กิจกรรมวันที่ 27 มีนาคม ประกอบไปด้วย การเสวนาเรื่อง "โลกยิ่งร้อน คนยิ่งเสี่ยง เร่งปรับตัว" ระหว่างเวลา 09:30น.-10:30น. โดยเป็นการเสวนาแลกเปลี่ยนถึงผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ "ขณะนี้อุณหภูมิเฉลี่ยของโลกสูงกว่าช่วงยุคปฎิวัติอุตสาหกรรมแล้ว 1°C หลายชุมชนกำลังประสบความเสี่ยง โดยเฉพาะชุมชนเกษตร ซึ่งสามารถสังเกตเห็นถึงการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นกับสภาพอากาศ ไม่ว่าจะเป็นฤดูกาลที่มีความคลาดเคลื่อน ไม่สามารถคาดการณ์ได้ดังแต่ก่อน ส่งผลกระทบต่อวิถีชีวิตของชุมชน หลายชุมชนพยายามลดความเสี่ยงและเดินหน้าวางแผนการปรับตัว แต่ถ้าโลกจะยิ่งร้อนขึ้นไปกว่านี้ อุณหภูมิสูงเกินไปกว่า1.5°C ชุมชนก็จะยิ่งเสี่ยงมากขึ้น การปรับตัวของชุมชนก็จะยิ่งยากลำบากมากขึ้น" นายณัฐวุฒิ อุปปะ มูลนิธิคนเพียงไพร กล่าวถึงที่มาของการจัดการเสวนา
นอกจากนี้ ผลกระทบที่กำลังเกิดขึ้นกับพื้นที่ก็มีความเด่นชัดมากขึ้น "พื้นที่เนินมะปรางกำลังประสบกับความเสี่ยงจากสภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลงไป ซึ่งส่งผลกระทบต่อทั้งมะม่วง และ มะปราง ซึ่งเป็นผลผลิตที่สำคัญของชุมชนบริเวณนี้ เราวางแผนปลูกมะม่วง พอถึงช่วงออกดอก ฝนกลับตกลงมา ผลผลิตเราเสียหายหมด" นายอนันต์ วิลัยฤทธิ์ ประธานชมรมพิทักษ์ธรรมชาติกล่าว
ในการเสวนาครั้งนี้ นอกจากการพูดถึงผลกระทบและความเสี่ยงที่เกิดขึ้นแล้ว ยังมีการพูดถึงแนวทางที่ชุมชนพยายามดำเนินการด้วย "เราเห็นความพยายามของหลายชุมชนที่จะลดความเสี่ยง และเดินหน้าวางแผนการปรับตัวไปพร้อมๆกับความพยายามที่จะมีส่วนร่วมเพื่อไม่ให้อุณหภูมิโลกสูงขึ้นไปกว่า 1.5oC ไม่ว่าจะเป็นการดูแลรักษาป่าร่องท่อน การร่วมเรียกร้องให้หยุดการใช้ถ่านหิน หันมาใชัพลังงานหมุนเวียน การร่วมเรียกร้องให้เกิดความเป็นธรรมในการจัดการโลกร้อน การสนับสนุนด้านการเงินเพื่อให้เกิดการลดการปล่อยและการปรับตัวอย่างเร่งด่วน" นายสาคร สงมา ประธาน Climate Watch Thailand กล่าว
การเสวนาในครั้งนี้เป็นการพูดคุยแลกเปลี่ยน เพื่อให้เกิดความเข้าใจเรื่องโลกร้อนและความเชื่อมโยงของโลกร้อนกับสาเหตุหลักคือการใช้ฟอสซิล หากเรายังคงดำเนินการตามแบบปกติ โดยใช้เชื้อเพลิงฟอสซิลอย่างที่เป็นอยู่ โลกเราจะยิ่งเดินหน้าอุณหภูมิโลกไปกว่า 1.5oC ซึ่งความเสี่ยงจะยิ่งสูงขึ้น วิถีชีวิตและการวางแผนปรับตัวของชุมชนก็จะยากลำบากยิ่งขึ้น
หลังจากกิจกรรมเสวนา ประชาชน นักเรียน ได้ร่วมกิจกรรม Break Free "Break Free เป็นกิจกรรมแสดงพลังของคนทั่วโลก ที่กำลังเกิดขึ้นระหว่างวันที่ 12-31มีนาคม 2560 ในการร่วมเรียกร้องเพื่อให้เกิดการหยุดใช้เชื้อเพลิงฟอสซิล หันมาเดินหน้าสู่สังคมที่ขับเคลื่อนด้วยพลังงานหมุนเวียน เพื่อรักษาอุณหภูมิโลกไม่ให้สูงเกิน 1.5°C เป็นการยืนหยัดร่วมกันกับคนทั่วโลกที่กำลังได้รับผลกระทบจากโลกร้อนและเชื้อเพลิงฟอสซิล" นางสาวสุรัจนา กาญจนไพโรจน์ ผู้จัดการฝ่ายเสริมสร้างการมีส่วนร่วมมลชน กรีนพีซ เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ กล่าว" ทั้งนี้ สมาชิกชุมชนกว่า 200 คนจะร่วมเดินมุ่งหน้าไปยังป่าร่องท่อน เพื่อทำแนวกันไฟ รักษาป่าให้เป็นแหล่งดำรงชีพของชุมชนสืบต่อไป พร้อมกับข้อความที่แสดงถึงเจตนารมย์แน่วแน่ More Risks Beyond 1.5oC, BREAK FREE from Fossils หรือ อุณหภูมิยิ่งสูง ชุมชนยิ่งเสี่ยง หยุดฟอสซิล