ำว่า "วันพรุ่งนี้ของประเทศไทยจะเป็นเช่นไร คนรุ่นปัจจุบันเท่านั้นที่จะให้คำตอบได้" มิวเซียมสยามเป็นส่วนหนึ่งของพื้นที่บนเกาะรัตนโกสินทร์ชั้นใน อันเป็นเมืองมรดกที่มีชีวิตของไทย และเป็นศูนย์กลางของจิตวิญญาณคนไทย เพื่อสื่อถึงการนำภาพลักษณ์แห่งอดีตมาใช้สื่อถึงอนาคต เราจึงนำเสนอโดยอธิบายลึกลงไปถึงรายละเอียด ผ่านห้องนิทรรศการต่อไปนี้

ห้องที่ 17: ตึกเก่าเล่าเรื่อง (Building Exhibition) ผู้ชมสามารถเรียนรู้ทุกอย่างในมิวเซียมสยาม นับตั้งแต่ความเป็นมาและพัฒนาการของพื้นที่ในบริเวณนี้ แม้กระทั่งตัวอาคารนิทรรศการ เนื่องจากตอนบูรณะ "อาคารสำนักงาน ปลัดกระทรวงพาณิชย์ (เดิม)"ซึ่งสร้างขึ้นในสมัยรัชการที่ 6 เพื่อเป็นอาคารพิพิธภัณฑ์นั้น ได้มีการค้นพบความเก่งกาจ ของสถาปนิกและช่างในสมัยก่อน นอกจากนี้ยังจัดให้มีการขุดค้นทางโบราณคดีในพื้นที่ ซึ่งนำไปสู่การค้นพบรากฐาน ของวังในสมัยรัชการที่ 3 และรัชกาลที่ 5 ทีมงานผู้จัดสร้างพิพิธภัณฑ์จึงอยากชักชวนให้ผู้ชมมาสวมวิญญาณเป็น "นักโบราณคดีสมัครเล่น" และค้นหาอดีตของพื้นที่แห่งนี้

อย่างไรก็ตาม ปัจจุบันมิวเซียมสยามได้ทำการปิดปรับปรุงอาคารชั่วคราว เพื่อเตรียมพัฒนานิทรรศการถาวรชุดใหม่ซึ่งจะมีกำหนดเปิดตัวในช่วงปลายปี 2560 ทั้งนี้ สำหรับประชาชนที่ยังไม่มีโอกาสได้ไปสัมผัสกับนิทรรศการถาวรชุดเก่า "เรียงความประเทศไทย" ก็สามารถเข้าไปเที่ยวชมนิทรรศการดังกล่าวได้ใน "ระบบพิพิธภัณฑ์เสมือนจริง (Virtual Museum)" ของมิวเซียมสยามที่ www.museumsiam.org/virtualexhibition/accountofthailand โดยในอนาคตจะมีการนำนิทรรศการชั่วคราวที่เคยจัดแสดง ณ มิวเซียมสยาม มาจัดแสดงเพิ่มเติมในระบบดังกล่าวต่อไป

สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่หมายเลขโทรศัพท์ 02-225-2777 หรือwww.facebook.com/museumsiamfan

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๑๗ พ.ค. สุรีย์พร คลินิก เปิดตัวตึกสูงที่สุดแห่งวงการคลินิกสถาบันเสริมความงาม ฉลอง 20 ปีความสำเร็จพร้อมยกระดับชูเทคโนโลยีล้ำสมัย Volformer
๑๗ พ.ค. ปตท.สผ. จัดงานประชุม SSHE Forum 2024 ส่งเสริมวัฒนธรรมความปลอดภัยในการทำงาน
๑๗ พ.ค. บมจ. เอสไอเอส ดิสทริบิวชั่น (ประเทศไทย) แนะนำ ชุดล็อคประตูกลอนแม่เหล็กไฟฟ้า จากแบรนด์ HIP
๑๗ พ.ค. ซัมซุง อัปเกรดประสบการณ์การชมทุกมหรรมกีฬา ด้วยนวัตกรรม AI TV สุดล้ำ ชัดทุกแมตซ์เหมือนเชียร์ติดขอบสนาม
๑๗ พ.ค. ไทยพาณิชย์ปักหมุดผู้นำดิจิทัลแบงก์ นำ AI เสริมแกร่ง 360 องศา เปิด 3 นวัตกรรม AI ครั้งแรก! สร้างปรากฏการณ์ใหม่กลุ่มสินเชื่อรายย่อย และ Digital
๑๗ พ.ค. หัวใจเต้นช้า โรคหัวใจที่มักถูกมองข้าม
๑๗ พ.ค. DDD โชว์งบ Q1/67 กวาดกำไรทะยาน 317% YoY พร้อมลุยขยายตลาดสินค้าไลฟ์สไตล์ อัพผลงานปีนี้โตสวย
๑๗ พ.ค. PCC เปิดงบ Q1/67 รายได้โต 14.25% ยอดขายสินค้าหม้อแปลงไฟฟ้า - อุปกรณ์ระบบโครงข่ายไฟฟ้าอัจฉริยะ เพิ่มขึ้น มั่นใจรายได้ปีนี้โต 10%
๑๗ พ.ค. บางจากฯ สานต่อพันธกิจสนับสนุนด้านกีฬาอย่างเป็นมิตรต่อโลก ร่วมจัดกิจกรรมเดิน-วิ่ง Olympic Day 2024 Together, For A Better
๑๗ พ.ค. บัตรเครดิต ttb ช้อปคุ้ม อิ่มครบ ได้มากกว่า รับ Magic Gift Voucher รวมมูลค่าสูงสุด 1,500 บาท ที่ศูนย์การค้าเซ็นทรัลทั้ง 5