งานนี้ได้รับเกียรติ พลตำรวจเอก อดุลย์ แสงสิงห์แก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ เป็นประธานเปิดฯ โดยมี ไมตรี อินทุสุต ปลัดกระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์, สมชาย เจริญอำนวยสุข อธิบดีกรมส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการ และ ศุภชัย นิลวรรณ กรรมการผู้อำนวยการกลุ่มธุรกิจเพลง บริษัท อาร์เอส จำกัด (มหาชน)ร่วมจัดงาน
โครงการนี้เปิดรับสมัครตั้งแต่วันที่ 15 มีนาคม 2560 มีผู้สนใจยื่นใบสมัครเข้าร่วมมากกว่า 140 คน และมีผู้ผ่านการคัดเลือกเข้าสู่รอบชิงชนะเลิศ 24 คน โดยมีคณะกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิพิจารณาคัดเลือกผู้ชนะ 5 รางวัล ได้แก่ น้องปุ้ย สัมฤทธิ์ ทานประสิทธิ์ คว้าทั้งรางวัลชนะเลิศควบคู่รางวัลขวัญใจมหาชน ได้รับเงิน 50,000 บาท และ 10,000 บาทตามลำดับ พร้อมรับโล่รางวัลไปครอง แถมได้สิทธิ์ออกซิงเกิ้ลเพลงกับค่ายอาร์สยาม ขณะที่ ศักดิ์ศิลป์ สิงห์บุรมย์ คว้ารางวัลรองชนะเลิศ ได้รับเงิน 30,000 บาท และผู้ที่ได้รางวัลชมเชย 3 รางวัล รับเงินรางวัลละ 20,000 บาท ได้แก่ ฐิติมา มีขุนทด, วุฒิชัย เซิ้งสูงเนิน จันทร กิตติกุล
บรรยากาศภายในงานอบอุ่นและชื่นมื่น ผู้สมัครแต่ละคนต่างโชว์พลังน้ำเสียงสุดยอด ทำเอาสะกดคนทั้งงานไว้อยู่หมัด แม้แต่เน็ตไอดอลอย่างหนุ่ม เบิ้ล ปทุมราช ที่ไปร่วมงานในวันนั้นถึงกับทึ่งในความสามารถ ฟากซุปตาร์นักร้องรุ่นพี่อย่าง กระแต-กระต่าย อาร์สยาม ก็น้ำตาคลอทั้งดีใจและปลื้มใจกับความมุ่งมั่นทุ่มเทของบรรดาผู้สมัคร
พลตำรวจเอก อดุลย์ แสงสิงแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ เผยว่า ขอแสดงความยินดีและเป็นกำลังใจแก่ผู้ที่ได้รับรางวัลทั้ง 5 คน รวมถึงคนพิการทุกคนที่ได้เข้าร่วมโครงการในครั้งนี้ ซึ่งทำให้ได้โอกาสก้าวสู่การเป็นศิลปินนักร้องอาชีพ แสดงให้เห็นถึงความสามารถและศักยภาพการร้องเพลงและดนตรีที่เท่าเทียมกับคนในสังคม จึงขอขอบคุณทุกภาคส่วนที่ร่วมส่งเสริมและพัฒนาศักยภาพคนพิการเหล่านี้ ทำให้ได้อาชีพและรายได้มั่นคงยั่งยืนตามนโยบายของรัฐบาลที่ให้ความสำคัญต่อการพัฒนาคุณภาพชีวิต เพื่อพร้อมออกสู่สังคมได้อย่างภาคภูมิ
น้องปุ้ย สัมฤทธิ์ ทานประสิทธิ์ สาววัย 37 ปี ผู้พิการทางการมองเห็น เธอคว้า 2 รางวัลซ้อน คือ รางวัลชนะเลิศและรางวัลขวัญใจมหาชน เปิดใจให้ฟังว่า บ้านเกิดอยู่จังหวัดชัยภูมิ ปัจจุบันย้ายมาอยู่ย่านบางใหญ่ จังหวัดนนทบุรี รักการร้องเพลง ชื่นชอบดนตรีเป็นชีวิตจิตใจ แม้สายตาจะมองไม่เห็น แต่ก็ไม่เคยย่อท้อ ฝึกซุ่มซ้อมเสียงเรื่อยมาจนทุกวันนี้ทำงานรับจ้างร้องเพลงกับวงตรีไดมอนด์ รู้สึกดีใจมากที่ได้รับถึง 2 รางวัลอันทรงเกียรติ เป็นอีกหนึ่งกำลังใจให้หายเหนื่อยแล้วมีพลังก้าวเดินต่อไป
ได้เห็นความมุมานะพยายามของผู้พิการใจสู้ไม่ย่อท้อต่อโชคชะตา ก็ขอร่วมเป็นกำลังใจให้ได้พบแสงสว่างในหัวใจ พร้อมคว้าความสำเร็จตามที่ฝันเอาไว้