นางสาววิภารัตน์ เสร็จกิจ Deputy Managing Director, Product Management บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนรวม บัวหลวง จำกัด (กองทุนบัวหลวง) เปิดเผยว่า กองทุนผสมบีซีเนียร์เพื่อวัยเกษียณ (B-SENIOR) ได้รับอนุมัติเพิ่มทุนจากสำนักงาน ก.ล.ต. อีก 10,000 ล้านบาท เป็น 20,000 ล้านบาท เป็นที่เรียบร้อยแล้ว เมื่อวันที่ 22 กุมภาพันธ์ 2560 ที่ผ่านมา หลังจากปี 2559 ที่ผ่านมา กองทุนได้รับความนิยมจากผู้ลงทุนจำนวนมาก ทำให้ขนาดกองทุนเติบโตขึ้นอย่างรวดเร็ว จาก 1,334 ล้านบาท เมื่อต้นปี 2559 กลายเป็น 7,889 ล้านบาทตอนสิ้นปี 2559 และเพิ่มขึ้นต่อเนื่องทะลุ 10,000 ล้านบาท ในเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา
"กองทุนบีซีเนียร์ เป็นกองทุนผสมที่เน้นการลงทุนในตราสารหนี้ ได้รับการออกแบบขึ้นมาเพื่อเป็นทางเลือกการลงทุนของผู้เกษียณ โดยผู้จัดการกองทุนจะนำเงินส่วนใหญ่ไปลงทุนตราสารหนี้คุณภาพ เพื่อสร้างความมั่นคงให้กับพอร์ตการลงทุน แต่ขณะเดียวกันก็นำเงินส่วนหนึ่ง ไปลงทุนในหุ้นคุณภาพ กองทุนอสังหาริมทรัพย์ หรือ REITทั้งในและต่างประเทศ หรือแม้แต่ทองคำในจังหวะที่เหมาะสม เพื่อแสวงหาผลตอบแทนส่วนเพิ่ม เพื่อให้ผลตอบแทนโดยรวมของกองทุนมีโอกาสชนะเงินเฟ้อ ซึ่งเป็นเป้าหมายสำคัญของการออมในวัยเกษียณ" นางสาววิภารัตน์ กล่าว
เมื่อวันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2560 กองทุนบีซีเนียร์ให้ผลตอบแทนย้อนหลัง (โดยเทียบกับเกณฑ์มาตรฐานในวงเล็บ) ระยะเวลา 3 เดือน เท่ากับ 0.59% (1.08%) ตามช่วงเวลา ระยะเวลา 6 เดือน เท่ากับ 1.25% (0.52%)ตามช่วงเวลา ระยะเวลา 1 ปี เท่ากับ 5.75% (4.68%) ต่อปี ระยะเวลา 3 ปี เท่ากับ 4.59% (2.95%) ต่อปี และตั้งแต่จัดตั้งกองทุน เท่ากับ 4.19% (2.32%) ต่อปี
ผู้สนใจสามารถสอบถามข้อมูลได้ที่กองทุนบัวหลวง 0 2674 6488 กด 8 หรือตัวแทนขาย ได้แก่ สาขาธนาคารกรุงเทพ ตัวแทนขายหน่วยลงทุนของบริษัทกรุงเทพประกันชีวิต บริษัทหลักทรัพย์บัวหลวง และ บริษัทหลักทรัพย์โนมูระ พัฒนสิน
ผู้ลงทุนต้องทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทน และความเสี่ยง ก่อนตัดสินใจลงทุน
ผลการดำเนินงานในอดีตของกองทุนมิได้เป็นเครื่องยืนยันถึงผลการดำเนินงานในอนาคต