'ซีพีเอฟ อิ่ม สุข ปลูกอนาคต' ต่อยอดโอกาสสู่เยาวชนไทย ส่งเสริม ร.ร.บ้านใหม่สำโรง สร้างอาหารยั่งยืน

จันทร์ ๒๗ มีนาคม ๒๐๑๗ ๑๓:๑๕
การสร้างโอกาสในการศึกษาทั้งในและนอกห้องเรียน ถือเป็นการปูพื้นฐานที่ยั่งยืนสู่เยาวชน ซึ่งเป็นกำลังสำคัญในการพัฒนาประเทศชาติ ขณะเดียวกันการส่งเสริมให้เยาวชนเข้าถึงอาหารที่เพียงพอ ถูกหลักโภชนาการ และสนับสนุนให้สถานศึกษาเป็นแหล่งเรียนรู้และฝึกทักษะอาชีพ ก็เป็นเรื่องที่มีความสำคัญไม่แพ้กัน ประเด็นเหล่านี้ บริษัทเจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) หรือซีพีเอฟ เล็งเห็นความสำคัญผ่านการดำเนินโครงการ 'ซีพีเอฟ อิ่ม สุข ปลูกอนาคต' มาตั้งแต่ปี 2558

จนถึงวันนี้ ความสำเร็จจากโครงการ 'ซีพีเอฟ อิ่ม สุข ปลูกอนาคต ' เห็นผลชัดเจนแล้ว หนึ่งในตัวอย่าง คือ 'ด.ช.ไชยวัฒน์ ก้อนสูงเนิน' หรือน้องมายด์ นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 โรงเรียนบ้านใหม่สำโรง อ.สีคิ้ว จ.นครราชสีมา ใช้โอกาสจากการฝึกปฏิบัติและเรียนรู้นอกห้องเรียน ในกิจกรรมของโครงการ "อิ่ม สุข ปลูกอนาคต" นำมาสร้างอาชีพ สร้างรายได้พิเศษสู่การพึ่งพาตนเอง

น้องมายด์ เรียนรู้เรื่องการเพาะเห็ดภูฐาน กิจกรรมของโครงการอิ่ม สุข ปลูกอนาคต ตั้งแต่ศึกษาอยู่ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 โดยมีวิทยากรจากวิทยาลัยเกษตรและเทคโนโลยีนครราชสีมา มาให้ความรู้เกี่ยวกับการผสมเห็ด ทำก้อนเชื้อเห็ด การนึ่งก้อนเชื้อเห็ด เป็นต้น ด้วยพื้นฐานส่วนตัวที่ชอบเรื่องการเพาะเห็ดอยู่แล้ว น้องมายด์จึงเริ่มศึกษาเรื่องการเพาะเห็ดอย่างจริงจัง ขณะอยู่ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 (ม.1) ได้ซื้อก้อนเชื้อเห็ดจากโรงเรียนไปจำนวน 100 ก้อน ก้อนละ 6 บาท รวมเป็น 600 บาท โดยใช้เงินทุนที่ป้าซึ่งมีอาชีพค้าขาย ควักประเป๋าเป็นทุนประเดิมในการซื้อก้อนเชื้อเห็ดให้ เพราะต้องการส่งเสริมให้น้องมายด์มีอาชีพเสริมที่สร้างรายได้พิเศษเพื่อเลี้ยงตัวเอง จากนั้นน้องมายด์ก็ลงมือสร้างโรงเรือนเพาะเห็ดของตัวเอง จากวัสดุเหลือใช้ที่มีอยู่ที่บ้าน

รายได้ที่ 'น้องมายด์' ได้รับจากการจำหน่ายผลผลิตจากเห็ดนางฟ้าภูฐาน แม้จะไม่ได้มากมายนัก แต่ก็ไม่ใช่เงินน้อยๆ สำหรับนนร. ชั้น ม. 1 ในช่วงนั้นแต่ละวัน น้องมายด์เก็บเห็ดได้เฉลี่ยประมาณ 1 กิโลกรัม ราคากิโลกรัมละ 60 บาท จำหน่ายให้แก่ชาวบ้านที่มาสั่งไว้ จนถึงวันนี้ โรงเพาะเห็ดมีขนาดใหญ่และแข็งแรงขึ้น 'น้องมายด์'เล่าอย่างภาคภูมิใจว่า พี่ๆซีพีเอฟปรับปรุงโรงเรือนเพาะเห็ดให้แข็งแรงกว่าเดิม จึงได้ตัดสินใจซื้อก้อนเชื้อเห็ดมาลงใหม่เพิ่มเป็น 300 ก้อน ทำให้ผลผลิตจากเห็ดนางฟ้าภูฐานที่เก็บได้ทุกวันนี้ วันละ 5 กิโลกรัม ประกอบกับราคาเห็ดสูงขึ้น จึงได้ปรับราคาขายเป็น 70 บาท/ก.ก. แต่ถึงอย่างนั้น ราคาเห็ดที่น้องมายด์ขายก็ยังต่ำกว่าราคาตามท้องตลาดที่ขายอยู่ที่ 80-120 บาทต่อกิโลกรัม

