ไทยประกันชีวิตความมั่นคงปึ้ก ฟิทช์ เรทติ้งส์ จัดอันดับความแข็งแกร่งที่ระดับ AAA(tha)

อังคาร ๑๙ ธันวาคม ๒๐๑๗ ๑๘:๔๕
ถือเป็นอันดับเครดิตสูงสุดของไทย เผยจากนโยบายการลงทุนรอบคอบและมีประสิทธิภาพ ช่องทางการขายและพันธมิตรธุรกิจที่เข้มแข็ง

นางวรางค์ ไชยวรรณ กรรมการและรองกรรมการผู้จัดการใหญ่อาวุโส บริษัท ไทยประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ฟิทช์ เรทติ้งส์ (Fitch Ratings) สถาบันจัดอันดับเครดิตทางการเงินระดับโลก ได้ประเมินและจัดอันดับเครดิตทางการเงินของบริษัทฯ ให้มีระดับความแข็งแกร่งทางการเงินสากล (Insurer Financial Strength (IFS)) ที่ระดับ BBB+ และอันดับความแข็งแกร่งทางการเงินภายในประเทศ (National Insurer Financial Strength) ที่ระดับ AAA(tha) โดยมีแนวโน้มอันดับเครดิตมีเสถียรภาพ ซึ่งถือเป็นอันดับเครดิตทางการเงินสูงที่สุดของไทย

ฟิทช์ เรทติ้งส์ ระบุว่า ไทยประกันชีวิตมีการบริหารจัดการเงินกองทุนอยู่ในระดับแข็งแกร่ง ตามแบบประมาณการของ Prism Factor Based Capital Model (Prism FBM) ซึ่งเป็นแบบจำลองที่ฟิทช์ เรทติ้งส์ใช้ประเมินระดับความแข็งแกร่งด้านเงินกองทุน โดยมีสัดส่วนเงินกองทุนต่อเงินกองทุนที่ต้องดำรงตามกฎหมาย (Risk-Based Capital : RBC) อยู่ที่ 314% ซึ่งอยู่ในระดับที่สูงกว่าเกณฑ์ขั้นต่ำ ที่สำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) กำหนดไว้ที่ 140%

ฟิทช์เชื่อว่า ช่องทางการขายของไทยประกันชีวิตจะแข็งแรงขึ้น ทั้งช่องทางตัวแทนขายที่มีขนาดใหญ่และมีความสามารถที่สูงขึ้น รวมทั้งการเติบโตจากช่องทางการขายผ่านเครือข่ายธนาคาร (Bancassurance) และช่องทางการขายอื่นที่ไม่ใช่ช่องทางตัวแทน (Non-Agency) ไทยประกันชีวิตจะมีส่วนแบ่งทางการตลาดของเบี้ยประกันภัยรับรวมที่ 13% ณ ครึ่งปีแรกของปี 2560 ประกอบกับบริษัทฯ ได้รับการสนับสนุนทางด้านเทคนิคและการดำเนินงานจากผู้ถือหุ้น คือ บริษัท เมจิ ยาซึดะ ไลฟ์อินชัวรันส์ จำกัด

ขณะเดียวกัน บริษัทฯ ยังมุ่งเน้นการบริหารทรัพย์สินอย่างรอบคอบ โดยเป็นการลงทุนที่มีความเสี่ยงต่ำและให้ผลตอบแทนคุ้มค่า สัดส่วนการลงทุน ณ สิ้นไตรมาสที่ 1 ปี 2560 การลงทุนส่วนใหญ่เป็นตราสารหนี้รัฐบาลและรัฐวิสาหกิจ สัดส่วนประมาณ 85% ของพอร์ตเงินลงทุนรวม การลงทุนในตราสารทุนเพิ่มขึ้นเป็น 11% ของพอร์ตเงินลงทุนรวม เพื่อชดเชยผลตอบแทนจากการลงทุนที่ลดลงในภาวะอัตราดอกเบี้ยอยู่ในระดับต่ำ

ฟิทช์ เรทติ้งส์ประเมินว่า ไทยประกันชีวิตดำเนินนโยบายการบริหารจัดการสินทรัพย์และหนี้สิน (Asset-Liability Management) ที่เหมาะสม สะท้อนได้จากความแตกต่างด้านระยะเวลาระหว่างสินทรัพย์และหนี้สินที่ปรับตัวลดลง ทั้งนี้ ความสามารถในการทำกำไรของบริษัทฯ ยังทรงตัว โดยอัตราผลตอบแทนของผู้ถือหุ้นเฉลี่ยและอัตราส่วนกำไรก่อนภาษีเงินได้ต่อสินทรัพย์เฉลี่ยสามปี (2558 – 2560) เท่ากับ 13.1% และ 2.3% ประเภทผลิตภัณฑ์ที่มีความหลากหลาย และเบี้ยประกันรับเพิ่มเติมจากช่องทางการขายอื่นที่ไม่ใช่ช่องทางตัวแทน จะช่วยเพิ่มความสามารถในการทำกำไรของบริษัทฯ ในระยะยาวได้

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๑๔:๑๓ ปักหมุดเตรียมจัดใหญ่ 3 งานท่องเที่ยวเชิงไลฟ์สไตล์ กอล์ฟ ดำน้ำ และกิจกรรมกลางแจ้ง
๑๔:๒๕ TNP จัดประชุมสามัญผู้ถือหุ้น ประจำปี 2567 มติที่ประชุมผ่านฉลุย จ่ายปันผล 0.045 บาท ย้ำศักยภาพการเติบโต
๑๔:๐๖ LAMH เปลี่ยนความคิดเป็นความจริง Luxury Atelier Maison Happiness (LAMH) ร่วมมือกับ Shiji เพื่อกำหนดนิยามใหม่ให้กับประสบการณ์สุดเอ็กซ์คลูซีฟ
๑๔:๕๓ Hotel Indigo เตรียมเปิดให้บริการในอภิมหาโครงการของกรุงเทพฯ
๑๔:๐๗ ธ.ทิสโก้ คว้า 2 รางวัลส่งเสริมสุขภาพทางการเงินจากโครงการ Fin. ดี Happy Life
๑๓:๓๘ UBE GROUP ใส่ใจสถาบันครอบครัว จัดเต็มกิจกรรมแรลลี่เสริมความรู้ก่อนเปิดเทอม พร้อมมอบทุนบุตรพนักงาน ต่อยอดเป้าหมายการพัฒนาคนอย่างยั่งยืน
๑๓:๕๐ LEARN คว้ารางวัลเพื่อสังคม Green World Awards 2024 จากโครงการทุนเปลี่ยนชีวิต สนับสนุนทุนการศึกษาให้กับเยาวชนทั่วประเทศ
๑๓:๑๕ NEW Water Glow Extra Lip collection
๑๓:๐๕ 'SCGD x COTTO x PRIME' ร่วมงานระดับโลก Coverings 2024 THE GLOBAL TILE STONE EXPERIENCE รวมพลังขยายโอกาสทางธุรกิจกลุ่ม Decor Surface ใน
๑๓:๕๙ มิชลิน นำเสนอผลิตภัณฑ์ยาง 3 กลุ่มประเภท สำหรับ 'ปอร์เช่ มาคันน์' รถสปอร์ตอเนกประสงค์พลังงานไฟฟ้า 100%