นอกจากเพาะเห็ดแล้ว ยังได้ปลูกผักสวนครัวไว้ที่บ้าน เพื่อใช้เป็นอาหารบริโภคและส่วนที่เหลือที่สามารถจำหน่ายเป็นรายได้ได้อีกช่องทางหนึ่ง ผักที่ปลูกไว้ เช่น ผักบุ้ง ตะไคร้ ผักชี กล้วยน้ำว้า ชมพู่ มะละกอ โดยเฉพาะกล้วยน้ำว้าที่น้องมายด์ปลูกไว้ 15 ต้น มักจะเหลือผลผลิตนำไปขายให้แก่ชาวบ้านในชุมชนเดียวกัน ขายยกเครือ เครือละ 120 บาท โดยเครือหนึ่งตกประมาณ 15 หวี เฉลี่ยแล้วก็ยังราคาต่ำกว่าท้องตลาดซึ่งขายกันที่ 30 บาทต่อหวี

รายได้พิเศษอีกทางหนึ่งของน้องมายด์ มาจากการรับจ้างเป็นแคดดี้ ในวันเสาร์บางสัปดาห์ที่ไม่ได้ติดช่วยกิจกรรมของโรงเรียน เขาเล่าอย่างอารมณ์ดีว่า ถ้าต้องเป็นคิวแรกในการออกรอบ ก็จะต้องไปถึงสนามกอล์ฟตั้งแต่ ตี 5 บางวันใช้เวลาตั้งแต่ 07.00 น. ไปจนถึงบ่าย และในแต่ละครั้งที่ออกรอบจะมีรายได้ประมาณ 500-600 บาท เหลือเวลาในวันอาทิตย์ น้องมายด์ก็จะจัดการกับภารกิจส่วนตัว ซักเสื้อผ้า เพื่อเตรียมตัวมาโรงเรียนในวันจันทร์

หลังจบการศึกษา น้องมายด์ ตั้งใจแล้วว่าเขาจะยังยึดอาชีพเพาะเห็ดเพื่อเป็นรายได้พิเศษ ไม่เพียงเท่านั้น อีกไม่เกิน 1 เดือนจากนี้ไป น้องมายด์เตรียมแผนซื้อพันธุ์เป็ดจากเพื่อนบ้าน เพื่อต่อยอดจากการเพาะเห็ด ปลูกผัก ขยายสู่การเลี้ยงเป็ดซึ่งขณะนี้เขาขุดสระรอไว้เรียบร้อยแล้ว เขาบอกด้วยว่า จะซื้อพ่อพันธุ์เพียง 1 ตัว ตัวเมีย 5 ตัว จากนั้นรอให้มีการขยายพันธุ์ไปเรื่อยๆ เพราะถ้าซื้อเป็ดตัวผู้มาไว้เยอะเกินไป เป็ดก็จะตีกัน มายด์มีความรู้เรื่องการเลี้ยงเป็ดอยู่บ้าง เพราะก่อนที่จะไปรับจ้างเป็นแคดดี้ มายด์ใช้เวลาที่มีอยู่ศึกษาหาความรู้ในเรื่องนี้จากศูนย์การเรียนรู้เศรษฐกิจพอเพียงบ้านดอนวัว ซึ่งอยู่ห่างจากบ้านน้องมายด์ไปเพียง 600 เมตร

'นัฐพงศ์ เถาะสูงเนิน' ผู้อำนวยการโรงเรียนบ้านใหม่สำโรง กล่าวว่า น้องมายด์เป็นหนึ่งในตัวอย่างของนักเรียนที่นำความรู้จากการเพาะเห็ดที่โรงเรียนไปใช้ที่บ้าน โดยสามารถนำก้อนเชื้อเห็ดไปเพาะเพื่อเป็นอาหารบริโภคในครัวเรือน และผลผลิตที่เหลือจากการบริโภคในครัวเรือนแล้ว ก็สามารถนำมาจำหน่ายในตลาดนัดที่อยู่ในชุมชน ถือว่าสิ่งที่โรงเรียนได้รับจากโครงการซีพีเอฟ อิ่ม สุข ปลูกอนาคต ในวันนี้ ทำให้นักเรียนมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น

หลังจากที่เราประสบความสำเร็จจากโครงการเลี้ยงไก่ไข่เพื่ออาหารกลางวัน การเพาะเห็ด สิ่งที่เราจะทำต่อไป เรามีแนวคิดที่ว่าจะปลูกผักปลอดสารพิษเพื่อให้นักเรียนได้บริโภคผักปลอดสารพิษ ผักไฮโดรโปนิคส์ เป็นการลดค่าใช้จ่ายในการซื้อวัตถุดิบมาประกอบอาหารกลางวัน ก็สามารถใช้วัตถุดิบจากในโรงเรียน สิ่งที่ตามมาคือ นักเรียนมีคุณภาพชีวิตที่ดี รู้จักรับผิดชอบ สามารถฝึกอาชีพให้แก่นักเรียนได้ เราได้คิดไปล่วงหน้าว่า การทำกิจกรรมอะไรก็แล้วแต่เพื่อไปสู่ความยั่งยืนต่อไป จำเป็นต้องมีการพัฒนาและสานต่อ ซึ่งปีนี้จะมีนักเรียนชั้น ม.3 ที่จบการศึกษาไป ดังนั้นจึงได้เตรียมสร้างเด็กรุ่นใหม่ๆ ม.1 และ ม.2 ขึ้นมาแทน ได้เรียนรู้จากรุ่นพี่ๆ

'น้องมายด์' เป็นหนึ่งในความสำเร็จที่น่าภาคภูมิใจของโครงการ 'ซีพีเอฟ อิ่ม สุข ปลูกอนาคต' ซึ่งจะเติบโตเป็นเยาวชนคุณภาพที่ยั่งยืนของสังคมไทยต่อไป./

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๑๗ พ.ค. สุรีย์พร คลินิก เปิดตัวตึกสูงที่สุดแห่งวงการคลินิกสถาบันเสริมความงาม ฉลอง 20 ปีความสำเร็จพร้อมยกระดับชูเทคโนโลยีล้ำสมัย Volformer
๑๗ พ.ค. ปตท.สผ. จัดงานประชุม SSHE Forum 2024 ส่งเสริมวัฒนธรรมความปลอดภัยในการทำงาน
๑๗ พ.ค. บมจ. เอสไอเอส ดิสทริบิวชั่น (ประเทศไทย) แนะนำ ชุดล็อคประตูกลอนแม่เหล็กไฟฟ้า จากแบรนด์ HIP
๑๗ พ.ค. ซัมซุง อัปเกรดประสบการณ์การชมทุกมหรรมกีฬา ด้วยนวัตกรรม AI TV สุดล้ำ ชัดทุกแมตซ์เหมือนเชียร์ติดขอบสนาม
๑๗ พ.ค. ไทยพาณิชย์ปักหมุดผู้นำดิจิทัลแบงก์ นำ AI เสริมแกร่ง 360 องศา เปิด 3 นวัตกรรม AI ครั้งแรก! สร้างปรากฏการณ์ใหม่กลุ่มสินเชื่อรายย่อย และ Digital
๑๗ พ.ค. หัวใจเต้นช้า โรคหัวใจที่มักถูกมองข้าม
๑๗ พ.ค. DDD โชว์งบ Q1/67 กวาดกำไรทะยาน 317% YoY พร้อมลุยขยายตลาดสินค้าไลฟ์สไตล์ อัพผลงานปีนี้โตสวย
๑๗ พ.ค. PCC เปิดงบ Q1/67 รายได้โต 14.25% ยอดขายสินค้าหม้อแปลงไฟฟ้า - อุปกรณ์ระบบโครงข่ายไฟฟ้าอัจฉริยะ เพิ่มขึ้น มั่นใจรายได้ปีนี้โต 10%
๑๗ พ.ค. บางจากฯ สานต่อพันธกิจสนับสนุนด้านกีฬาอย่างเป็นมิตรต่อโลก ร่วมจัดกิจกรรมเดิน-วิ่ง Olympic Day 2024 Together, For A Better
๑๗ พ.ค. บัตรเครดิต ttb ช้อปคุ้ม อิ่มครบ ได้มากกว่า รับ Magic Gift Voucher รวมมูลค่าสูงสุด 1,500 บาท ที่ศูนย์การค้าเซ็นทรัลทั้ง 5